โรงเรียนในฝันของนักเรียนไทยหลายคนเรื่องการเรียนของเด็ก ๆ บ้านเรา มีการพูดถึงกันบ่อย เรามาฟังมุมมองของนักเรียนชั้นมัธยมดูบ้างว่าโรงเรียนในฝันของเขาเป็นอย่างไร ฉันเคยทำธุรกิจโรงเรียนกวดวิชา นักเรียนของโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กชั้นมัธยมปลายมาเรียนพิเศษเพื่อเตรียมสอบในระดับมหาวิทยาลัยมีทั้งหลักสูตรภาษาไทย หลักสูตรอินเตอร์ รวมถึงนักเรียนที่เตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศด้วยงานของฉันคือการให้คำปรึกษาด้านการเรียน รวมทั้งจัดหลักสูตรให้เหมาะสม ลงตัวกับความต้องการของนักเรียนและผู้ปกครอง ทำให้ฉันได้มีโอกาสพูดคุย สัมผัสความคิด ความรู้สึกของเด็ก ๆ เหล่านี้ ซึ่งมาจากครอบครัวที่พ่อแม่เอาใจใส่ หรือบางคนก็ไม่เข้าใจเรื่องการเรียนของลูกแต่อยากให้ลูกเรียนต่อ..ที่นั่น..ที่นี่ ฟังแล้วก็เข้าใจ คุณ ๆ ผู้ปกครองที่อยากให้ลูกได้รับโอกาสดี ๆ ทางการศึกษา แต่บางทีก็เห็นใจเด็ก ๆ ด้วยเช่นกัน ฉันลองสรุปเรื่องที่ได้พูดคุยกับนักเรียนของฉัน ถึงเรื่องการศึกษาในรูปแบบที่เขาต้องการ ก็น่าสนใจดีนะ เด็กรุ่นใหม่เขามีความคิดเป็นของตัวเอง มีมุมมองหลายอย่างน่าสนใจ เรื่องก็มีแบบนี้ค่ะ1. นักเรียนชั้นมัธยมโดยเฉพาะห้อง EP จะบ่นเสมอว่า การบ้านเยอะมาก เรียนหลายวิชามากเกินไป ไม่มีเวลาไปทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ แถมยังต้องไปเรียนพิเศษเพิ่ม เพราะวิชาที่เรียนในโรงเรียน ไม่ตรงกับวิชาที่จะไปสอบเรียนต่อ เช่น นักเรียนที่จะเรียนต่อหลักสูตรนานาชาติ ต้องมาเรียนเสริมวิชาภาษาอังกฤษเพิ่ม2.นักเรียนในห้องเรียนมีเยอะเกินไป เวลาที่ครูสอนแล้วไม่เข้าใจทำให้ไม่กล้าถาม เพราะเกรงใจเพื่อน ๆ หรือไม่ก็เขิน แบบว่าไม่ค่อยมั่นใจ เพราะไม่เห็นมีใครเขาถามกัน3.ไม่ต้องมีหรอกห้องเรียนหลักสูตรไทย ห้อง EP หรือ โรงเรียนนานาชาติ นักเรียนบอกว่าอยากให้เรียนหลักสูตรเดียวกันให้หมดเลย คือ วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ประวัติศาสตร์ ให้สอนเป็นภาษาไทย ส่วนวิชาอื่น ๆ ให้สอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด 4.การบ้านไม่ต้องเยอะแยะขนาดนี้ วิชาที่เรียนขอให้มีน้อยลง แต่ให้มีกิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนมากขึ้น เวลาทำกิจกรรมให้ใช้ภาษาอังกฤษกันไปเลย จะได้ฝึกทักษะการสื่อสารและการทำงานเป็นกลุ่ม5.เรื่องชุดนักเรียน เด็ก ๆ ที่ฉันมีโอกาสพูดคุยด้วยส่วนใหญ่โอเครกับการใส่ชุดนักเรียน ..แต่...ว่าขอเรื่องทรงผม คือขอให้ยืดหยุ่นเรื่องทรงผม สามารถไว้ผมได้หลายแบบหน่อย เพื่อเป็นการเพิ่มสีสันให้กับชีวิตวัยรุ่น ฉันมีตัวอย่างนักเรียนคนหนึ่ง เรียนห้อง EP ชั้น ม.3 จากโรงเรียนเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่ง ชื่อ น้องหนึ่ง หนุ่มน้อยหน้าตี๋สไตล์เกาหลี เรียนเก่ง แต่เป็นเด็กเงียบ ๆ หน้าบึ้ง ๆ ไม่ค่อยพูดกับใคร หน้าตาเหมือนถูกบังคับให้มาเรียนพิเศษ จากการพูดคุยกับน้องหนึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ น้องเขาเครียด น้องหนึ่งบอกว่า “ ผมเบื่อ การบ้านเยอะ แม่ยังให้มาเรียนภาษาอังกฤษอีก ....ครู...ผมอยากไปเรียนที่...ฟินแลนด์ ได้ยินว่าที่นั่นไม่มีการบ้าน” รายนี้แม่ต้องการให้ลูกเรียนต่อชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนนานาชาติ อย่างนี้ก็ต้องติวเข้มภาษาอังกฤษ เข้าใจคุณแม่แต่ก็เห็นใจนักเรียนเช่นกันทั้งหมดที่เล่ามานี้ ต้องบอกว่ามาจากประสบการณ์ พูดคุยกับนักเรียนและผู้ปกครองที่โรงเรียนกวดวิชาของฉัน ซึ่งตอนนี้ก็ปิดต้วลงไปเสียแล้วเพราะผลกระทบแรง ๆ จากโรคโควิด-19 นั่นเอง ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นของนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งสะท้อนความคิดของวัยรุ่น วัยเรียนและการศึกษาของบ้านเรา คุณพ่อคุณแม่ลองหันไปคุยกับลูก ๆ ดูบ้าง...บางทีเด็ก ๆ ก็มีข้อคิดที่น่าสนใจ และจะทำให้เราเข้าใจพวกเขามากขึ้น ปก ภาพประกอบ โดยผู้เขียนติดตามผลงานที่ Youtube สบายจัง Sabaijung Stationอัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !