สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ดิฉันก็จะมารีวิวไอเท็มรักษาสิว ที่ใช้จริงเห็นผลจริงค่ะ เริ่มเรื่องจากฉันเป็นคนที่มีผิวหน้าดีมาก สิวแทบจะไม่ขึ้นเลยค่ะ แต่มีช่วงหนึ่งที่สิวขึ้นหนักมาก แล้วส่วนตัวก็เป็นคนชอบแต่งหน้ามาก ๆ ด้วย วันนี้เลยอยากจะมาแนะนำเพื่อน ๆ ที่เป็นสิวอยู่ว่าดิฉันผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้มาอย่างไรขอแนะนำตัวยาที่ใช้ก่อนนะคะ ยาตัวนี้มีชื่อว่า Retin-A Cream Retin-A ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Category C ยังไม่มีการศึกษาเรื่องการใช้ยานี้ในหญิงตั้งครรภ์ที่มากพอ Retin-A และยาทา Tretinoin อื่นๆ เช่น Retin-A Micro, Renova และ Avita เป็นยาที่เป็นอนุพันธ์ของวิตามิน A อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานทางการวิจัยที่กล่าวถึงการได้รับยาดังกล่าวในรูปแบบทา และแพทย์มักแนะนำให้หยุดใช้ยาตลอดช่วงการตั้งครรภ์ เนื่องจาก เรตินเอ คือ กลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอ ชื่อสามัญว่า Tretinoin ตัวนี้เป็นกลุ่มยา ก่อนใช้แนะนำปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนนะคะ Retin-A มีความเข้มข้น 2 ระดับ คือ 0.025% หลอดสีเทา กับความเข้มข้นมากขึ้นมาหน่อย 0.05% หลอดสีฟ้าผู้ที่ไม่ควรใช้ Retin-Aผู้ที่ตั้งครรภ์ผู้ที่กลัวสิวโผล่ออกมาเยอะๆ หรือกลัวแสบหน้าผู้ที่ทำงานกลางแดด และไม่ทาครีมกันแดดผู้ให้นมบุตร กับเด็กเล็กส่วนตัวที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์นี้ เพราะว่า หาข้อมูลตามเว็ปไซต์ต่างๆแล้วเห็นว่าได้ผลจริง ก็เลยตัดสินใจลองซื้อมาใช้ค่ะ สิ่งที่ประทับใจเกี่ยวกับ Retin-A : สามารถรักษาสิวได้ดีมากค่ะ แต่อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งความพอใจเกี่ยวกับ Retin-A : พอใจมากสำหรับผลลัพธ์ที่ได้ค่ะถ้าให้คะแนนของผลิตภัณฑ์ : ให้ 8/10 เพราะตัวยาต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะเห็นผล และทำให้หน้าหมองคล้ำลง เริ่มเรื่องคือ ฉันเริ่มเป็นสิวตอนอายุประมาณ 17 ค่ะ เกิดจากที่ฉันมั่นใจว่าสิวจะไม่ขึ้น เพราะส่วนตัวเป็นคนหน้าใสค่ะ และแต่งหน้ามานาน แต่มีช่วงหนึ่งที่ฉันเริ่มไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ช่วงดึกๆ พอกลับถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว ทำให้ฉันขี้เกียจล้างหน้าค่ะ ก็เลยนอนหลับไป ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ล้างหน้า ฉันขี้เกียจล้างหน้าบ่อยขึ้น ล้างแค่ตอนเช้าและตอนเย็น แต่ช่วงกลางคืนฉันแทบจะไม่ได้ล้างเลยค่ะ และสิวก็เริ่มขึ้นที่ละเม็ดสองเม็ด พอผ่านไปนานๆก็ขึ้นมาเต็มเลยค่ะ โดยบริเวณแรกที่ขึ้นก็คือหน้าผาก ลักษณะสิว เป็นสิวอุดตัน สิวผดโดยฉันเลือกใช้ Retin-A Cream (0.025%) สีเทา เพราะจะมีความเข้มข้นน้อยกว่า Retin-A Cream (0.05%) สีฟ้า แนะนำนะคะว่าเราควรเริ่มใช้ความเข้มข้นต่ำก่อนเพื่อให้ไม่เกิดความระคายเคืองมากเกินไป Retin-A เป็นครีมรักษาสิวนะคะ ไม่ใช่สกินแคร์ คุณสมบัติ Retin-A เป็นครีมที่ช่วยควบคุมการเกิดสิว ไม่ใช่ยารักษาสิวให้หายขาด โดยเร่งการหลุดลอกของผิวหน้าบริเวณที่เป็นสิว วิธีใช้ ใช้ทาตอนกลางคืนวันละ 1 ครั้ง ก่อนเข้านอน ทาเฉพาะบริเวณที่เป็นสิว แนะนำให้ปิดไฟและหยุดเล่นโทรศัพท์หลังจากทายาเสร็จนะคะ เพราะยาทำให้หน้าบางและไวต่อแสงมากค่ะ อาจทำให้หน้าหมองคล้ำได้ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน ตอนนั้นก็คือตกใจมากค่ะ เลยพยายามล้างหน้าทุกครั้ง แต่ก็สายไปแล้วค่ะ เพราะสิวขึ้นไม่หยุดเลย สาเหตุน่าจะเกิดจากการไม่ทำความสะอาดหน้า ไม่เช็ดเครื่องสำอางบนหน้าให้สะอาดหลังการแต่งหน้า สิวเริ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันเลยหยุดการแต่งหน้า และเริ่มหาวิธีรักษา และแล้วฉันก็ตัดสินใจซื้อ Retin-A เพราะเห็นรีวิวว่าเป็นยารักษาสิว ที่ทำให้สิวหายจริงๆภาพถ่ายโดย : ผู้เขียนใช้ไป 2-3 วันแรก ก็ไม่มีอาการอะไรนะคะ แต่พอใช้ได้สักอาทิตย์นึง หน้าก็เริ่มแห้ง สิวอุดตันก็กลายเป็นสิวอักเสบเพราะตัวยาจะทำให้หน้าแห้ง แล้วสิวเราจะผุดออกมาค่ะช่วง 1-2 เดือนที่ใช้สิวจะค่อยๆผุดขึ้นมานะคะ และช่วง 3-4 เดือน คือสิวอักเสบผุดขึ้นมาทุกวัน แสบหน้า มาก และหน้าก็หมองคล้ำมากเลยค่ะ เป็นเพราะผิวบางเลยทำให้ผิวไวต่อแสงภาพถ่ายโดย : ผู้เขียนเมื่อผ่านไป 5 เดือน สิวก็เริ่มลดลง หน้าก็เริ่มใสขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะภาพถ่ายโดย : ผู้เขียนหลังจากที่ใช้แล้ว เริ่มไม่มีสิว หรือสิวหมดแล้ว ให้เลิกใช้ยาเลยนะคะ แล้วก็หาสกินแคร์มาบำรุงหน้า และล้างหน้าให้สะอาด ถูกวิธี ก็จะช่วยลดการเกิดสิวค่ะนี่คือผิวหน้าปัจจุบันนะคะภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน หลังจากที่ได้ลองใช้ Retin-A อยากจะแนะนำเพื่อน ๆ ว่าทาวันเว้นวันจะดีกว่านะคะ เพราะใช้แล้วหน้าลอก แสบมาก ๆค่ะ และแนะนำให้ทาสกินแคร์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นช่วงเช้า และก่อนออกแดดก็ควรทากันแดดทุกครั้งค่ะ กว่าดิฉันจะหายก็ใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือนค่ะ โดยเดือนที่ 1-2 สิวจะเริ่มผุดขึ้นมาเล็กน้อย เดือนที่ 3-4 เป็นเดือนที่สิวขึ้นเยอะมาก แสบหน้ามาก เดือนที่ 5-6 หน้าเริ่มใสขึ้น สิวเริ่มลดลง อยากจะบอกให้เพื่อน ๆ ทุกคนสู้ๆนะคะ ยาตัวนี้ต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลแต่ก็คุ้มค่าสำหรับผลที่ได้เหมือนกันค่ะ ที่อยากแนะนำให้ทุกคนใช้ เพราะว่าส่วนตัวดิฉันใช้จริงและเห็นผลจริง และช่วงนี้เป็นช่วงที่หลายๆคนไม่ได้ออกไปไหน อาจจะโดนแสงแดดน้อย เหมาะกับคนที่อยากใช้แต่กลัวหน้าหมองคล้ำค่ะ * การใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ดังนั้นจึงควรศึกษารายละเอียดและวิธีการใช้ให้ดีก่อนใช้นะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก : แหล่งอ้างอิง 1, แหล่งอ้างอิง 2อ่านรีวิวไอเทมเด็ด ๆ เกี่ยวกับความสวย ได้ที่นี่ App TRUEID โหลดฟรี !