ในวิกฤต มีโอกาส แล้วเคยสงสัยไหมคะ แล้ว โอกาส อยู่ตรงไหน ? ทำไมบางคนเจอ ทำไมบางคนไม่เจอ ถ้ามีจริงต้องออกมาให้เห็นกันได้สิ ( ตอนนี้ไม่ใช่คอนเทนต์ ล่าท้าผีนะคะ (▀̿Ĺ̯▀̿ ̿) ) เราสามารถเจอวิกฤตกันได้ทุกเวลาค่ะ ตามแต่ช่วงจังหวะชีวิตของใครของมัน แต่ .. ก็มีบ้างที่ต้องเผชิญสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตร่วมกันทั้งประเทศ เนื้อหาในคอนเทนต์นี้เกิดจากอยากช่วยเหลือในทางที่เราเองสามารถช่วยได้ นอกจากแนวเนื้อหาให้กำลังใจอย่างที่ผ่านมาแล้ว ครั้งนี้เป็นการสรุปและยกกรณีศึกษาของการ หาโอกาสให้เจอในวิกฤต ค่ะ อาจไม่ตรงกับสิ่งที่บางคนเจออยู่ แต่เชื่อว่าสามารถชี้ทางให้เจอโอกาสในจุดที่แต่ละคนยืนอยู่ไม่มากก็น้อยนะคะ ไปหาโอกาสกันเลยค่ะ ภาพประกอบจาก unsplash.com / Picture No.01ในภาคธุรกิจไม่ว่าจะเล็ก หรือใหญ่ ต้องเอาตัวรอดจากวิกฤตให้ได้ ไม่ว่าระยะจะนานเท่าไร ถ้าสามารถทำสภาพคล่องทางการเงินให้ผ่านได้ก็ถือว่ารอด ( แม้ว่าจะผ่านมาแบบเกือบไม่รอด หายใจไม่ทัน สีข้างหายกันไปบ้างก็ตาม ) 1.หารายได้ทดแทน ปรับรูปแบบธุรกิจ : เพื่อให้ธุรกิจมีทางรอดในระยะสั้น หาตลาดใหม่ หรือช่องทางการทำธุรกิจใหม่ ในอนาคตอาจเป็นช่องทางเปิดตลาดใหม่ เป็นช่องทางหารายได้ใหม่ ให้ธุรกิจเติบโตในระยะยาวได้ ในขณะเดียวกันถ้ามองให้ภาพใหญ่และแข็งแรงมากกว่านั้น มองไปถึง Personal Branding ที่จะปรากฎขึ้นและเป็นภาพชินตากับผู้บริโภคให้เป็นที่จดจำได้ อาจไม่จำเป็นว่าต้องออกเป็นสินค้าก็ได้ แต่ .. อาจสื่อสารถึงผู้บริโภคในคาแรคเตอร์ที่ต้องการให้จำ เช่น บริษัทน้ำอัดลมสีดำ ไม่ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ใด ๆ แต่ประกาศว่า นำงบส่วนโฆษณามาช่วยเหลือวิกฤตที่เกิดขึ้นแทน ได้ใจผู้บริโภคไปเต็ม ๆ ดูใจดี อบอุ่น เป็นครอบครัวเหมือนที่แบรนด์นี้มักสื่อสารออกมาอยู่เรื่อย ๆ ʕ•ᴥ•ʔ2. ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ใช้เงินให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด : #ของมันต้องมี ไม่จำเป็นอีกต่อไป ในแต่ละวิกฤตเราจะมองเห็นชัดขึ้นว่ารายจ่ายไหนจำเป็น และไม่จำเป็น งบส่วนนี้ทำอะไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ในรูปแบบไหนบ้าง. หรือบางครั้งต้องพูดคุยกับพนักงานเพื่อให้รวมกันอยู่แล้วยังรอด ไม่แยกวงเพื่อให้บริษัทรอดแล้วพนักงานตายสนิท ภาพประกอบจาก unsplash.com / Picture No.023.ลงพื้นที่ ให้รู้กันไปว่าที่นี่ถิ่นใคร : การมองภาพใหญ่ คิดไกลระดับมหภาค มหึมา เป็นสิ่งที่ดี แต่ในวิกฤตหรือวันที่เกิดปัญหา ลองใช้วิธีมองแบบจุลภาค แบบระดับท้องถิ่นดูบ้าง มองการตลาดแบบ Hyperlocal Marketing : การตลาดแบบเจาะพื้นที่ ยังมีข้อมูลในผู้คนระดับพื้นฐาน ที่เราอาจมองข้ามไป เราอาจจับจ้องแต่สิ่งที่เป็นตลาดใหญ่ ลองบิดมุมมองดูตลาดที่นอกกระแส หลุดทางสว่างของสปอร์ตไลท์ดูบ้าง จะพบว่ามีช่องทางทำเงินอีกมาก ภาพลักษณ์อาจดูไม่เด่นดัง แต่ .. เงินในกระเป๋าตบแล้วดังมากก็พอ ผู้ที่ปรับตัวเท่านั้น จึงจะอยู่รอดหลังจากประสบปัญหา เกิดวิกฤตก็มีหลาย ๆ บริษัทต้องปรับตัวกันเพื่อความอยู่รอดกันหลายรูปแบบ เช่น บางโรงแรมต้องปิดกิจการแล้วเจ้าของโรงแรมมาทำกับข้าวขาย หรือบางโรงแรมให้พนักงานมาทำข้าวกล่องขายในราคาเดียว 80 บาทเป็นเมนูอาหารและวัตถุดิบระดับโรงแรม ปรับหน้าที่อื่น ๆ มาเป็นคนส่งอาหาร รับออเดอร์กันแทน เพื่อนำเงินรายได้ตรงนี้เป็นค่าจ้างพนักงานแบบรายวันให้ยังมีเงินหล่อเลี้ยงตัวเองให้ผ่านวิกฤตไปได้ การปรับรูปแบบธุรกิจจากธุรกิจท่องเที่ยว จากเดิมที่พานักท่องเที่ยวขึ้นรถสามล้อ หรือรถตุ๊ก ตุ๊ก ชมเมือง ส่งทานอาหารร้านขึ้นชื่อ ก็ต้องเปลี่ยนเป็นธุรกิจส่งของ ที่สิ่งของบางอย่าง รถมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ก็ไม่สามารถขนส่งได้เช่น ต้นไม้ หรือของที่ใหญ่เกินกำลังมอเตอร์ไซค์ และไม่สามารถวางในรถเก๋งได้ และอยู่ในระดับราคาที่ไม่ต้องว่าจ้างรถกระบะ รวมทั้งรับ-ส่ง ไปไปรษณีย์ในกรณีที่ไม่สะดวกขนของไปได้เอง พร้อมทั้งปรับหน้าที่พนักงาน โปรแกรมเมอร์มาช่วยแพ็คสินค้า พนักงานบัญชีมาทำหน้าที่แพ็คต้นไม้ลงกระถางภาพประกอบจาก unsplash.com / Picture No.03และในกรณีที่ไม่ได้ปรับธุรกิจ เราอาจต้องปรับแผนการตลาด เข้าถึงลูกค้า เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น เช่นถ้าเราทำธุรกิจร้านอาหารอาจต้องโปรโมตร้านตัวเองในแบบ เข้าถึงมากขึ้นเรียกว่า Direct กันไปเลย แจกใบปลิว มีภาพ มีราคา และเบอร์ติดต่อที่ชัดเจน พร้อมช่องทางการสั่งซื้อ ลงรายละเอียดให้ครบ พร้อมโปรโมชั่น ส่งฟรีในระยะเท่านั้น เท่านี้ แจกตามหมู่บ้าน คอนโด พื้นที่ใกล้เคียงธุรกิจ หรือจะโปรโมตในออนไลน์ก็ได้ ( แต่ .. ต้องยอมรับว่าการแข่งขันจะสูงกว่าแบบออฟไลน์ ) ทำเป็นชุด เป็นเซตให้ลูกค้าไปทำเองที่บ้านก็ได้ พร้อมวิธีการทำ จะเป็นแบบตัวหนังสือ คลิปวีดีโอ ในกลุ่มไลน์ แฟนเพจ หรือลงยูทูบได้ทั้งนั้น นอกจากได้ฐานลูกค้าทั้งระยะสั้น ระยะยาวแล้วยังเป็นการตลาดที่ทำให้ผู้คนเชื่อถือและไว้ใจสินค้าและบริการของเรามากขึ้น ผู้คนจะทำธุรกิจ หรือซื้อกับคนที่รู้จักยังมีอีกหลายรูปแบบการปรับตัวที่ไม่ได้ยกตัวอย่างขึ้นมา คอนเทนต์นี้เป็นเพียงมุมมองจากคนนอกเท่านั้น ลองมองหาดูก่อนนะคะ ถึงดูเหมือนไม่มีหวังแล้ว แต่ .. ในจุดที่คุณกำลังยืนอยู่ ในสายตาที่เห็นธุรกิจของตัวเองมาตลอด อาจมองเห็นสิ่งที่ตัวเราเองอาจมองข้ามไปก็ได้ อีกประโยคนึงที่อยากฝากไว้คือ ถ้าเราไม่สู้ตอนนี้ ก็ไม่รู้จะสู้ตอนไหนแล้ว ต้องสู้เพื่อรอด ไม่ใช่สู้เพื่อตาย (ง ͠° ͟ل͜ ͡°)ง เป็นกำลังใจให้นะคะ แล้วพบกันในคอนเทนต์ต่อ ๆ ไป สวัสดีค่ะ ติดตาม innobun : YoutubeFacebookBlockditCreator Ture IDอ้างอิง ประชาชาติธุรกิจBrandbuffetThe StandardNuttaputchภาพประกอบ : unsplash.comCover PhotoPicture No.01Picture No.02Picture No.03