สวัสดีค่ะ วันนี้สี่ตาพาย้อนอดีตไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอีกครั้งค่ะ หลังจากคืนแรกในญี่ปุ่นสี่ตาไปเยือนผับมาแล้ว เช้าวันใหม่ก็ออกเดินทางไปไหว้พระที่วัดค่ะ เป็นการเยือนที่ต่างกันสุดขั้วเลยใช่ไหมคะ คืนแรกเข้าผับหลังจากหลับก็ไปไหว้พระ สี่ตายังนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มเท่าไรนัก แต่ก็ต้องรีบตื่นแต่เช้า เพราะ 3 หนุ่ม 3 มุม ตื่นกันแล้วเรียบร้อย หลังจากเติมพลังงานให้ท้อง ด้วยอาหารเช้าง่ายๆ ของโรงแรม เราก็ออกเดินทางกันด้วยรถไฟต่อค่ะ สี่ตาชอบระบบการซื้อตั๋วรถไฟในญี่ปุ่น เพราะสามารถซื้อได้กับเครื่องขายตั๋ว มีทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษให้เลือกอ่าน หากงงไม่แน่ใจเรื่องราคาตั๋วก็เลือกราคาต่ำสุดไปก่อน เมื่อไปถึงที่หมาย หากจำนวนเงินที่จ่ายตอนแรกไม่เพียงพอ เราสามารถไปจ่ายเพิ่มได้ทีหลัง ถือว่าเป็นการวางแผนการซื้อตัํวสำหรับคนที่เป็นมือใหม่ไม่รู้ราคาค่าเดินทาง แต่ต้องการเร่งรีบเพื่อรีบขึ้นรถไฟเป็นอย่างมาก หากซื้อตัํวผิดสามารถมาคุยกับเจ้าหน้าที่ที่จุดจำหน่ายตั๋ว เจ้าหน้าที่จะเปลี่ยนตัํวและจัดการเรื่องเงินส่วนต่างให้ ระบบของเขาถูกออกแบบมาดีจริงๆค่ะ พวกเราไปจัดการเรื่องตั๋ว JR Pass (Japan Rail Pass) ที่สถานีโตเกียว ในอดีตนั้น JR Pass ต้องซื้อนอกประเทศญี่ปุ่น สี่ตาซื้อ JR Pass เป็นแพ็คเกจรวมกับตั๋วเครื่องบินของ JAL ก่อนเดินทางบินมาญี่ปุ่น แต่ในปัจจุบันสามารถซื้อ JR Pass ในญี่ปุ่นได้แล้วค่ะ โดยมีกำหนดการขายถึงเดือนมีนาคม ค.ศ. 2022 หรือปีหน้านั่นเอง จะมีการขยายเวลาออกไปหรือไม่ต้องติดตามดูค่ะ ทั้งนี้ราคา JR Pass หากซื้อนอกประเทศจะถูกกว่าไปซื้อที่ญี่ปุ่น สี่ตาแปะ link ไว้ให้สำหรับผู้อ่านที่ต้องการวางแผน เปลี่ยนจากเที่ยวทิพย์กับสี่ตา แล้วไปเยือนเจแปนจริงๆ เมื่อมีโอกาสเหมาะๆ ลายแทง JR Pass >>>> https://japanrailpass.net/ การใช้ JR Pass มีข้อดีคือ ประหยัดค่าเดินทางได้มากหากวางแผนไปเที่ยวหลายๆเมือง แล JR Pass ใช้ได้เฉพาะ tourist visa ค่ะ visa อื่นหมดสิทธิ์ หลังจากจัดการเรื่องตั๋วเรียบร้อย สี่ตากับ 3 หนุ่มก็มาเตรียมตัวขึ้นรถไฟไปที่เมือง Kamakura เสียงรถไฟมาแล้ว สี่ตาก้มหน้าดูสายรัดบอกเวลาที่ข้อมือ โอ้ ! ช่างตรงเวลาเสียนี่กะไร เพื่อนชาวญี่ปุ่นเคยบอกสี่ตาว่า เขาภูมิใจมากๆ ที่ประเทศของเขามีรถไฟที่ตรงเวลา แถมเล่าต่อว่า รถไฟจะไม่ตรงเวลาก็ต่อเมื่อ เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เช่น การปลิดชีพโดยให้รถไฟชน พวกเราก้าวขึ้นรถไฟ พี่หนุ่มใหญ่เล่าว่า เช้าวันเสาร์คนไม่แน่นวุ่นวายมากนัก หากเป็นวันธรรมดาผู้คนบนรถไฟจะอัดกันแน่น ใครอยากขึ้นรถไฟต้องออกแรงเบียดหน่อย ไม่เช่นนั้นไม่ได้ไปแน่ๆ Kamakura หรือ คามาคุระ เป็นเมืองที่มีสถานที่หลายแห่งที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น สถานที่แรกในเมืองคามุระที่สี่ตาและ 3 หนุ่ม เข้าเยี่ยมชมคือ Kotokuin Temple หรือ วัดโคะโตะคุอิน ค่ะ เมื่อมาถึงวัดเราต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 200 เยน ปัจจุบันก็ยังคงราคานี้ไว้ ก่อนเข้าวัดที่ญี่ปุ่นจะมีจุดที่เป็นอ่างน้ำเล็กๆ มีที่ตักน้ำคล้ายๆ กระบวยในบ้านเรา ผู้คนจะไปหยุดกันที่จุดนี้ ตามประเพณีปฏิบัติของชาวญี่ปุ่น จะมีการชำระล้างจิตใจให้สะอาด ก่อนที่จะเข้าไปไหว้พระในวัด ขั้นตอนนี้มีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า Chozu อ่างที่ใส่น้ำไว้สำหรับการชำระล้างมีชื่อเรียกว่า Chozuya การชำระล้างหากทำให้ถูกมีขั้นตอนกระบวนการพอสมควร เริ่มตั้งแต่ ตักน้ำมาชำระล้างมือซ้าย ตักน้ำมาชำระล้างมือขวา ล้างปาก การล้างปากนั้นไม่ใช่ตักน้ำมาใส่ปากโดยตรงจากที่ตักนะคะ ต้องตักน้ำมาใส่มือ แล้วเอาปากของเรานำน้ำจากมือไปล้างปาก สี่ตากับ 3 หนุ่ม ล้างแค่มือกันค่ะ ล้างเสร็จแล้ว การวางที่ตักน้ำต้องวางคว่ำด้วยนะคะ ตามในรูปภาพเลยค่ะ ที่ Kotokuin Temple มีชื่อเสียงเลื่องลือเกี่ยวกับ Daibutsu ซึ่งหมายถึงพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ตั้งอยู่ในวัดแห่งนี้ ความสูงขององค์พระนั้น สูงถึง 11.31 เมตร ไม่รวมส่วนฐาน น้ำหนักรวมมากถึงประมาณ 121 ตัน เลยค่ะ เดิมทีองค์พระใหญ่นี้อยู่ภายในตัวศาลาวัด แต่เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีภัยธรรมชาติค่อนข้างเยอะ ทั้งใต้ฝุ่นและ Tsunami ตัวศาลาวัดจึงถูกทำลายไปด้วยภัยธรรมชาติ เหลือเพียงองค์พระใหญ่ที่ยังคงเป็นที่ ที่ให้ผู้คนไปสักการะขอพร องค๋พระใหญ่ Daibutsu ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1252 มาถึงปัจจุบัน มีอายุหลายร้อยปีเลยค่ะ บ่งบอกว่าวัสดุที่นำมาสร้างองค์พระใหญ่นั้นต้องเป็นวัสดุที่ดีมากๆ องค์พระใหญ่แห่งนี้สร้างความศรัทธา และความประทับใจ ต่อผู้คนมากมายทั้งในประเทศและนอกประเทศ จึงมีผู้คนแวะมาเยี่ยมชมอยู่ตลอด กวีชาวอังกฤษชื่อดังอย่าง Rudyard Kliping ก็คงมีความประทับใจเช่นกัน จึงได้เขียนบทกวีชื่อ The Buddha at Kamakura เอาไว้ด้วยค่ะ บริเวณหน้าองค์พระ จะมีถ้วยใหญ่วางอยู่ ชาวญี่ปุ่นบางคนจะนำมือไปสัมผัสกับตัวถ้วยนี้ คงเป็นความเชื่อและความศรัทธาอีกรูปแบบของผู้คนที่นี่ หลังจากที่พวกเราไหว้พระกันเสร็จก็เดินชมบริเวณรอบๆ ที่วัดนี้จะมีหนังสือเกี่ยวกับองค์พระ Daibutsu ไว้ให้สำหรับผู้สนใจได้ซื้อกลับไปอ่านด้วย นอกจากนี้ก็มีเครื่องรางให้เลือกนำติดมือกลับไปด้วยค่ะ วัด Kotokuin เป็นวัดแรกในญี่ปุ่นที่สี่ตาได้มีโอกาสมาเยือน ประทับใจและรู้สึกดีดีมากมายค่ะ หากผู้อ่านสนใจไปเยือนที่แห่งนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ link ข้างล่างนะคะ ลายแทง Daibutsu >>>> city.kamakura.kanagawa.jp เช่นเคยค่ะ สี่ตาหวังว่าผู้อ่าน คงได้ร่วมไหว้พระใหญ่ Daibutsu ไปกับสี่ตานะคะ รอบหน้าสี่ตาจะพาไปชมวัดต่อไป เป็นวัดอะไร มาติดตามอ่านกันนะคะ :) หมายเหตุสำคัญ: รูปภาพทั้งหมดตั้งแต่ปกยันเนื้อหา เป็นรูปภาพของ "สี่ตาพาอ่าน" ผู้เขียนเรื่องราว ทั้งหมดเลยเลยค่ะ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !