หลังจากซีรีย์เรื่องนี้ลงให้ติดตามชมผ่านทางช่องทางออนไลน์ (LINE TV) กันมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ในตอนนี้เรื่อง One year 365 วันบ้านฉันบ้านเธอ ก็ได้ลงจอทีวีเป็นที่เรียบร้อย โดยฉายตอนแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 และจะมีตอนถัดไปมาให้ทุกท่านติดตามรับชมกันทุกวันศุกร์ เวลา 23.00 น. ทางช่อง one 31วันนี้ผู้เขียนจึงได้รวบรวมเหตุผลที่ไม่ควรพลาดชมซีรีย์เรื่องนี้มาทั้งหมด 9 ข้อ หลังจากได้ชม One year 365 วันบ้านฉันบ้านเธอ ep.1-10 จบไปดูกันเลย!1. ดูยาว ๆ ได้จนจบตั้งแต่ ep.1-10เนื่องจากซีรีย์เรื่องนี้ได้ออกฉายทาง line TV จนจบแล้วหากใครที่ไม่อยากรอรับชมอาทิตย์ละตอนจากหน้าจอทีวีก็สามารถไปเปิดดูตอนนี้ตั้งแต่ต้นจนจบผ่านทาง LINE TV ได้เลย แบบไม่มีสะดุด ได้อิน ได้ฟินกันยาว ๆ แบบเต็มอิ่มไปเลย2. เป็นซีรีย์ที่จะทำให้คุณเข้าใจคนในครอบครัวมากขึ้นซีรีย์เรื่องนี้เล่าในมุมมองของเกือบทุกคนในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมุมมองของพ่อ ของแม่ พี่คนโต พี่คนกลาง น้องคนเล็ก เรียกได้ว่าชีวิตของคุณคงต้องมีตำแหน่งในบ้านที่ตรงกับตัวละคนตัวใดตัวหนึ่งในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นคุณน่าจะสามารถอินไปกับเรื่องราวของเขาเหล่านี้ได้อย่างไม่ยาก และอาจทำให้ได้เห็นมุมมองของคนอื่น ๆ ในบ้าน ได้เข้าใจทุกคนมากขึ้น จนอาจทำให้คุณอยากไปกอดคนในครอบครัวเลยก็เป็นไปได้3. การโคจรกลับมาพบกันของ ดู๋ (สัญญา คุณากร) และแหม่ม (คัทลียา แมคอินทอช)ข้อนี้คงไม่ต้องพูดให้มากความ ไม่ง่ายนักที่จะได้เห็นทั้งสองมาแสดงร่วมกันอีกครั้ง หากใครเป็นแฟนคลับของทั้งสองต้องบอกเลยว่าไม่ควรพลาดที่จะรับชมเรื่องนี้ นอกจากนี้ในเรื่องยังมีนักแสดงนำอีกหลายคนที่ชวนให้น่าติดตามไม่ว่าจะเป็นเก้า (จิรายุ ละอองมณี), ไอซ์ซึ (ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์) และสาว ๆ จากวง BNK48 ถึง 8 คนคือเฌอปราง, เจน, น้ำใส, ปัญ, ฟ้อนด์, จูเน่, มิวนิค, วี4. ผู้กำกับดีกรีเจ้าหญิงแห่งวงการหนังสั้นพูดถึงนักแสดงในเรื่องกันไปแล้วจะไม่พูดถึง แคลร์ (จิรัศยา วงษ์สุทิน) ผู้กำกับหญิงของเรื่องนี้เลยก็คงไม่ได้ เพราะเธอมีรางวัลการันตีความสามารถมากมาย โดยเธอได้รับรางวัลช้างเผือกจากเทศกาลหนังสั้นถึงสามปีซ้อน จนหลาย ๆ คนเรียกเธอว่า ‘เจ้าหญิงแห่งวงการหนังสั้น’ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นซีรีย์ยาวครั้งแรกของเธอแต่ผู้เขียนยอมรับเลยว่าทำได้ดีสมกับรางวัลที่เคยได้รับมา5. ครบทุกรสในทุกตอนต้องบอกเลยว่าไม่มีเบื่อเลยซักตอนเลยกับซีรีย์เรื่องนี้ ทุกตอนมีหลากอารมณ์ไม่ว่าจะรัก เศร้า ซึ้ง ขำขัน ทั้งที่แต่ละตอนรวม ๆ เวลาแล้วก็ไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่เรื่องนี้กลับเหมารวมทุกรสมาอยู่ด้วยกันได้แบบกลมกล่อม ถึงขนาดว่าเมื่อขึ้นชื่อผู้กำกับในฉากสุดท้ายของแต่ละตอน ผู้เขียนอยากจะอุทานว่า ‘อ้าว จบแล้วเหรอ เร็วจัง’ ไปซะทุกครั้ง6. ดำเนินเรื่องกระชับ แต่เต็มไปด้วยรายละเอียดในมุมมองของผู้เขียนสิ่งที่มีเสน่ห์มากที่สุดในเรื่องนี้กลับเป็นการนำเอาสิ่งธรรมดา ๆ ที่เรามองข้ามในชีวิตประจำวันอย่างเช่น การกินข้าว การล้างจาน การเข้าห้องน้ำ การนอน มาเชื่อมโยงกับบทและเรื่องราวของตัวละคร ส่วนนี้คาดว่าทีมงานคงจะทำงานกันหนักมากทีเดียวในการเรียบเรียงและบอกเล่าเรื่องราวให้ทุกอย่างสามารถมาอยู่ในซีรีย์ได้โดยที่ผู้ชมเข้าใจได้ง่าย และรู้สึกตามได้โดยไม่ต้องเปลืองซีนเยอะก็ไม่ได้อยากจะสปอยล์นะ แต่ฉาก ‘ของหวาน’ ในอีพีแรกทำเอาผู้เขียนน้ำตาร่วงมาแล้ว!7. ตัวละครทุกตัวเป็นมนุษย์ในแบบที่เป็นจริง ๆไม่ใช่ว่าตัวละครในเรื่องที่ผู้เขียนเคยดูผ่านมาจะมีแต่สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตประหลาดอะไร แต่ต้องบอกว่าตัวละครในเรื่องนี้ทุกตัวละครเป็นเหมือนมนุษย์ที่เราพบได้ในชีวิตปกติจริง ๆ ไม่มีตัวละครไหนร้ายแบบสุดๆ และก็ไม่ได้มีตัวละครไหนดีแบบสุด ๆ เช่นกัน ทำให้ซีรีย์เรื่องนี้น่าติดตามเข้าไปอีกว่าคาแรกเตอร์ของตัวละครแต่ละตัวจะนำพาเค้าและเธอไปสู่ทิศทางใด8. บอกเล่าเรื่องราว LGBT อย่างเป็นธรรมชาติข้อนี้ต้องขอชมผู้เขียนบทและผู้กำกับว่าสอดแทรกเรื่องราวของ LGBT ได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก เห็นได้จากคำชมของผู้ชมทางบ้านที่ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านทาง twitter เป็นจำนวนมากในวันที่ออกอากาศผ่านทาง LINE TV แต่ในส่วนนี้ผู้เขียนจะไม่ขอสปอยล์ว่าเป็นตอนใด ตัวละครไหน และมีเรื่องราวอย่างไร หากอยากรู้ทุกท่านต้องไปติดตามรับชมกันเอง9. เพลงประกอบไพเราะ เนื้อหากินใจเพลงประกอบของซีรีย์เรื่องนี้มีด้วยกันสองเพลงคือเพลงสายซับ และเพลง มปร ซึ่งร้องโดยน้อง ๆ วง BNK48 ที่เป็นนักแสดงหลักในเรื่องนี้ นอกจากดนตรีจะมีความไพเราะแล้วเนื้อหายังช่วยเพิ่มระดับความอินของซีรีย์เรื่องนี้ให้กับผู้ชมเข้าไปอีกเพราะทั้งสองเพลงสามารถตีความให้เข้าได้กับหลาย ๆ ตัวละคร โดยเฉพาะเพลงสายซับที่ครอบคลุมแทบจะทุกความสัมพันธ์ในเรื่องได้เป็นอย่างดี ถ้าหากใครชมซีรีย์แล้วยังไม่เคยฟังทั้งสองเพลงแบบเต็ม ๆ เพลงสามารถเข้าไปลองรับฟังได้ที่ช่อง BNK48 หรือ GDH ใน Youtube กันได้เป็นยังไงกันบ้างสำหรับเหตุผลทั้ง 9 ข้อนี้ เพียงพอที่ทุกท่านไปรับชมกันหรือยัง? หากใครยังไม่เคยดู ep.1 และ 2 ก็สามารถไปรับชมย้อนหลังได้ทาง LINE TV แล้วรับชม ep.3 ต่อพร้อมกันในวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคมนี้ ทางช่อง one31 เวลา 23.00 น. ได้ หรือใครอดทนรอไม่ไหวจะดูทาง LINE TV ต่อรวดเดียวไปจนจบก็สนุกอีกแบบหนึ่งนะเออขอบคุณรูปภาพจากเพจ One Year 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ