พูดถึงเรื่องความเชื่อ ออกแนวนี้รับสักนิดนะคะ ที่จริงแล้วตอนแรกฉันเองก็ไม่เคยเชื่อเลยนะคะ ว่าเรื่องการแต่งกายกับความเชื่อจะมาโยงกันได้อย่างไรแต่พอลองมาคิด ๆ ดูอาจจะเป็นเทคนิคทางจิตวิทยาที่ช่วยเรียกความมั่นใจให้เราขึ้นมาได้ เหมือนเป็นสิ่งที่ทำให้เราอุ่นใจ สบายใจ มั่นใจขึ้นมาได้เหมือนกัน อย่างเช่นผู้หญิงคนหนึ่งใส่เสื้อสีแดงแปร๊ดเลยทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นสาวมั่น อีกคนที่มาแนวขรึมด้วยสีดำสนิท อีกคนก็ดูใส ๆ สะอาดสะอาดมากับเสื้อสีขาว หรือคนนั้นก็ดูสดใสด้วยเสื้อเหลืองอร่ามเห็นไหมคะรอตัดสินคนเมื่อเรามองแว๊บแรกจากสีเสื้อเพราะฉะนั้นจะมองข้ามไปไม่ได้เลยว่าสีเสื้อก็เป็นตัวช่วยเสริมบุคลิกให้เราได้แบบง่าย ๆ แล้วเรารู้จักอารมณ์ในใจของคุณในช่วงนั้น มาดูกันเลยค่ะว่าแต่ละสีจะมีอิทธิพลอะไรกับความรู้สึกของเราและผู้พบเห็นได้บ้าง สีฟ้า สีฟ้าเป็นสีที่สดใสสว่างเหมือนท้องฟ้าที่เปิดกว้างคอยให้เราได้ค้นพบอะไรใหม่ๆที่ซ่อนอยู่ การใส่เสื้อผ้าสีฟ้าจะช่วยทำให้คุณดูเด็กลงได้ด้วยนะคะ และสีฟ้ายังเป็นสีที่ช่วยเสริมสร้างจินตนาการใหม่ ๆ ช่วยคุณบรรเจิดไอเดียเจ๋งๆได้ด้วย และข้อดีของสีฟ้าคือช่วยทำให้ใจสงบ ลองนึกภาพเวลาที่เรามองท้องฟ้านิ่ง ๆ ดูสิคะนั่นแหละค่ะสงบแบบนั้นเลย เมื่อใจสงบแล้ว ความมั่นคงก็จะเกิดขึ้นในจิตใจ ความสดใสก็เปิดทาง และช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในตัวเราขึ้นมาให้คนรอบข้างรู้สึกได้อีกด้วย สีน้ำเงิน เข้มขึ้นมาอีกนิดก็ต้องเป็นสีน้ำเงินค่ะ สีน้ำเงินเป็นสีที่แสดงออกถึงความ Art ได้มากที่สุด เพราะเป็นสีที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย จะนั่งขรึมก็ได้ จะเรียบเฉยก็ดี หรือจะดูน่าค้นหาก็ใช่ นอกจากนี้สีน้ำเงินยังเป็นสีที่แสดงออกถึงความทะเยอทะยานในตัวคุณออกมาให้คนอื่นได้เห็นและแฝงไปด้วยลักษณะความเป็นผู้นำนิด ๆ ออกมาด้วยค่ะ สีแดง สีแดงแรงฤทธิ์ เป็นคำแรกที่เรามักใช้แซวเสมอเวลาที่เจอใครใส่เสื้อสีแดงมาให้เห็น ก็เพราะความรู้สึกแรกที่สีแดงเปล่งประกายให้คนรอบข้างได้รู้สึกก็คือความร้อนแรงนี่แหละค่ะ สีแดงเป็นสีที่บ่งบอกถึงพลังที่พร้อมในการเคลื่อนไหวกระตือรือร้น เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น และความเข้มแข็งในตัวบุคคลออกมาได้มากที่สุด และสีแดงยังช่วยสร้างความฮึกเหิม ช่วยกระตุ้นให้บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความคล่องแคล่ว ไม่อืดอาด ยืดยาด ไหนอยากให้รอบข้างสดใสก็ใส่แดงไปเลยค่ะ สีชมพู พอเห็นสีชมพูเมื่อไหร่เราก็มักจะนึกถึงความแบ๊ว ความหวานแหวว ความอ่อนโยนขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เพราะสีชมพูเป็นสีที่มีความละมุนนุ่มสายตา เมื่อมองเห็นทำให้รู้สึกเป็นมิตรและรู้สึกไม่มีพิษภัย ออกแนวใสๆ ดูใจดี ถ้าอยากเพิ่มความหวานให้กับตัวเองดูบ้างลองหาเสื้อผ้าสีชมพูมาใส่ดูสักวัน แล้วคุณจะรู้สึกว่าวันนั้นเราดูซอฟลงจังเลย ดูหวานขึ้นมานิดๆดูเป็นสาวจ๋าขึ้นมาอีกหน่อย นอกจากจะรู้สึกกับตัวเองแล้ว คนรอบข้างที่ได้เห็นเราในมาดสาวสีชมพูก็จะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น อ่อนหวานขึ้นมาด้วยเหมือนกัน สีส้ม สีส้มเป็นสีของความสดใสเหมือนเวลาที่เราได้กินน้ำส้มหรือส้มสดใหม่ ความสดใสร่าเริงของเสื้อผ้าสีส้มก็ทำให้เรารู้สึกแบบนั้นได้เหมือนกันค่ะ และสีส้มยังช่วยสร้างพลังให้เรารู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้นมาได้ด้วย ประมาณว่าลดความเรื่อยเฉื่อยเหนื่อยเหนื่อย ๆ ในตัวเราลงไปได้ ช่วยสร้างพลังและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ให้เราได้คิดและทำโดยไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่เลยล่ะค่ะ สีม่วง สีม่วงใครๆก็ตีความไปว่าเป็นสีแม่ม่าย แต่อย่าคิดมากไปค่ะ จริง ๆ แล้วสีม่วงเป็นสีที่แสดงถึงความลึกลับ น่าค้นหา ดูมีพลังอำนาจอะไรบางอย่างอยู่ในตัว ลองสังเกตดูสิคะ ถ้าเห็นใครใส่เสื้อสีโทนม่วงออกมา เราจะรู้สึกว่าต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่แน่ ๆ หากวันไหนอยากรู้สึกเป็นสาวลึกลับน่าค้นหาดูบ้างลองหยิบเสื้อสีม่วงมาใส่ นอกจากจะสร้างความรู้สึกน่าเกรงขามแล้ว สีง่วงยังช่วยสร้างความสะง่างามและเสริมบุคลิกภาพ และแสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเราออกมาให้เห็นด้วยค่ะ สีเหลือง สีเหลืองเป็นสีแห่งความสว่างจ้าสดใสเหมือนแสงแดดซึ่งก็จะทำให้คนใส่รู้สึกเช่นนั้นได้ด้วยเหมือนกัน เพราะคุณสมบัติของสีเหลืองที่เป็นสีสว่างช่วยให้เราและคนรอบข้างไม่รู้สึกมึนตึง เคร่งเครียด สร้างความสดใสให้กับบรรยากาศที่อึมครึมได้ อีกทั้งสีเหลืองยังเป็นสีที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในการติดต่อสื่อสารด้วย แล้วช่วยเสริมให้ผู้ใส่ดูเป็นคนที่มีความสุข สนุกสนาน ร่าเริงสดใส เหมือนสีเหลืองที่เปล่งประกายนี่ล่ะค่ะ สีเขียว สีเขียวเป็นสีแห่งธรรมชาติ เป็นสีที่มีความสงบและสบายอยู่ในตัว หากวันไหนรู้สึกอยากสงบนิ่ง ขรึม ๆ ดูบ้าง สีเขียวช่วยดึงความนิ่งในตัวคุณออกมาได้ค่ะ และยังช่วยทำให้เรารู้สึกมั่นคงในใจอยู่ลึก ๆ ด้วย เพราะสีเขียวเป็นสีของต้นไม้ใบไม้และเป็นตัวแทนของธรรมชาติ เมื่อเราเอาสีเขียวและความเป็นธรรมชาติมาอยู่ในตัวเราความรู้สึกผ่อนคลายสบายใจก็จะเกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้ใส่และผู้พบเห็นค่ะ สีดำ สีแห่งความเงียบขรึม สงบนิ่งและสุภาพไปในตัว การใส่เสื้อผ้าสีดำช่วยแสดงตัวตนในด้านความหนักแน่น เงียบขรึม และความเข้มแข็งให้กับผู้พบเห็น และยังแถมความน่าเกรงขามเข้าไปนิด ๆ ด้วยค่ะ ถ้าวันไหนอยากรู้สึกเป็นสาวโหดแบบนิ่ง ๆ ดูบ้าง เสื้อผ้าสีดำช่วยได้แน่นอนค่ะ และสีดำยังทำให้เราดูมีเสน่ห์ น่าค้นหา และยังดึงพลังแห่งความลึกลับในตัวคุณออกมาได้เลยค่ะ สีขาว นอกจากสีขาวจะเป็นสีแห่งความบริสุทธิ์แล้ว สีขาวยังเป็นสีที่แสดงถึงความสุภาพ และสง่างามได้ด้วยเหมือนกันค่ะ ความเรียบง่ายของสีขาวทำให้เราสามารถหยิบมาใส่ได้ในทุกสถานการณ์ และยังช่วยให้เรารู้สึกสงบเงียบเรียบง่ายขึ้นได้อย่างประหลาดด้วย สีขาวช่วยสร้างความรู้สึกเรียบร้อย และแสดงถึงความมีรสนิยมเล็ก ๆ ขึ้นมาให้กับผู้พบเห็น หากวันไหนอยากจะมาแนวเรียบหรูดูดี หยิบเสื้อสีขาวสักตัวออกมาใส่ก็ช่วยได้ค่ะ สีนี้ใส่แล้วดี สีใส่แล้วต้องหนีให้ไกล สารพัดความเชื่อเรื่องสีของคนไทย และการสวมใส่เสื้อผ้า คนโบราณมักจะมีความเชื่อในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงเรื่องสีและการแต่งกายด้วยค่ะ เพราะสำหรับคนไทยนั้นมีสีที่เรียกได้ว่าเป็นสีมงคลและสีไม่มงคล ดังที่เรามักเห็นกันตามงานต่าง ๆ ว่างานไหนควรหรือไม่ควรใส่สีอะไร ตามมารยาทและความเชื่อค่ะ อีกทั้งสีบางสีอาจจะดีกับบางคน หรือไม่เป็นมงคลกับหลายคน โดยมีวันเกิดมาเป็นตัวแปรหลักในการตัดสินค่ะ ยกมาให้เห็นเป็นตารางคร่าว ๆ เช็คดูว่าเราเกิดวันไหนสีอะไรใส่แล้วดี สีอะไรที่ต้องหนีบ้างค่ะ วันอาทิตย์ สีที่ดี = สีแดง สีเขียว สีทอง และสีครีม เพราะจะให้ความเป็นมงคลในเรื่องของโชคลาภ = สีฟ้า และสีน้ำเงิน วันจันทร์ สีที่ดี = สีเหลือง สีเหลืองทอง สีไข่ไก่ ส่วนสีม่วงจะช่วยส่งเสริมโชคลาภได้ สีที่ไม่ดี = สีขาวและสีน้ำเงิน วันอังคาร สีที่ดี = สีชมพู สีแดง สีส้ม และสีเขียว สีที่ไม่ดี = สีขาว สีเงิน วันพุธ สีที่ดี = สีเขียวทุกเฉด ทั้งอ่อนและแก่ได้หมดค่ะ สีที่ไม่ดี = สีชมพู และสีม่วงแดง วันพฤหัสบดี สีที่ดี = สีส้ม สีแสด สีทอง สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลแก่ สีที่ไม่ดี = สีดำ สีม่วงคล้ำ หรือสีน้ำเงินเข้ม วันศุกร์ สีที่ดี = สีฟ้า และสีน้ำเงินเข้ม หรือถ้าอยากให้โชคลาภก็ต้องเพิ่มสีชมพู สีน้ำเงิน สีแดง สีเหลืองอ่อน สีขาว สีครีม และสีทอง สีที่ไม่ดี =สีม่วงเข้ม วันเสาร์ สีที่ดี = สีม่วงทุกโทน ถ้าอยากเพิ่มเสน่ห์ก็ใส่สีฟ้า สีน้ำเงินเข้ม หรือ สีชมพูก็ได้ค่ะ สีที่ไม่ดี = สีเขียวทุกเฉด -Photo Pexels- 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ภาพปก