อื่นๆ
ทำความดีอยู่ในตัวเรา

ขอบคุณภาพจาก : pixabay
การทำความดีนั้นไม่จำเป็นต้องเลือกช่วงเวลา สถานที่ คือ การทำความดีนั้นจริง ๆ แล้วสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาเช่น ตื่นเช้ามาคิดแต่ในสิ่งดี ๆ ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทาย แบ่งปันน้ำใจ ปลุกปลอบให้กำลังใจ ให้คำชมด้วยความนิยมยินดี แนะนำให้คำสอนที่ดี มีคุณค่า การให้อภัยในความผิดพลาดของผู้อื่น ฝึกจิตใจให้สงบ เป็นต้น เมื่อทำความดีอย่าคิดถึงเรื่องผลที่ได้จากการรับ ถ้าคิดอย่างนั้นจะเรียกว่า ทำความดีหวังผลสิ่งตอบแทน และถ้าทำอย่างนั้นเราก็จะไม่มีความสุขนั้นเอง
ขอบคุณภาพจาก : pixabay
ในบทความนี้จะพูดถึงความงามซึ่งทุก ๆ คนมีในตัวอยู่แล้วฉะนั้นการทำความดีต้องทำจากใจและไม่นึกถึงสิ่งตอบแทน นั้นและ คือ ความงาม ในตัวบุคคลนั้น ๆ เวลาทำความดีเราจะรู้สึกสบายใจ เหมือนคนเฒ่าคนแก่เคยบอกไว้ว่าหมั่นทำความดีไว้นะ ถึงคนอื่นรู้ก็ดีไม่รู้ไม่ก็ดีแต่ตัวเรารู้เท่านั้นเป็นพอ ซึ่งความงามจากการทำความทำดีนี้ เงินไม่สามารถซื้อได้ และ ความงามจากการทำความดีซึ่งทุก ๆ คนสามารถทำได้กันทั้งนั้น ขึ้นอยู่ว่าเราจะทำ หรือ ไม่ทำเท่านั้น อีกทั้งการทำความดีถ้าเราได้ทำแล้วบุคคลที่รับการช่วยเหลือก็อาจจะช่วยเหลือกับคนอื่นที่ลำบากต่อไปซึ่งจะเหมือนเป็นลูกโซ่นั้นเอง
Advertisement
Advertisement
-ยกตัวอย่างแสดงให้เห็นถึงคนแก่เดินไปโรงพยาบาลคนเดียว
ขอบคุณภาพจาก : pixabay
-ยกตัวอย่างคนแก่ทั้ง 2 หลงทางให้การช่วยเหลือ
ขอบคุณภาพจาก : pixabay
สุดท้ายนี้ การทำความดีช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนนั้นจะทำให้เรามีความสุขกายและสุขใจ โดยเฉพาะ การทำความดีแล้วมีความงามออกมา ซึ่งเห็นโดยการกระทำนั้น ๆ และที่สำคัญคนเรามักจะช่วยเหลือไปแล้วจะมีคนตั้งคำถามว่าจะช่วยทำไมเดี๋ยวก็โดนหลอก เนื่องจากช่วงเวลานี้สมัยนี้มีนักมิจฉาชีพเยอะมาหลอกให้น่าสงสารจึงเป็นธุรกิจกันไปแล้ว ในส่วนตัวคิดว่าช่างมันเวรกรรมมีจริงใครทำสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้นถือว่าเราช่วยได้เท่าที่ช่วยได้เท่านั้นและเราช่วยในกำลังที่เราไหวโดยไม่คิดหวังผลสิ่งตอบแทน ทั้งหมดนี้จะเรียกว่า "ความงามอย่างบริสุทธิ์ใจ" ก็ได้
ขอบคุญสำหรับการรับชม ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะครับ (ประสบการณ์จริงจากนักเขียน)
Advertisement
Advertisement
ความคิดเห็น
