ด้วยสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า ที่อุบัติขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2563 ที่ผ่านมาจนบัดนี้สถานการณ์ในประเทศไทยเริ่มมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น จนผู้คนเริ่มตระหนกและให้ความสำคัญกับการป้องกันตนเองโดยการสวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้านทุกครั้ง เช่นกันวันนี้เราได้เดินทางเข้าเมืองโดยใช้บริการของรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ก่อนออกจากบ้านสิ่งหนึ่งที่ตอนนี้ขาดไม่ได้เลยเสมือนกลายเป็นปัจจัยที่หก คือหน้ากาก นั่นเอง .เครดิตภาพจากผู้เขียน ในแวดวงคนทำงานเป็นลูกจ้างที่ต้องมีประกันสังคม ก็อดที่จะสงสัยไม่ได้เลยว่า สิทธิประกันสังคมจะคุ้มครองผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า อย่างไรบ้าง เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ทางหน้าเวปไซต์ของประกันสังคมได้ออกข่าวเป็นหนังสือแจ้งเรื่อง " โรคโควิด-19 กับสิทธิประกันสังคม " โดยมีรายละเอียดพอจะสรุปออกมาได้ตามนี้ .เครดิตภาพจาก www.sso.go.th - ผู้ประกันตนที่มีอาการป่วยมีไข้ ไอ จาม เจ็บคอ อย่าละเลยให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจ รวมทั้งให้ข้อเท็จจริงเมื่อมีการซักประวัติผู้ประกันตน - ตามสิทธิการรักษาพยาบาลไม่เสียค่าใช้จ่าย - กรณีถ้าตรวจแล้วพบว่าเข้าข่ายติดเชื้อโรค Covid-19 แพทย์จะส่งตรวจเพาะเชื้อในห้องแล็บเพื่อการวิเคราะห์ต่อไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น - แต่ถ้าไม่เข้าข่าย ไม่แนะนำให้ไปขอตรวจเชื้อเอง เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงในการรับเชื้อในโรงพยาบาล - ถ้าผู้ประกันตนไม่สามารถเข้ารักษาพยาบาลได้ตามสิทธิของโรงพยาลที่เลือกไว้ สามารถแจ้งสิทธิประกันสังคมแก่เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลของรัฐเพื่อเบิกจ่ายในกรณีฉุกเฉิน ภายใน 72 ชั่วโมง - หากจำเป็นต้องถูกกักกันเพื่อไม่ให้มีการแพร่เชื้อ ให้แจ้งสิทธิประกันสังคมแก่โรงพยาบาลเพื่อรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่อไป .เครดิตภาพจาก www.sso.go.th หากกรณีผู้ประกันตนจำเป็นต้องเดินทางไปประเทศเสี่ยง อย่าง จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง มาเก๊า เกาหลีใต้ ไต้หวัน สิงคโปร์ อิตาลี อิหร่าน และอเมริกา และเดินทางกลับมาแล้วไม่พบอาการใด ๆ แนะนำว่าควรปฎิบัติตัวดังนี้ 1. ควรหยุดไปทำงาน 14 วัน เฝ้าสังเกตตัวเอง ไม่ใกล้ชิดกับใคร อยู่บ้าน ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ที่สำคัญควรสวมหน้ากากอนามัย 2. รับประทานอาหารปรุงสุก กินร้อน ช้อนกลาง เครดิตภาพโดย RitaE จาก Pixabay 3. ล้างมือบ่อย ๆ ออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน เลี่ยงการอยู่ในที่อับอากาศ 4. ถ้าพบว่ามีไข้ ไอ เจ็บคอ ค่อยไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาต่อไป และสามารถใช้สิทธิประกันสังคมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ .เครดิตภาพโดย jacqueline macou จาก Pixabay ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่สายด่วนประกันสังคม 1506 www.sso.go.th