อื่นๆ

ข้อควรคิดพิชิตวัย40 ( ไม่จำเป็นอย่าเป็นนายประกัน )

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ข้อควรคิดพิชิตวัย40 ( ไม่จำเป็นอย่าเป็นนายประกัน )

เมื่อชีวิตเดินทางมาเกินครึ่งนึงของชีวิต
(ข้อควรคิดพิชิตวัย 40up)

ด.ต.วัฒน

ไม่จำเป็นอย่าค้ำประกันเงินกู้ให้ใคร
เคยมีคนเตือนผมไว้ อย่างนั้น
ไม่ใช่ ไม่เชื่อ ไม่รับฟัง 
แต่บางทีชีวิต มันก็เหลืออด
อดที่จะ เลือกทำแบบนั้น ไม่ได้
ในเมื่อตัวเราเอง ก็มีความจำเป็นต้องกู้
ถ้าไม่ค้ำประกันเงินกู้ให้ใคร
แล้วใครล่ะ จะมาค้ำประกันให้เรา 555
จับคู่วนกู้กันไป เหมือนเล่นคุ้กกี้เสี่ยงทาย
ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์
ใครมันจะอยากไปคิดในด้านลบ ล่ะ ครับ ว่า
วันดี คืนร้าย คนที่เราเชื่อมั่น ไปผูกค้ำประกันไว้
มันจะไปก่อคดีเล็กๆน้อยๆ อย่างเสพประเวณีเด็ก ทั้งที่ผู้เยาว์สมัครใจไปด้วย 
จนต้องถูกไล่ออกจากราชการ หน้าที่การงาน
กลายเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหนีคดีมีหมายจับ
ที่เวลาล่วงเลยผ่านไปนานหลายปีกว่า
ป่านนี้ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ตัวมันมา
ดำเนินคดี และแบ่งเบาภาระหนี้สินที่ทิ้งไว้ให้เรา
เป็นผู้ชำระแทน อย่างแสนสาหัส
ลองพยายามติดต่อไปยังลูกเมียของเขา ก็ปรากฎว่า
ขายบ้านขายช่อง ย้ายหนี ไปอยู่ที่อื่น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โทรศัพท์ไปถามหาความรับผิดชอบว่าจะช่วยเหลือกันอย่างไรได้บ้าง ก็ไม่ปรากฏเห็นเด่นชัดนักว่าจะหาทางช่วยด้วยกรรมวิธีใด นอกจากคำพูดรับประกันที่ฟังแล้วสุดหดหู่หัวใจว่า "ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง 16ล้าน เมื่อไหร่
จะชำระหนี้ให้ทั้งหมดเลย"

Advertisement

Advertisement

เปิดหมวกหาเงินใช้หนี้

ฟังแล้ว ทอดถอนหัวใจสิ้นดี
อยากผูกคอตายหนีหนี้ แต่ก็ไม่มีความกล้า คิดอีกที ก็สงสารลูกเมีย อยู่ข้างหลัง ไม่มีเรา แล้วพวกเขาจะอยู่กันอย่างไร 

"ไม่จำเป็นก็อย่าไปค้ำประกันเงินกู้ให้ใครเลยจริงๆครับ"

ทั้งที่เห็นๆกันอยู่นะ ลูกเมียของเขา ก็สุขสบายดี  อยู่ดีกินดี โพสต์เฟสบุ้คแต่ละที ชีวิตน่าอิจฉา 
มีเงินเก็บในบัญชี  เดินห้างหรู  กินชาบู  มีรถเก๋งขี่ ตั้งสองสามคัน 
ฝ่ายคนกู้ ที่เรามั่นใจนักหนา ว่าเป็นคนดี ก็ถอนเงินเก็บปิดบัญชี หนีคดี 
เอาเงินไปให้มนุษย์เมียน้อยชาวต่างด้าวของมัน ซื้อที่ดินฝั่งกัมพูชา 
ปลูกมันสำปะหลัง ขุดสระ เลี้ยงปลา หาเลี้ยงชีพปกติธรรมดา ราวกับไม่ได้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น

แล้วมันเกิดอะไรขึ้น กับชีวิตเรา ว่ะ ?  

ทำไมต้องมาดิ้นรนชีวิต หาเงินใช้หนี้ ให้กับคนแบบนี้ด้วย?

เล่นเปิดหมวก

ถามตัวเองซ้ำๆ ตกลงคือพรหมลิขิต ใช่มั้ย?  ที่เขียนให้เป็นอย่างนี้.............
หรือว่าเป็นเวรกรรม ...แต่ชาติปางไหน

Advertisement

Advertisement

ชาตินี้ เขาจึงตามมาทวงหนี้ก้อนโตพร้อมดอกเบี้ย
ให้เราต้องเสีย ทั้งที่ใจมันไม่อยากจะเสีย

คิดอีกที เงินก้อนนี้ สามารถส่งลูกเรียนจบปริญญาได้สบายๆ

ทำไม เราต้องมาจ่าย ให้กับมันด้วยว่ะ ?

ยิ่งคิด ก็ ยิ่งทุกข์ !

สุดท้าย ก็ต้องยอมรับความจริง
ไม่จ่าย  ไม่ได้ !
ธนาคารมันก็ยังตามมาฟ้องบังคับคดี
ยึดทรัพย์เอากับเราอยู่ดี

ยังไงก็ต้องจ่าย ครับ

จ่ายแบบไม่เต็มใจจ่าย
จ่ายไป บ่นไป ทำยังได้ ล่ะ ครับ 555 (หัวเราะทั้งน้ำตา) 

"ไม่จำเป็นอย่าเป็นนายประกันค้ำเงินกู้ให้ใครเลยครับ"
อย่าคิดว่า ธนาคารมีระบบป้องกันบังคับการทำประกันชีวิตไว้แล้ว
คงจะไม่เดือดร้อนถึงเรา หรอก
ประกันชีวิตมันก็แค่คุ้มครองในกรณีที่ผู้กู้ถึงแก่ความตายเท่านั้นครับ
หนีคดี ถูกไล่ออกจากงาน
ไม่ชำระหนี้สิน แบบนี้
มีแต่เรา ผู้ค้ำประกัน เท่านั้น ล่ะครับ
ที่ต้องจำใจอยู่ให้ได้ หาเงินมาจ่ายแทนมันให้ได้
ไอ้เรื่องที่คิดจะก่อคดีหนีตามไปใช้ชีวิตแบบมันบ้าง
บอกได้เลย เป็นไปได้ยาก
ถ้าจิตใจเราไม่เหี้ยมและโหดร้ายพอครับ

Advertisement

Advertisement

#เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงครึ่งทางของชีวิต

ทำให้คิดอะไรได้หลายๆอย่าง

ไม่จำเป็นอย่าไปกู้เงินธนาคารเลยครับ
ไม่จำเป็นอย่าค้ำประกันเงินกู้ให้ใครเด็ดขาด 

ไม่จำเป็นอย่าทำอะไรที่ไม่จำเป็นเลยครับ
เลิกสะสมหนี้ เลิกอ้างกันเสียทีว่า
ของมันต้องมี!

บางอย่าง ก็ไม่จำเป็นต้องมีเหมือนเขา
เราก็อยู่ได้ ครับ

โดยเฉพาะหนี้ ไม่จำเป็นอย่าไปอยากมีมันเลยครับ

#โปรดติดตามตอนต่อไป

ด.ต.วิมุต  ชุมแก่น

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์