การทำเกษตรในปัจจุบันโดยส่วนใหญ่แล้ว เกษตรกรจะมีการนำปุ๋ยเคมีมาใช้มาใช้เพื่อทดแทนปุ๋ยชีวภาพ เนื่องจากสามารถให้ผลผลิตได้สูงและรวดเร็วตามที่เกษตรกรต้องการ แต่หากใช้ปุ๋ยเคมีในปริมาณที่ไม่เหมาะสมก็ย่อมส่งผลเสียในระยะยาวต่อดินเช่นกัน เช่น ทำให้ดินค็มและเสื่อมสภาพ แต่ในขณะเดียวกันผู้คนทั่วโลกก็หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เช่น การเลือกทานอาหารหรือพืชที่มาจากอินทรีย์ไม่ใส่สารเคมี ดังนั้นจึงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้ผลิตอย่างเกษตรกรที่จะต้องเปลี่ยนแปลงวิถีการทำเกษตรแบบเดิม จะทำอย่างไรให้ได้ผลผลิตมากเท่ากับการใส่ปุ๋ยเคมี และถูกใจผู้บริโภค วันนี้ผู้เขียนอยากจะมาแชร์การใช้แหนแดงร่วมกับการปลูกข้าวเพื่อทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีไนโตรเจนค่ะ เนื่องจากข้าวเป็นอาหารหลักที่คนต้องบริโภคทุกวัน และธาตุอาหารหลักที่ใช้ในการปลูกข้าวคือธาตุไนโตรเจน ภาพโดย Pexels จาก Pixabay คุณผู้อ่านเคยรู้จักหรือเห็นแหนแดงกันหรือเปล่าคะ? แหนแดงจะมีลักษณะเหมือนเฟิร์นน้ำขนาดเล็กที่มีสีเขียว (แสดงในรูป) ลอยอยู่บนผิวน้ำ ซึ่งสามารถเลี้ยงให้ขยายพันธุ์ได้ง่าย ๆ เลยค่ะ โดยนำมาเลี้ยงบนดินโคลน เติมน้ำให้ลึกประมาณ 10 เซนติเมตร ใสปุ๋ยคอกเข้าไปเพื่อใช้เป็นอาหารแก่แหนแดง ที่สำคัญควรเลี้ยงในที่ร่มหรือมีแสงรำไรนะคะ หากเลี้ยงตากแดดจะทำให้แหนแดงตายได้ค่ะ ภาพโดยผู้เขียน การขยายพันธุ์แหนแดง ภาพโยผู้เขียน เมื่อแหนแดงขยายพันธุ์มากพอแล้ว สามารถนำไปใส่ในนาข้าวในอัตราส่วน 50-100 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่ หลังจากนั้น 15-30 วัน แหนแดงจะขยายเต็มพื้นที่ แล้วไถกลบวิธีนี้ควรทำก่อนการปักดำข้าวประมาณ 30 วันค่ะ ซึ่งจะทำให้ได้ปริมาณไนโตรเจน 12-25 กิโลกรัมต่อไร่ หรืออีกหนึ่งวิธีคือจะเลี้ยงพร้อมการปักดำเพื่อให้แหนแดงเจริญเติบโตไปพร้อมกับข้าวที่ปักดำไว้ แหนแดงจะทำหน้าที่ตรึงไนโตรเจนให้ข้าวและบดบังแสงจนทำให้วัชพืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ หรือหากมีหญ้าอยู่แล้ว ก็จะทำให้หญ้าตายและกลายเป็นปุ๋ยอีกด้วยค่ะ วิธีการนี้จะให้ปริมาณไนโตรเจนประมาณ 12-20 กิโลกรัมต่อไร่ แหนแดงจึงมีคุณสมบัติเป็นทั้งปุ๋ยสดและปุ๋ยชีวภาพ ภาพโดย Utsman Media on Unsplash สำหรับท่านใดที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญ หรือจะมีประสบการณ์ทางด้านนี้ก็สามารถแชร์ความรู้กันได้นะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรหลาย ๆ ท่านค่ะ ^^ขอขอบคุณข้อมูลจาก สวนเกษตรเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา บรมราชกุมารี (มทส)