อื่นๆ
ชะตาฆาตสัตว์นรก

เขียนโดย อ. อเวจี
เหมือนฟ้าจะกลายเป็นสีเลือด
เหมือนฟ้าจะกลายเป็นสีเลือด เงาทะมึนของก้อนเมฆแลดูคล้ายกับภูเขาสลับซับซ้อน แท้จริงมันคล้ายกับก้อนเลือดข้นคลั่กมากกว่า
ผู้คนในแสงไฟประดิษฐ์เคลื่อนไหวไปตามจังหวะชีวิตของแต่ละคน ร้านรวงริมถนนยังคงมีผู้คนแวะเวียน เสียงรถยนต์ดังกลบเกลื่อนบทสนทนา ควันไอเสียล่องลอย จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของอากาศที่ผู้คนสูดดมเข้าไปในร่างกาย
ความจริง มันเกือบผ่านฤดูหนาวไปตั้งนานแล้ว ด้วยว่ามีฤดูกาลอย่างอื่นคั่นกลาง จนมันไม่สามารถแยกแยะได้ออกว่า เป็นฤดูไหนกันแน่
บนบาทวิถี หนุ่มสาว ในชุดยูนิฟอร์มของห้าง ฯ ที่เพิ่งปิดก่อนหน้านี้ไม่ถึงสิบนาที เดินเกี่ยวก้อยกันมา
เป็นวัยที่กำลังมองโลกในแง่งดงาม มีความฝัน พวกเขาเป็นคู่สามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันมาได้ไม่นานนัก เมื่อวันหยุดในเทศกาลสำคัญ
Advertisement
Advertisement
ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรมาก แค่ผูกข้อไม้ข้อมือ
พิธีการสำคัญก็จริง แต่ไม่อาจจะทำอะไรได้ ในเมื่อพวกเขาได้ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เงินทองคนเป็นผู้ชายจะมอบให้ฝ่ายหญิงเป็นคนดูแล โดยหวังว่า หลังจากนี้ไปอีกสักพัก คงได้ขยับขยายไปทำอย่างอื่น หรือแม้แต่กลับบ้านนอกเพื่อไปเริ่มต้นทำการเกษตรตามพื้นฐานเดิมของพวกเขา
นี่ละ คือความฝัน
เดือนแห่งความรักสำหรับเขาและเธอไม่ได้มีความหมายสำคัญกับชีวิตนัก ในเมื่อแต่ละวันแต่ละคืนของพวกเขาต่างได้มอบความรักให้แก่กันทั้งด้วยคำพูดและการกระทำอยู่แล้วนั่นเอง
“กานต์ พี่อยากจะถอยมอไซค์ซักคัน เราจะได้ไม่ต้องเดินกลับห้องพักแบบนี้”
“เป็นไรไปคะ” ฝ่ายหญิงเอื้อมมาคว้ามือของแฟนหนุ่ม มือไกวไปด้วยกันกลางอากาศ “เหนื่อยเหรอ”
“เปล่า พี่กลัวกานต์เหนื่อยต่างหากล่ะ”
“เหรอ”
“ทำไม ไม่เชื่อพี่เหรอ”
Advertisement
Advertisement
“เชื่อค่ะ”
“ถ้างั้น...”
“ไม่ค่ะ เราจะยังไม่ซื้ออะไรที่จะเป็นภาระผูกพันยาว ๆ ในเวลานี้ทั้งนั้นแหละค่ะ”
“ว้า...”
“เราเคยตกลงกันแล้วนี่คะพี่ต้อม”
“ก็ได้ ก็ได้”
“โกรธหนูหรือเปล่าล่ะคะ”
“เปล่าจ้า”
กระชับร่างของแฟนสาวเข้าใกล้ แล้วทั้งคู่ก็ก้าวไปด้วยกัน กระทั่งเลือนหายไปกับมุมสลัว... ชีวิตของคู่สามีภรรยาหนุ่มสาว ยังคงดำเนินต่อไปอย่างนี้ แทบไม่มีความเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น เหมือนกับเรื่องราวซ้ำ ๆ เดิม ๆ
แต่ก็นั่นแหละ ถ้าหากไม่มีใครคอยจับตาดูอยู่ ก็คงไม่ได้รู้สึกสักนิดว่า มันคือชีวิตที่ดำเนินไปอย่างซ้ำ ๆ เหมือนกับกิจวัตรประจำวันของบุคคลทั่วไป
กระทั่ง... คืนหนึ่ง คู่ผัวเมียหนุ่มสาวก็รู้ว่า แท้จริงแล้วมีสายตาคู่หนึ่งแอบมองอยู่ตลอดเวลา และคืนนี้แหละที่มันจะลงมือ!
ระหว่างกำลังเดินเกี่ยวก้อยกันมาตามบาทวิถี กระทั่งถึงจุดเปลี่ยว เหลือเพียงแค่แสงสลัว ๆ เท่านั้น ร่างสูงร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวจากด้านหลังแล้วไม่พูดพล่ามทำเพลง
Advertisement
Advertisement
เสียงดังตุ๊บ
ร่างสูงร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวจากด้านหลังแล้วไม่พูดพล่ามทำเพลง
“พี่ต้อม! ว้าย! ช่วยด้วย!”
ร่างของต้อมล้มคะมำ แน่นิ่งอยู่ตรงนั้นทันที
ไอ้สัตว์นรกหันไปฉุดร่างของหญิงสาวไปที่พงหญ้า เสียงร้องดิ้นรนค่อย ๆ เงียบลง ไอ้สัตว์นรกมองเหยื่อของมันด้วยสายตาที่ไม่ใช่มนุษย์แม้แต่น้อย มันเริ่มลงมือ...
ในระหว่างนั้นเอง ต้อมรู้สึกตัว
“ขอร้องเถอะครับ ได้โปรดอย่าทำอะไรเมียผม เอาอะไรก็เอาไป”
ความเจ็บปวดอันเกิดจากการถูกกระแทกด้วยวัตถุแข็ง ทำให้ชายหนุ่มเคราะห์ร้ายไม่สามารถที่จะต่อสู้ขัดขืนใด ๆ ได้เลย มันปวดร้าวไปทั้งร่างกาย ทั้ง ๆ ที่หัวใจยังทำงานอยู่ ความรู้สึกรับรู้ได้ทุกอย่างว่ากำลังทรมานเพียงใด สายตามองเห็นร่างของแฟนสาวที่กำลังกระเสือกกระสนเพื่อจะลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีเอาตัวรอด ทว่าไอ้สัตว์นรกก็คว้าเอาไว้ได้ แล้วร่างของเธอก็ล้มหงายหลังกระแทกพื้นอีกครั้ง
ต้อมบดกรามกรอด จากความกลัว แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานแห่งความคับแค้น พยายามฝืนขยับลุก รับรู้ได้เพียงว่า เกิดการต่อต้านแข็งขืนอย่างหนักของร่างกาย ประสาทสัมผัสเจ็บปวดสุดขีดจนกลายเป็นอาการด้านชาขึ้นมาแทน
เลือดยังทะลักออกมาจากบาดแผลของคมหิน แต่เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือจากแฟนสาวทำให้เขาแข็งใจ
ก้าวต่อไป
มันคือช่วงจังหวะการก้าวที่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลานั้น
หนุ่มเคราะห์ร้ายสามารถก้าวไปถึงด้านหลังของไอ้สัตว์นรก ยิ่งได้เห็นว่ามันกำลังกระทำกับร่างของเมียสาวที่ดิ้นจนแน่นิ่งไปแล้ว หัวใจแทบกระอักไปด้วยพลังแห่งความคับแค้น
“ไอ้สัตว์นรก!”
ตะปบคอเสื้อ กระชากให้หลุดออกมาจากร่างของเมียสาว แต่นั่นกลายเป็นว่า... ได้สร้างความโกรธแค้นให้กับมัน
ไอ้สัตว์นรกหันมาพร้อมกับพละกำลังที่เหนือกว่า ต้อมรับรู้ได้เพียงแค่ว่า ถูกกระแทกอย่างหนักหน่วงด้วยกำปั้น
“มึงตาย! มึงตาย!”
หูแว่วได้ยินเสียงเพียงแค่นั้น และแม้จะดังชัดเจน แต่เวลานั้น หนุ่มเคราะห์ร้ายกลับรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นเสียงที่ค่อย ๆ ดังห่างออกไป
ที่เป็นอย่างนั้น เพราะว่า...เลือดที่กำลังไหลลงมาจนท่วมร่าง บวกกับ...ถูกชกต่อยซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ เข้าตำแหน่งสำคัญ ทำให้สติสัมปชัญญะของเขาเริ่มจะเลอะเลือน หมดกระทั่งเรี่ยวแรงทรงกาย ในที่สุด สำนึกสุดท้ายของหนุ่มเคราะห์ร้ายจึงแทบไม่มีเหลือหลออะไร ถ้าหากเป็นฉากในภาพยนตร์ จะเห็นเพียงแค่ว่า น้ำตาของเขากำลังหลั่งรินออกมา ก่อนร่างกายจะทรุดและล้มลงแน่นิ่งกับพื้น
ไอ้สัตว์นรกหันไปทางร่างของผู้หญิง แต่อารมณ์หื่นกระหายของมัน ดูเหมือนจะไม่มีหลงเหลืออยู่อีกแล้ว จังหวะนั้น หญิงสาวรู้สึกตัว ผงกศีรษะทำท่าจะลุกขึ้น ไอ้สัตว์นรกแสยะยิ้มนิดหนึ่ง แล้วหันไปคว้าหินก้อนเดียวกันกับที่ใช้ก่อนหน้านี้
หญิงสาวเหมือนรู้ชะตากรรม ยกมือไหว้ แต่เท่ากับเร่งความตายให้กับตัวเอง
ก้อนหินในมือของไอ้สัตว์นรกก็ทุ่มเข้าหาใบหน้าของเธอสุดแรง และครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงกรีดร้องเธอเงียบลง แทบไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ชะตาชีวิตของหญิงสาวเคราะห์ร้ายเป็นอย่างไร
กว่าจะมีคนพบศพของคู่สามีภรรยาเคราะห์ร้าย ก็คือ รุ่งเช้าของอีกวัน และอีกนานกว่าจะสามารถค้นหาผู้ก่อเหตุ
ในจำนวนไทยมุงที่มายืนดูเหตุการณ์นั้น มีชายหนุ่มร่างสูง อายุประมาณ 30 เศษรวมอยู่ด้วย เขาก็เหมือนกับคนปกติธรรมดา สีหน้าดูสลดกับภาพที่ได้เห็น ถ้าจะมีก็เพียงแววตาเท่านั้น... เป็นแววตากระหายเลือดชัด ๆ!
ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีความยังคง...แทบไม่คืบหน้าอะไร อาจเป็นเพราะ...คู่สามีภรรยาเคราะห์ร้ายเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ๆ จากต่างจังหวัด ข่าวคราวที่ปรากฏตามหน้าสื่อต่าง ๆ ไม่ได้ช่วยการทำคดีของตำรวจคืบหน้ารวดเร็วอย่างที่ควรจะเป็น นั่นเป็นความรู้สึกของชาวบ้านที่เสพสื่อข่าวสาร แท้จริงแล้ว ตำรวจกำลังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างหนักเช่นเดียวกัน มีการส่งสายสืบลงไปในพื้นที่ เพื่อค่อย ๆ แกะรอยคนร้าย
สัตว์นรกได้รับกรรมแล้ว
ราม... หนุ่มร่างสูงวัยสามสิบเศษ ช่างปูนมืออาชีพ นั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนคนงาน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน
รามทำงานอยู่กับเถ้าแก่ผู้รับเหมาที่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันมานานแล้ว ด้วยมีฝีมือในเชิงช่างรอบตัวคนหนึ่ง นอกเหนือจากนี้รามยังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงเกี่ยวกับการดูแลคนงานอื่น ๆ ในไซต์งานได้ค่อนข้างดี เขาจึงได้รับความไว้วางใจจากเถ้าแก่ผู้รับเหมา เรียกว่าเป็นลูกพี่ใหญ่ก็ยังได้
เขายังไม่มีครอบครัว ทั้ง ๆ ที่มีคนงานสาวเล็กสาวใหญ่แอบมองสบตากับเขาอย่างมีความหมายเสมอ เวลาไม่ดื่ม รามจะเป็นคนค่อนข้างเงียบขรึม ด้วยเหตุนี้ก็ได้ จึงสามารถควบคุมคนงานต่างชาติได้ เพราะดูน่าเชื่อถือ
แต่คืนนี้... ระหว่างการดื่ม รามมีปากเสียงกับคนงาน ใครจะนึกว่า หลังแยกย้ายกลับไปนอน ก็เกิดเหตุการณ์สยองขวัญขึ้นภายในห้องพักของราม
ผู้ชาย 3 คนเปิดประตูเข้าไปประชิดตัว หลังจากนั้นก็รุมทุบด้วยอิฐบล็อกก่อสร้าง
รามแทบไม่มีโอกาสส่งเสียง รับรู้เพียงว่า เขาเจ็บปวดอย่างที่สุด และสำนึกสุดท้ายยังมองเห็นเหตุการณ์หนึ่งฉายทับซ้อนขึ้นมาในหัว...
เสียงกรีดร้องขอชีวิต... เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดสุดชีวิตของคู่สามีภรรยาเคราะห์ร้าย...คู่นั้น!
**//**
ความคิดเห็น
