เชื่อหรือไม่ว่าคนไทยนั้นรู้จักแม่น้ำเจ้าพระยาเสียจนไม่คิดที่จะสงสัยว่าทําไมแม่น้ำสายนี้จึงมีชื่อว่า “เจ้าพระยา” ครั้นเมื่อเกิดสงสัยกันขึ้นมาก็ไม่รู้จะไปหาคําตอบได้ที่ไหน วันนี้เราจึงขออาสามาเล่าถึงประวัติความเป็นมาของแม่น้ำเจ้าพระยาในหัวข้อเรื่อง ไขข้อข้องใจ..ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน !!! ทำไมถึงเรียกว่า "แม่น้ำเจ้าพระยา" ให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้ทราบกันคะว่าแต่จะมีความเป็นมาอย่างไรบ้างนั้นเรามาเริ่มกันเลยจ้ะ ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นแม่น้ำเจ้าพระยายังไม่มีบันทึกว่าชื่ออะไรและปากแม่น้ำก็ยังไม่ได้ยื่นไปไกลเหมือนในปัจจุบันในยุคนั้นปากแม่น้ำอยู่แค่แถว ๆ คลองสำโรงและในคราวที่ขุดลอกคลองสำโรงกับคลองทับนาชาวบ้านก็บังเอิญพบเทวรูปศิลปะเขมร 2 องค์ ภาษาเขมรเรียกเทวรูปนี้ว่า “กัมรเตง” แต่ชาวสยามเรียกเพี้ยนเป็นพระประแดง ต่อมามีการสร้างศาลเพื่อบูชาเทวรูปดังกล่าวชุมชนริมน้ำแห่งนี้จึงถูกเรียกว่าเมืองพระประแดงและปากแม่น้ำก็ถูกเรียกว่าปากน้ำพระประแดง ต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายเกิดแผ่นดินงอกขึ้นใหม่ ณ บริเวณจังหวัดสมุทรปราการในปัจจุบันปากแม่น้ำก็เคลื่อนลงไปชาวบ้านที่ลงไปสร้างชุมชนที่แผ่นดินใหม่นี้ก็ได้ยึดถือเอากัมรเตงหรือเทวรูปที่เคารพนับถือไปตั้งเป็นชื่อชุมชนแต่คราวนี้ได้เปลี่ยนจากภาษาเขมรมาเป็นภาษาไทยว่า “บางเจ้าพระยา” นักประวัติศาสตร์ค่อนข้างสรุปตรงกันว่าคำว่าเจ้าพระยาในยุคนั้นหมายถึงเทวรูปไม่ได้หมายถึงบรรดาศักดิ์ของขุนนางแต่อย่างใด เมื่อเกิดแผ่นดินใหม่และปากน้ำใหม่ที่บางน้ำเจ้าพระยา ก็ทำให้จากเดิมที่เคยเรียกว่าปากน้ำพระประแดงเปลี่ยนมาเรียกใหม่ว่า “ปากแม่น้ำบางเจ้าพระยา” ในสมัยรัชกาลที่ 2 บางเจ้าพระยาถูกสร้างให้เป็นเมืองรับข้าศึกทางทะเลและได้ชื่อใหม่ว่า “สมุทรปราการ” นับตั้งแต่นั้นมาชื่อของบางเจ้าพระยาก็ค่อย ๆ เลือนหายไป คำว่าปากแม่น้ำบางเจ้าพระยาก็กล่อนเหลือ “ปากน้ำเจ้าพระยา” และกลายมาเป็นชื่อขอแม่น้ำทั้งสายว่า “แม่น้ำเจ้าพระยา” นับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 และนี่ก็คือที่มาของชื่อ “แม่น้ำเจ้าพระยา” หากถ้าเพื่อน ๆ คนไหนยังไขข้อสงสัยไม่กระจ่างก็สามารถไปค้นหาดูข้อมูลเพิ่มเติมใน Google ได้นะคะ สำหรับวันนี้เราก็ขอลาเพื่อน ๆ ไปก่อนไว้เจอกันใหม่บทความหน้านะ แหล่งที่มาภาพ หอจดหมายเหตุฯ 1 หอจดหมายเหตุฯ 2 หอจดหมายเหตุฯ 3