ไจแอนท์สคอสเวย์ (Giant's Causeway) เส้นทางเดินของยักษ์ ไจแอนท์สคอสเวย์ (Giant's Causeway) อยู่ที่เมืองบุชมิลส์ (Bushmills) เขตปกครองแอนทริม (Antrim) ประเทศไอร์แลนด์เหนือ สหราชอาณาจักร มีสภาพภูมิประเทศเป็นแนวแท่งหินบะซอลต์ กว่า 40,000 แท่ง ยื่นออกไปในมหาสมุทรแอตแลนติก และตามแนวชายฝั่งของที่ราบสูงแอนทริม เสาหินแต่ละแท่งมีความสูงลดหลั่นกันไปบางแท่งสูงถึง 12 เมตร ขนาดกว้างเฉลี่ย 46 ซม. ลักษณะตั้งแต่ 3 เหลี่ยมไปจนถึง 12 เหลี่ยม ไจแอนท์สคอสเวย์ (Giant's Causeway) เป็นทางเดินหินเลียบชายฝั่งจับกลุ่มกันเป็นหาดธรรมชาติจำนวน 3 หาด ได้แก่ หาดทางเดินขนาดใหญ่, หาดทางเดินขนาดกลาง และหาดทางเดินขนาดเล็ก โดยมีจุดชมทิวทัศน์ที่มีชื่อเรียกต่างกันตามรูปทรงหินและตำนานยักษ์ของไอร์แลนด์ เช่น Giant’s Boot, The Wishing Chair, The Camel, Giant’s Granny และ The Organ (รูปร่างเหมือนปล่องออร์แกนในโบสถ์สูง 12 เมตร) สาเหตุที่ทำให้ไจแอนท์สคอสเวย์ (Giant's Causeway) เกิดเป็นรูปทรงเรขาคณิตสมมาตร เนื่องจากประมาณ 60 ล้านปีก่อน ภูเขาไฟในบริเวณนี้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง แล้วลาวาที่มีเนื้อหินบะซอลต์เกิดเย็นตัวลงด้วยการระบายความร้อนออกและมีการหดตัวของลาวาอย่างต่อเนื่องด้วยแรงที่กระจายเท่าๆ กันทั้งพื้นผิว จึงเกิดการแตกร้าวเป็นรูปทรงเรขาคณิต จนดูเสมือนเป็นเส้นทางเดินของยักษ์ ไจแอนท์สคอสเวย์ (Giant's Causeway) มีตำนานของชาวไอริชเล่าสืบต่อกันมาว่า ยักษ์ไอร์แลนด์ ชื่อ Finn MacCool ต้องการต่อสู้กับยักษ์สกอตแลนด์ แต่ไม่มีเรือลำใดที่มีขนาดใหญ่เพียงพอจะอาศัยข้ามทะเลไปได้ ยักษ์ไอร์แลนด์จึงใช้เสาหินขนาดใหญ่จำนวนมากสร้างเป็นทางข้ามทะเล จนเป็นที่มาของชื่อ ไจแอนท์สคอสเวย์ (Giant's Causeway) ซึ่งหมายถึง “ทางเดินของยักษ์” เมื่อปี พ.ศ. 2505 บิชอปแห่งเดอร์รี เป็นผู้ค้นพบ ไจแอนท์สคอสเวย์ (Giant's Causeway) ต่อมาในปี พ.ศ. 2506 เซอร์ริชาร์ด บลุ๊กเคลย์ แห่งวิทยาลัยทรินิตี้ เมืองดับลิน ได้เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ และเผยแพร่ข่าวลงในหนังสือพิมพ์ Royal Society จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2529 ไจแอนท์สคอสเวย์ (Giant's Causeway) ได้รับเลือกจากองค์กรยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ และมีการจัดตั้งศูนย์นักท่องเที่ยวไจแอนท์สคอสเวย์ เพื่อให้บริการข้อมูล, ร้านค้า, ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนสถานที่แห่งนี้หลายแสนคน อีกทั้งยังมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับข้อมูลทางธรรมชาติและตำนานท้องถิ่น สภาพอากาศบริเวณชายฝั่งของไอร์แลนด์เหนือจะเปลี่ยนแปลงค่อนข้างรวดเร็ว ผู้มาเยือนควรเตรียมเสื้อผ้าที่ช่วยให้อบอุ่นและกันลมได้มาด้วยครับPhoto from pixabay รูปภาพที่ 1/ รูปภาพที่ 2/ รูปภาพที่ 3/ รูปภาพที่ 4