ภาพหน้าปกจาก Pixabayหลังจากที่เขียนหนังของเควนตินมาสักพักนึงแล้ว ก็นึกขึ้นได้ว่าเบื้องหลังของเควนติน ทั้งหนังที่เกี่ยวข้องกับเควนติน และชีวิตในอดีตของเควนติน มันช่างน่าสนใจเหลือเกิน และอยากจะเขียนแบ่งปันให้ทุกคนได้รู้ เพราะผมมีความสนใจในภาพยนตร์ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง และวันนี้จะมาพูดถึงที่มาของการ เล่าเรื่องขั้นเทพ ของเควนติน ทารันติโน ภาพจาก Pixabayด้วยความที่เควนตินนั้นโตมากับสื่อบันเทิงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง ภาพยนตร์ และซีรีส์ทางทีวี และความชื่นชอบในการเสพสื่อเหล่านี้เพื่มขึ้นมากเรื่อย ๆ เควนตินเริ่มถูกดึงดูดเข้าหาหนังประเภทน่าหวาดกลัว (Horror) สัตว์ประหลาด ไปจนถึงการผสมผสานระหว่างตระกูลหนัง โดยเฉพาะอะไรที่กระแทกระทั้นอารมณ์และเล่าเรื่องอย่างสนุกสนาน เขาจะชอบมันอย่างมากอย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ได้ค้นพบว่าสิ่งที่โปรดปรานที่สุดคือการได้เข้าไปดูหนังเรื่องใหม่ ๆ และกินอาหารฟาสต์ฟูต โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฮมเบอร์เกอร์ (ก็ว่าทำไมชอบถ่ายหนังในร้านอาหาร)ในวัยเพียง 7 ขวบ ว่ากันว่าประสบการณ์จากการดูหนังอย่างมากมาย ทำให้เข้าใจโครงสร้างของการเล่าเรื่องเป็นอย่างดี นั่นไม่ใช่เพียงการผ่านตาการ์ตูนหรือวรรณกรรม กระทั่งทีวีและภาพยนตร์ แต่เควนตินมักจะดู ซ้ำแล้วซ้ำอีก บางข้อมูลก็บอกว่า เขาเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยการดูหนังซ้ำ ๆ ถึง 4 รอบต่อหนึ่งเรื่องภาพจาก Pixabay เมื่อเข้าใจถึงการเล่าเรื่องในแบบต่าง ๆ ก่อนหน้าเด็กคนอื่น เขาจึงผลิตผลงานที่เรียกว่า เหนือความคาดหมาย ในปี 1972 ในวัย 9 ขวบในช่วงนั้น เควนติน ต้องเขียนอะไรสักอย่างสำหรับวันแม่ เขาไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป เควนตินน้อยใส่ทักษะการเล่าเรื่องไปจนหมดแม็ก เขียนเป็นเรื่องเล่าความยาวทั้งสิ้น 2 หน้ากระดาษเมื่อแม่ของเควนตินได้อ่าน เธอพบว่าเควนตินน้อยเขียนได้ไม่เลวเลย แม้จะสะกดผิดไปพอสมควร (นิสัยนี้ติดไปจนโต โดยเฉพาะชื่องหนังเรื่อง Inglourious Basterds) แต่มันไม่สำคัญเท่าการออกแบบให้เรื่องราวนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก ความผูกพันของเขากับแม่ว่าผ่านอะไรมามากมาย แม่ของเขากำลังอ่านอย่างมีความสุขอยู่ดี ๆ จากหน้าแรก จนกระทั่งอ่านมาถึงตอนจบ....... ภาพจาก Pixabay ในตอนจบของเรื่อง แม่ของเควนตินเกิดอาการตะลึง นั่นไม่ใช่เพราะเขาหาทางจบได้อย่างซาบซึ้งสวยงามเหมือนเด็กคนอื่น ๆ เขาเขียนเรียงความกัน แต่นั่นเพราะว่าตอนจบของเรื่อง.... เควนตินสูญเสียคุณแม่ เล่นเอาซะแม่ตกตะลึงแม่ ผมก็รู้สึกแย่ที่ต้องจบแบบนั้น แต่เรื่องมันมาทางนั้นแล้ว ยังไงก็ต้องจบด้วยความตาย ยังไงแม่ก็ยังเป็นแม่ที่เจ๋งที่สุดนะครับ แม้ว่าแม่จะต้องตายก็ตาม เขาให้เหตุผลที่ไม่รู้ว่าจะค้านอย่างไร แม้จะรู้สึกแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่แม่ของเขาก็ยอมรับในตอนจบแบบนั้น และในปีถัดมา เมื่อถึงวันแม่ เควนตินก็ยังคงเขียนเรื่องออกมาอีก และไม่ต้องสืบเลยว่า ใครจะตายในตอนจบของเรื่อง (ใครจะไปกล้าเขียนวะ)และนั่นคือ จุดเริ่มต้น มีต่อตอนสอง (ถ้าผ่านอ่ะนะ)ข้อมูลจากหนังสือ Quentin Tarantino The Man With the Styles