ใกล้ปีใหม่อย่างนี้ เป็นโอกาสอันดีที่เราจะเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เปิดรับสิ่งดีๆ ก้าวผ่านวันเวลาที่น่าจดจำเพื่อนำมาปรับใช้เป็นบทเรียนในปีถัดไป และหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยม นอกจากไปนอนกางเต็นท์รับอากาศหนาว หรือ ชวนครอบครัว คนรัก ไปทานข้าว ทานขนมร้านดังแล้ว การชวนกันไปกราบสักการะขอพรพระพุทธรูปที่งดงามด้วยวิจิตรศิลป์ ก็นับเป็นกิจกรรมที่สร้างศิริมงคลแก่ชีวิตไม่น้อย เมื่อภาพตามเว็บไซต์จากมือถือของบุพการีถูกส่งมาให้ดูรีวิวรัวๆ พร้อมการพรีเซนท์ถึงความสวยอลังการที่ในชีวิตต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองให้ได้สักครั้ง ประกอบการเดินทางที่ไม่นานนัก จึงไม่ยากที่จะตัดสินใจ เพียงไม่ถึงสี่ชั่วโมง ยึดเส้นทางเส้นพระรามสอง ขับตาม GPS และป้ายบอกทางไปเป็นระยะ เข้าอ่างทองแวะปั๊มน้ำมันสักนิดเติมพลังให้ทั้งรถทั้งคน ก่อนไปต่อสิงห์บุรี เข้าชัยนาท และ อุทัยธานี (ออกเสียงมิสแกรนด์จะได้อรรถรสมาก) เพราะเมื่อยมากเลยแม่เจ้า! แต่ความเมื่อยล้าเริ่มเปลี่ยนเป็นความสนุก เมื่อขับมาถึงแม่น้ำสะแกกรัง ก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองยังขับไม่ถึงอุทัยธานี ผ่ามมม!!! ฝั่งนี้คือฝั่งชัยนาท และต้องนำรถขึ้นแพข้ามฝั่งไปอุทัยธานี มองชื่อแพเขียนว่า “ศรีประเสริฐ” หาไม่ยากค่ะ เพราะเค้ามีแค่แพเดียว ราคาข้ามฟากเราจำไม่ได้แล้วแต่ไม่แพงค่ะ แลกกับความตื่นเต้นที่เพิ่งเคยนำรถขึ้นเรือครั้งแรก นับว่าคุ้มเกินคุ้ม และรับรองว่าปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นค่ะ เมื่อข้ามฟากมาขับตาม GPS และมองป้ายไปด้วย จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ ไม่เกิน 5 กม.เท่านั้นก็ถึงวัดค่ะ ถ้างงว่าเข้าประตูไหนเพราะมีหลายประตู ขับตามรถทัวร์เลยค่ะ มีทัวร์ลงเป็นระยะ แต่ควรวางแผนเผื่อเวลาดีๆนะคะ เพราะที่นี่มีกำหนดเวลาเข้า อย่างวิหารแก้ว 100 ปีที่ขึ้นชื่อจะเปิด 2 รอบ รอบเช้า 9.00-11.45 น. ถ้าไม่ทันรอเปิดอีกรอบคือ 14.00 น.เลยค่ะ แต่ระว่างนั้นไปเดินดูปราสาททองคำ อีกสถานที่ขึ้นชื่อของวัดนี้พลางๆได้ค่ะ เพราะเปิด 8.00-16.00 น.เลย เมื่อพาครอบครัวเดินผ่านเข้าไปยังวิหาร 100 ปี ทุกคนก็ตะลึงกับความสวยเกินภาพถ่ายรีวิวไหนๆ แบ็คกราวน์สีดำ ตัดด้วยแสงไฟสีทอง ฝั่งหนึ่งเป็นพระพุทธชินราชจำลอง อีกฝั่งหนึ่งคือสังขารที่เค้าว่ากันว่าไม่เน่าเปื่อยขององค์ฤาษีลิงดำ ราวกับกำลังเดินในสวรรค์จำลอง อยากให้เพื่อนๆลองไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง สวยจนละสายตาไม่ได้ทีเดียว วัดจันทาราม เห็นว่าตั้งชื่อตามเจ้าอาวาสรูปแรกและเหมือนจะมีเพียงรูปเดียวของวัด มีอีกชื่อคือวัดท่าซุง เราถามพ่อว่าทำไมเค้าเรียกว่าวัดท่าซุง พ่อบอกประมาณว่าสมัยก่อนเค้าตัดไม้แล้วลอยไม้ตรงแม่น้ำสะแกกรังที่เราข้ามมาเมื่อก่อนหน้า เลยเรียกชื่อนี้มาตั้งแต่สมัยนั้น หลังกราบพระและขอพรแล้ว ก็พากันขับรถไปยังปราสาททองคำ ศิลปะการตกแต่งสวยงามมาก แต่เป็นคนละแนวกับวิหาร 100 ปี ผู้คนนิยมเข้ามาถ่ายรูปเสียมากกว่าค่ะ การมาเยี่ยมชมที่นี่ควรมีรถส่วนตัวนะคะ เพราะพื้นที่ภายในกว้างมาก แต่ถ้าไม่สะดวกหรือมากับทัวร์ ด้านในมีรถรับจ้างอยู่ค่ะ หรือรถรางก็มีบริการเช่นกัน สำหรับเพื่อนๆที่สนใจเดินทางไปสัมผัสความสวยตะลึง แบบแม้ไม่ขอพร แค่เห็นความอลังการก็คุ้มค่า พาใจอิ่มเอมรับปีใหม่แล้ว สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของทางวัดโดยตรงได้เลยค่ะ มีทั้งที่ตั้งวัด บอกวิธีการเดินทางไป รวมถึงกำหนดการต่างๆของทางวัด www.watthasung.com