บทเรียนของชีวิต

ทุกคนคิดว่าความซวยความโชคร้ายมันเกิดเพราะอะไรคะ เพราะบาปกรรมครั้งเก่า ความบังเอิญ หรือเพราะเราทำตัวเอง เรื่องที่เราจะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องของน้องที่รู้จักของเรียกน้องคนนี้ว่าน้องวายนะคะ ส่วนความซวยในเรื่องนี้เกิดจากอะไรก็ไม่สำคัญ แต่มันจะเป็นบทเรียนที่สำคัญของผู้หญิงคนหนึ่งไปตลอดชีวิต

ก่อนอื่นเราของแนะนำน้องวายให้ทุกคนรู้จักก่อนนะคะ น้องวายเป็นคนร่าเริงเข้ากับคนง่าย บ้าๆ บอๆ บางทีก็งงกับชีวิต และนิสัยสำคัญที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้นคือน้องวายเป็นคนดื้อและทะเยอทะยาน เราเข้าใจว่าคนเราทุกคนอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถ้ามันมากเกินไปมันอาจดึงให้เราลงไปอยู่ก้นเหวได้

เรารู้จักกับน้องวายเพราะทำงานที่บริษัทเดียวกัน แรกๆ ที่รู้จักเราคิดว่าเด็กคนนี้ดูเป็นคนงงๆ แต่เก่งนะอายุแค่นี้ซื้อรถได้แล้ว เราอายุมากกว่าน้องยังไม่มีรถเป็นของตัวเองเลย น้องวายบอกว่าที่ออกรถเพราะอยากเป็นเซลล์ เลยลาออกจากที่บริษัทเก่าแล้วไปกู้เงินเพื่อมาออกรถมือสองหนึ่งคัน ทั้งๆ ที่ตอนนั้นยังขับรถไม่เป็นและไม่ได้ไปสมัครเป็นเซลล์เราเลยถามน้องวายไปว่า

น้องวายมีกิ๊กอยู่คนหนึ่งชื่อพี่เสือ (ชื่อสมมุตินะ) ทั้งสองคนพบรักกันในแอปแอปหนึ่ง พี่เสื่อเป็นคนที่คอยช่วยน้องวายดูแลน้องวายในทุกๆ เรื่อง ทั้งอาหารการกิน มารับมาส่งที่ทำงานทุกวัน น้องวายอยากไปเที่ยวไหนกับเพื่อนก็ไปรับไปส่งให้ แม้กระทั่งเรื่องเงินๆ ทองๆ ถ้าน้อยวายไม่มีก็ให้ยืม (แต่คิดดอกนะ) พูดได้เลยว่าพี่เสื้อเป็นผู้ชายที่ดีมากไม่น่าแปลกที่น้องวายจะหลงผู้ชายคนนี้

หลังจากหมุนเงินจนหัวหมุนเป็นลูกข่างได้สักพักน้องวายก็พบวิธีการหาเงินวิธีใหม่ มีคนชวนให้น้องวายไปเทรดเงินแน่นอนว่าตอนนี้เงินในมือของน้องวายไม่พอต่อการที่จะลงทุนเทรดเงิน ก็เลยต้องไปหายืมหากู้มาเพิ่มช่วงสองสามเดือนแรกมันเป็นไปได้ด้วยดีได้กำไรมาจำนวนนึง คนเรามีความโลภพอเห็นว่ามันทำเงินได้ก็อยากได้มากกว่าเดิม ก็ลงเพิ่มแต่เงินไม่พอทำยังไงดี ไปกู้เพิ่ม ทีนี้แหละไอ้การลงเพิ่มรอบนี้มันไม่ได้กำไรคืนมาเหมือนรอบที่แล้ว มันขาดทุนมาเรื่อยๆ ติดต่อไปทางคนที่ชวนก็ไม่ได้จะเอาเงินออกมาก็ไม่ได้ ทำไงล่ะเงินหลักหมื่นที่เอาไปลงก็โบกมืออำลาไป

ลองเดาซิว่าน้องวายจะทำยังไงต่อ น้องวายก็หาที่เทรดเงินใหม่ทั้นทีจ้า ประมาณว่า ‘ฉันต้องได้เงินจำนวนที่เสียไปคืนมา’ ตอนนี้น้องวายเริ่มเข้าสู่โหมดกอลั่มทำยังไงถึงได้เงินมาเยอะๆ และเร็วที่สุด พวกเพื่อนๆ พี่ๆ หลายคนเตือนแล้วก็เหมือนจะฟังแต่ก็ไม่ฟัง จนน้องวายหากลุ่มเทรดเงินกลุ่มใหม่ได้ กลุ่มนี้ตอนแรกดูเหมือนจะดี แต่สุดท้ายก็เป็นเหมือนเดิมแต่ที่ไม่เหมือนเดิมคืนเงินที่เสียไปมันเป็นเงินจำนวนหกหลัก น้องวายก็เหมือนจะขยาดการหาเงินด้วยวิธีไปนะ

‘คุณเป็นคนที่ใช้อินเตอร์เน็ตทุกวันใช่มั้ย คุณเล่นเฟสบุ๊คและยูทูปใช่มั้ย คุณมีเวลาว่าวันละ 2-3 ชั่วโมงใช่มั้ย ถ้าใช่เชิญคุณมาทำงานกับเราสิ’

เชื่อว่าทุกคนเคยเห็นวิธีเชิญชวนทำงานด้วยคำพวกนี้กันมาบ้าง และนั้นเป็นวิธีหาเงินวิธีใหม่ของน้องวายค่ะ วิธีการทำงานของบริษัทนี้ไม่ยาก แค่คุณคอมเมนต์สินค้าในเฟสบุ๊คที่บริษัทกำหนดมาให้หรือดูคลิปยูทูปตามจำนวนที่กำหนดก็ได้เงินมาใช้แล้ว มันดูเป็นวิธีที่ง่ายและโอเค แต่ที่เราว่ามันดูทะแม่งๆ คือ ก่อนที่เราจะทำงานได้เราต้องเอาเงินของเราไปลงให้กับบริษัทก่อน

‘เรามีห้าราคาให้คุณได้เลือกลงตามกําลังศรัทธาค่ะ ยิ่งลงมากยิ่งได้เงินมาก ชิตังเม โป้ง รวย’ อะไรประมาณนั้น

สิงที่ทำให้เรารู้สึกแปลกๆ คือเราต้องเอาเงินไปลงให้เค้าเนี่ยแหละค่ะ มีอย่างที่ไหนจ้างเราทำงานแต่ให้เราเอาเงินไปจ่ายให้เนี่ยนะ มันแปลกๆ อยู่นะ มันคิดจะโกงหรือเปล่าหว่า

“เค้าไม่โกงหรอก ถ้าเลิกทำเค้าก็คืนเงินให้” ขอให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ เถอะ

วันเวลาก็ผ่านไป เออมันได้เงินมาจริงๆ ว่ะ น้องวายเริ่มปลดหนี้ได้ หรือว่าฉันจะลองทำบ้างดีนะ แล้วถ้ามันโกงจะทำไง ขอดูทาทีอีกสักหน่อยแล้วกัน ถ้ามันไม่โกงจะลงบ้าง

ทีนี้คำว่า ‘ลัคกี้อินเกมแต่อันลัคกี้อินเลิฟ’ ก็เริ่มเข้ามาหาน้องวาย เมื่อพี่เสือเกิดปัญญาหาด้านการเงินเลยมาของยืมเงินน้องวาย น้องวายให้ยืมไป 4-5 วันหลังจากที่ให้ยืมเงินไปพี่เสือก็โทรหา แต่ปลายสายไม่ใช่พี่เสือ แต่เป็นเมียพี่เสือ ใช่ค่ะพี่เสือมีเมียแล้วลูกสองด้วย วันนั้นน้องวายโดนทางนั้นด่าอยู่ฝ่ายเดียวด้วยความช็อคเลยพูดอะไรไม่ออก พอตั้งสติได้ก็นัดเคลียและขอเงินที่ให้ยืมไปคืน ทางนั้นหน้าด้านยิ่งกว่าปูนซีนเมนต์ไม่ยอมคืนเงินให้ แล้ววันนั้นน้องวายไปคนเดียวก็ไม่กล้าทำอะไรทางนั้น

กว่าจะนัดเจออีกครั้งได้ก็ลำบากลำบนขนาดตามไปถึงที่ทำงานพี่เสือยังไม่ยอมมาเจอเลย พอนัดมาเจอได้คุยกันทางนั้นก็ตกลงจะทะยอยคืนเงินให้ น้องวายก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติไม่ติดต่อกับพี่เสืออีก

น้องวายเห็นว่าบริษัทนั้นทำเงินได้น้องวายก็ลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ มากจนต้องจ้างคนอื่นมาช่วยทำ

เวลาก็ผ่านไปวันนึงตอนเลิกงานเราก็เห็นรถคุ้นๆ มาจอดรอรับน้องวาย เช้าวันต่อมาเลยไปถามว่าใครมารับคำตอบคือพี่เสือจ้า ไอ้เราก็อ้าว... เลิกกันไปแล้วไม่ใช่เหรอเค้ามีลูกเมียแล้วนะเฮ้ย

“พี่เสือเค้าบอกว่าเค้ากำลังจะเลิกกับเมียเค้า”

คำนี้คุ้นๆ กันมั้ยคะ ‘เค้ากำลังจะเลิกกับเมีย’ แต่เค้ายังไม่ได้เลิกไง แล้วไอ้ที่พูดพูดจริงหรือเปล่าเชื่อถือได้หรือเปล่า เชิญปรึกษาพี่อ้อยพี่ฉอดมั้ยคะ เคยป็นมือที่สามแล้ว ดึงตัวเองออกมาได้แล้ว แล้วทำไมต้องเดินกลับเข้าไปในวังวนเดิม ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ดี จริงอยู่ที่ผู้ชายคนนี้อาจเป็นคนดีมาก ข้อเสียข้อเดียวที่ใหญ่ที่สุดและไม่ควรให้อภัยคือมีลูกเมียแล้ว เค้ากล้านอกใจเมียแล้วมั่นใจเหรอว่าเค้าจะไม่นอกใจเรา

สำหรับน้องวายน่าจะใช้คำว่าหลงได้เนอะ คนมันหลงไปแล้วต่อให้มีสักกี่คนหวังดีขนาดไหน พูดเตือนไปสักเท่าไหร่ก็ไม่ฟังหรอก สิ่งที่เราทำได้คือรอดูบทสรุปที่มันจะเกิดขึ้นเท่านั้น

‘อันลัคกี้อินเกมและอันลัคกี้อินเลิฟ’ ของจริงเริ่มขึ้นแล้ว เมื่อไอ้บริษัทที่น้องวายเอาเงินไปลงให้เค้ามันเริ่มไม่โอนเงินค่าทำงานให้ คือตอนนี้เงินที่ไปลงเป็นจำนวนประมาณเจ็ดหลักแล้ว ทีนี้ก็เริ่มลำบากล่ะ เงินที่เบิกก็ไม่ได้ เงินค่าจ้างก็ต้องจ่าย ติดต่อถามไปทางบริษัทก็บอกว่ากำลังดำเนินการ บลาๆๆ ตอนนี้น้องเคลียดมากด้วยหลายๆ ที่เข้ามาพร้อมกันจนสภาพใกล้จะเป็นผีดิบเข้าไปทุกวัน

พักเที่ยงวันนึงน้องวายก็ออกไปธุระข้างนอก แต่สภาพตอนกลับเข้าที่บริษัทนี่คือดูไม่ได้เหมือนไปฟัดกับหมามา พยายามถามอยู่ตั้งนานกว่าจะยอมบอกว่าโดนเมียพี่เสือตบ แล้วน้องวายก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

สรุปคือที่เมื่อตอนเที่ยงออกไปคือเมียพี่เสือเรียกไปคุยเพราะเค้าจับได้ว่าน้องวายยังไม่เลิกกับพี่เสือ แล้วไอ้พี่เสือมันไม่ได้กำลังจะเลิกกับเมีย ตอนนี้เมียเค้ากำลังท้องลูกคนที่สามอยู่จ้า คุยกันอีท่าไหนไม่รู้เลยมาจบลงที่การตบกัน ตอนจะออกไปหาเค้าน้องวายไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวโดนว่า คือพี่ๆ เค้าเตือนฉันแล้วแต่ฉันไม่ฟังอะไรประมาณนี้

เราก็ถ่ายรูปร่องรอยบนตัวน้องวายไว้ พาไปตรวจร่างกายเอาใบรับรองแพทย์แล้วก็ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ ตอนนี้น้องวายก็เลิกติดต่อกับพี่เสืออย่างเด็ดขาด ส่วนไอ้พี่เสือก็ต้องทะยอยคืนเงินให้น้องวาย

เรื่องอันลัคกี้อินเลิฟก็จบไปเหลือเรื่องอันลัคกี้อินเกม หลังจากที่ถามเรื่องเงินที่ถอนไปกับบริษัทตั้งแต่วันนั้น ก็ไม่มีเงินที่เบิกโอนเข้ามาในบัญชีเลยแม้แต่บาทเดียว เงินที่น้อยวายเพิ่งลงไปก็ลาจากกันไปตลอกกาล แล้วเรื่องมันก็เริ่มพีคขึ้น หลังจากนั้นไม่นานไอ้บริษัทนั้นก็ปิดไป ตัวเจ้าของบริษัทหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน แล้วก็โดนตำรวจจับตัวไว้ได้ จนกระทั่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เงินคืนสักบาทเดียว

เรื่องที่เราเอามาเล่าให้ทุกคนได้รู้ เราก็หวังว่าทุกคนจะดูไว้เป็นตัวอย่างในเรื่องความรักอย่ารักอย่าหลงกับภาพที่ผู้ชายสร้างขึ้นมามากจนเกินไป อย่าตามืดบอดแม้เห็นความจริงอยู่ตรงหน้าแต่กลับทำมองไม่เป็น และอย่าโลภมากเกินไป จะลงทุนอะไรก็ระวังใหมาก แรกๆ มันอาจได้มันอาจดี แต่สุดท้ายเราอาจต้องกลับมาเป็นหนี้มากกว่าเป็นเศรษฐีอย่างที่เราหวัง

หน้าปกhttps://anukulport.com/articleView/th/6/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%B0-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%B0-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%B0

รูป1https://www.gangbeauty.com/topic/111321

รูป2http://nicereviewthai.blogspot.com/2018/09/nice-review_21.html

รูป3https://www.fungjaizine.com/quick_read/snacks/broken-hearted-songs