อื่นๆ

ไปค่ายอาสาได้อะไร EP.3 : โรงเรียนกลางป่าเขา

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ไปค่ายอาสาได้อะไร EP.3 : โรงเรียนกลางป่าเขา

โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เป็นโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลและยากต่อการเข้าถึงเป็นอย่างยิ่ง ที่นั่นมีครูที่เป็นตำรวจตระเวนชายแดนอยู่ไม่กี่ท่าน และพวกเขาเหล่านั้นล้วนต้องทำหน้าที่สอนวนไปทุกชั้นเรียน ทุกวิชา

ไปค่ายครั้งนี้พวกเรารู้ซึ้งถึงความลำบากลำบนกันดี จากประสบการณ์ที่ผ่านมา โรงเรียนห่างไกลน้ำไฟย่อมไม่อุดมสมบูรณ์ เรื่องอาหารการกินนั้นไม่ต้องพูดถึง ข้าพเจ้าไม่คาดหวังว่าจะถูกปากถูกใจเหมือนอาหารที่เคยกินตามปกติวิถี วิธีแก้ปัญหาของพวกเราชาวค่ายก็แค่พกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหลากรสหลายยี่ห้อไปด้วยเท่านั้นเอง

พวกเราขนของออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่ อำเภอไทรโยคอากาศช่างแปรปรวน เข้าป่าอากาศยิ่งปรวนแปร เดี๋ยวแดด เดี๋ยวฝน พอรถแยกจากถนนลาดยางสายหลักเข้าสู่ถนนลูกรัง ผ่านไร่อ้อยดงมัน จนมากันถึงทางแยก เห็นถนนแล้วต้องครุ่นคิด เราต้องเข้าไปอีกไกลแค่ไหนกันนะ ถ้าตอนนี้ฝนกำลังตกล่ะก็ รถสองแถวของพวกเราคงดูไม่จืด

Advertisement

Advertisement

ทางเข้า เดินทางมาถึงโรงเรียนราวๆ เที่ยง เด็กๆ กินข้าวกลางวันกันเรียบร้อยไปแล้ว และยืนเข้าแถวรอต้อนรับพวกเราอยู่ ข้าพเจ้าไม่ทันหยิบอุปกรณ์ใดๆ ขึ้นมาเก็บภาพความประทับใจ มัวแต่โบกมือทักทายน้องๆ

กิจกรรมจัดในโรงอาหารเล็กๆ ของโรงเรียน พวกเราและเด็กๆ ช่วยกันขนของ เสร็จแล้วเด็กๆ นั่งรอให้พวกเราจัดระเบียบ จัดลำโพงขยายเสียงที่พกไปเอง ครั้งนี้อาจารย์ยื่นไมค์โครโฟนให้ข้าพเจ้า บอกให้ข้าพเจ้าสอนเด็กดูเสียบ้าง... อันที่จริงพี่เลี้ยงประจำค่ายอย่างพวกเราก็สอนน้องอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ที่ต้องทำไม่ใช่แค่ไปวาดๆ ระบายๆ กับเด็กเท่านั้น วันนี้ให้พูดว่าเราจะทำอะไรเมื่อไหร่อย่างไร นำเสนอวัสดุอุปกรณ์ ขั้นตอนการทำ

ข้าพเจ้านั่งเรียบเรียงคำพูดอยู่หลังโต๊ะสักครู่จึงเดินออกมาข้างหน้า เริ่มพูดด้วยการกล่าวทักทาย “สวัสดีค่ะน้องๆ ทุกคน” พอพูดจบ ได้รับการตอบกลับมาว่า “สวัสดีครับ/ค่ะ” เท่านั้นแหละค่ะ เกิดอาการช๊อตไมค์ พูดจาไม่รู้เรื่องอีกต่อไป สิ่งที่ท่องจำไว้เมื่อครู่ก็พากันวิบหายไปกับสายฝนหล่นร่วงโปรย

Advertisement

Advertisement

บรรยาย อากาศเย็นๆ พวกเราเพ้นท์กระเป๋าผ้าตามธรรมเนียม เด็กโตสอนกันเข้าใจง่าย ตกบ่ายแก่ๆ ก็ได้เป็นรูปเป็นร่างแล้ว เด็กบางส่วนต้องกลับบ้านเพราะการเดินทางหากมืดค่ำจะไม่สะดวกนัก ฝนยังคงตกปรอยๆ ตลอดเวลา อากาศเย็นฉ่ำ สัญญาณโทรศัพท์ไม่เห็นวี่แวว ว่าแล้วก็ตามเก็บงานเด็กๆ มาช่วยกันซ่อม ให้สวยงาม

เพ้นท์กระเป๋าเพ้นท์กระเป๋าผลงานนน้องๆ ก่อนฟ้ามืดพวกเราย่อมต้องออกสำรวจพื้นที่ บริเวณโรงเรียนมีแปลงเกษตรปลูกผักปลูกฟักข้าว ตอนกลางวันมีเด็กนักเรียนโตลงครัวทำกับข้าวให้เพื่อนและน้องๆ กิน พ้นออกมาจากเขตโรงเรียนก็เจอแม่น้ำน้อยแล้ว แม่น้ำน้อยที่ขนาดไม่น้อยเลย กลางสะพานคือศูนย์รวมสัญญาณโทรศัพท์ที่ดีที่สุด มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซต์มาจอดคุยโทรศัพท์กันอยู่ นั่นรวมไปถึงพวกเราด้วย แม้จะมีฝนตกพรำก็ตาม

สะพาน ขณะที่เพื่อนๆ กินข้าวเย็น ข้าพเจ้าแวบไปอาบน้ำให้เสร็จก่อนฟ้ามืด สารภาพว่ากลัวสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ ในป่าอันห่างไกล อาบน้ำแล้วค่อยกลับมากินข้าวทำงานต่อน่าจะดีกว่า ซ่อมกระเป๋าแล้วเตรียมงานสำหรับพรุ่งนี้เรียบร้อยจึงแยกย้ายกันเข้านอน พื้นห้องเรียนปูกระเบื้องกับคืนฝนพรำใช่ว่าจะนอนหลับลงได้ง่ายๆ หนาวจับใจทีเดียว

Advertisement

Advertisement

วันต่อมาพวกเราเพ้นท์เสื้อ น้องๆ และพี่ๆ มีความสนิทสมกันมากขึ้นแล้ว จึงออกแบบผลงานด้วยกันอย่างสนุกสนาน น้องๆ ตั้งใจทำงานผลออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ ช่วยกันสร้างช่วยกันซ่อม พักกินมื้อเที่ยงฝีมือน้องๆ แล้วทำงานต่อจนบ่ายแก่ จึงเริ่มเคลียร์พื้นที่เก็บข้าวของ ถึงเวลาควรกลับก็จำเป็นต้องกลับ เด็กๆ เก็บผลงานไว้พี่ๆ เก็บความสุขกลับไป พวกเราโบกมือลาแยกย้าย พบกันใหม่ค่ายศิลปะ

เพ้นท์เสื้อ

เพ้นท์เสื้อผลงานนน้องๆบรรยากาศ--------------------------------------------------

ภาพปกโดย  : JD-I ผู้เขียน

ภาพประกอบทั้งหมดโดย  : JD-I ผู้เขียน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์