ผมได้อ่านบทความในเว็บไซด์ของ TIME ซึ่งได้ลงไว้เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2021 ได้รายงานไว้อย่างน่าสนใจว่า การเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างทั่วถึงจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียโดยเร็วที่สุดในปี 2021 ในขณะเดียวกันความล่าช้าในการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงดังตัวอย่างอันเลวร้ายที่เราเห็นในประเทศอินเดียคือตัวขัดขวางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด นี่เป็นทั้งคำสัญญาและคำเตือนจากธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ ADB (Asian Development Bank) ที่ระบุอยู่ในรายงานการประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปี 2021 ในรายงานประเมินว่าเศรษฐกิจของ 46 ประเทศในภูมิภาคไม่รวมญี่ปุ่นและออสเตรเลีย จะมีการเติบโตในปีนี้ 7.3% โดยเฉลี่ย เปรียบเทียบกับประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่ 6.2% และ ยุโรปที่ 3.8% จะเห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจหลังวิกฤตของเอเชียสูงกว่าทั้งสองภูมิภาค ทั้งนี้ ADB ซึ่งถือหุ้นใหญ่โดยญี่ปุ่นและออสเตรเลีย คือองค์กรที่เป็นผู้ลงทุนใหญ่ในโครงการต่างๆเพื่อพัฒนาการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพื่อลดความยากจนในเอเชียแปซิฟิก สถานการณ์ขณะนี้มันคือการแข่งขันกันระหว่างความเร็วและความครอบคลุมทั่วถึงในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่กับตัวแปรใหม่ที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายการติดเชื้อออกไปอีก ถ้าอย่างหลังได้ชัยชนะมันจะฉุดรั้งการฟื้นตัวเศรษฐกิจอย่างค่อนข้างแน่นอน แม้ว่าหลายประเทศในเอเชียจะทำได้ดีในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 แต่สิ่งที่ยังขาดไปคือความสามารถในการจัดหาวัคซีนและการขยายการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมจำนวนประชากรส่วนใหญ่ จากรายงานของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดในโครงการ “Our World in Data” สหรัฐอเมริกาฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสให้กับประชากรของเขาไปแล้วมากกว่า 40% รวมทั้งประเทศในยุโรปหลายประเทศที่มีเปอร์เซ็นต์การฉีดวัคซีนค่อนข้างสูง ส่วนในเอเชียเองประเทศที่มีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ เช่นสิงคโปร์เพิ่งจะฉีดวัคซีนไปได้เพียงประมาณ 20% ของประชากร ในขณะที่ฮ่องกงที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินก็เพิ่งจะฉีดวัคซีนไปได้ไม่เกิน 12% ของประชากร แม้แต่อินเดียเองซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ก็ฉีดวัคซีนไปไม่ถึง 9% ของประชากรทั้งประเทศ ประเทศเกาหลีใต้และอินโดนีเซียก็ฉีดวัคซีนไปได้น้อยกว่า 5% ของจำนวนประชากร แม้แต่ในญี่ปุ่นก็มีการฉีดวัคซีนเข็มแรกไปได้เพียง 2% ซึ่งรวมถึงฟิลิปปินส์และไทยที่กำลังเผชิญกับการระบาดระลอกใหม่อยู่ ปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่และมีความซับซ้อนเนื่องจากปริมาณความต้องการฉีดวัคซีนของประชาชนในประเทศในเอเชียมีมากกว่าปริมาณของวัคซีนที่มีความพร้อมส่งมอบให้ ประเทศอินเดียที่ ADB คาดการว่าจะมีความเติบโตทางเศรษฐกิจ 11% ก็อยู่ในความเสี่ยงที่จะทำไม่ได้อันเนื่องจากปัญหาการระบาดใหญ่ครั้งใหม่ ในประเทศอินเดียมีรายงานว่ามีการติดเชื้อใหม่มากกว่าสามแสนรายในแต่ละวันโดยมีผู้เสียชีวิตต่อวันเกือบสามพันคน แต่เชื่อว่าตัวเลขที่ไม่เป็นทางการจะสูงกว่านี้มาก ประเทศจีนและเวียดนามเป็นสองประเทศที่ได้รับคำชมว่าควบคุมโควิด-19 ได้ดี คาดการว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะสูงกว่า 8% หลังจากเติบโต 2.3% ในปี 2020 ขณะที่หลายประเทศมีความถดถอยลง สำหรับในประเทศไทยเราการระบาดในระลอกใหม่ทำให้มีผู้ติดเชื้อต่อวันสองถึงสามพันคน เรื่องนี้ทำให้เป็นอุปสรรคขัดขวางต่อแผนการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวของรัฐบาล เศรษฐกิจของหลายประเทศในย่านเอเชีย-แปซิฟิกยังต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวมากที่สุด ซึ่ง ADB คาดว่าอย่างเลวร้ายที่สุดการเติบโตทางเศรษฐกิจน่าจะอยู่ที่ 1.4% หลายประเทศรวมทั้งไทยเราตั้งความหวังว่าฟองสบู่ทางการท่องเที่ยวจะเกิดขึ้นได้ใหม่เพราะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการฟื้นฟูประเทศขึ้นได้ หรือว่าประเทศไทยเราจะพึ่งพาเรื่องการท่องเที่ยวมากเกินไปและควรจะเปลี่ยนจุดขายทางเศรษฐกิจเสียใหม่ให้มีความเข้มแข็งกว่าที่เป็นอยู่ ขอบคุณข้อมูลจาก TIME ขอบคุณเครดิตภาพ ภาพปกจาก Burst โดย Pexels (https://www.pexels.com/th-th/photo/374827/) ภาพประกอบ 1 จาก Gustavo โดย Pexels (https://www.pexels.com/th-th/photo/3985170/) ภาพประกอบ 2 จาก Yogendra Singh โดย Pexels (https://www.pexels.com/th-th/photo/1630786/) ภาพประกอบ 3 จาก suzukii xingfu โดย Pexels (https://www.pexels.com/th-th/photo/708764/) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !