ถึงฤดูฝนแล้ว เรื่องที่น่ากังวลไม่แพ้น้ำท่วม หรือปัญหาน้ำขังรอระบาย คือ ไฟฟ้ารั่ว หรือเรียกกันสั้น ๆ แบบติดปากว่า ไฟรั่ว นั่นเอง ไฟฟ้ารั่ว หมายถึง การที่ไฟฟ้าได้รั่วไหลออกจากวงจรไฟฟ้าไปที่ผิวของสายไฟฟ้า หรือ โครงของอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้จุดเหล่านั้นมีแรงดันไฟฟ้า ซึ่งหากมีการสัมผัสอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งการเกิดไฟฟ้ารั่ว เกิดจากสายไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ขาดการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้า การใช้งานไม่ถูกต้องหรือไม่ถูกวิธี หรือ การเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้า ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น หากเกิดการรั่วของไฟฟ้า ก็จะไม่สามารถมองเห็นได้ ไม่เหมือนน้ำประปา ซึ่งหากรั่วเรายังสามารถจะมองเห็นได้ว่ามีน้ำซึมหรือขัง ไฟฟ้ารั่วเป็นปัญหาที่อันตรายมาก อันที่จริงแล้วปัญหาเกี่ยวกับไฟฟ้าก็ควรให้ช่างผู้ที่มีความรู้มาจัดการจะเป็นการดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตามเราเองสามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ เพื่อให้ตัวเองและครอบครัวปลอดภัย ไม่เสี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้น สำหรับวิธีตรวจสอบเบื้องต้นว่าบ้านเรามีปัญหาไฟฟ้ารั่วหรือไม่นั้น คือการตรวจสอบจากการหมุนมิเตอร์ ด้วยการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยให้ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในและภายนอกบ้านทั้งหมด โดยยังไม่ต้องนำสะพานไฟลง (คัทเอ้าท์) โดยขั้นตอนนี้อาจจะต้องทิ้งเวลาไว้สัก 1-2 ชั่วโมง เพราะในบางกรณีไฟฟ้าที่รั่วอาจไม่มากนัก หลังจากครบเวลาให้ออกไปตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้า หากเราพบว่ามิเตอร์ยังหมุนอยู่ แสดงว่าระบบไฟฟ้าในบ้านมีไฟฟ้ารั่วอยู่ (ซึ่งการหมุนเร็วหมุนช้าของมิเตอร์จะขึ้นอยู่กับขนาดของมิเตอร์ด้วย กรณีมิเตอร์ 5 แอมป์ จานหมุนจะหมุนครบ 1,200 รอบ ตัวเลขจึงจะเลื่อนขึ้น 1 ยูนิต ส่วนมิเตอร์ 15 แอมป์ หมุน 400 รอบ จึงจะเลื่อนขึ้น 1 ยูนิต ) อาจทำการตรวจสอบอีกรอบ เพราะอาจมีเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชิ้นที่ยังไม่ได้ปิด หากมั่นใจได้แล้วว่าปิดครบถ้วนแต่มิเตอร์ไฟฟ้ายังหมุนอยู่ ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ได้เลยว่าเกิดไฟฟ้ารั่ว การตรวจสอบด้วยไขควงวัดไฟ ไขควงวัดไฟ เป็นเครื่องมือสำหรับตรวจสอบไฟฟ้าที่ควรมีไว้ประจำบ้าน ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ โดยมีหลักการทำงานคือ อาศัยร่างกายของผู้ใช้เป็นสื่อ โดยกระแสไฟฟ้าที่ไฟลผ่านร่างกายจะถูกลดทอนด้วยตัวต้านทานที่มีอยู่ในไขควงวัดไฟ การใช้ไขควงวัดไฟสำหรับการตรวจสอบไฟฟ้ารั่วที่เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิด จะต้องใช้ไขควงวัดไฟไปแตะที่เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ หากหลอดไฟติดขึ้นที่ไขควง แสดงว่าเกิดไฟฟ้ารั่วในเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนั้น ๆ นั่นเอง ทั้งนี้หากตรวจสอบแล้วพบว่าไฟฟ้ารั่ว ให้แจ้งช่างไฟฟ้าผู้มีความรู้ความชำนาญเป็นผู้ตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยต่อไป อนึ่งปัจจุบันมีอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้ารั่ว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ป้องกันสำหรับตัดวงจรเมื่อเกิดไฟฟ้ารั่ว หรือเมื่อถึงค่ากระแสรั่วที่กำหนดไว้ โดยเครื่องป้องกันไฟฟ้ารั่วจะป้องกันอันตรายจากไฟดูด และยังสามารถป้องกันอัคคีภัยได้ด้วย เนื่องจากปริมาณกระแสไฟฟ้ารั่วมีผลต่อความร้อนบนวงจร ซึ่งอาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้อีกด้วยMichal Jarmoluk จาก Pixabay" />ขอบคุณภาพประกอบ ภาพประกอบ 1 ภาพถ่ายโดย Killian EonจากPexels / ภาพประกอบ 2ถ่ายโดย นักเขียน /ภาพประกอบ 3 จาก https://pixabay.com / ภาพประกอบ 4 โดย Michal Jarmoluk จาก Pixabay