อื่นๆ
บุรุษปริศนาบนรถเมล์

คนที่เคยเดินทางด้วยรถเมล์ในกรุงเทพฯ ตอนดึกๆ คงจะพอนึกภาพออกใช่มั้ยครับว่าบรรยากาศบนรถยามวิกาลเป็นอย่างไร
รถเมล์ที่เคยมีคนยัดแน่นส่งเสียงจอแจมาตลอดทั้งวัน ถึงเวลานั้นจะโล่งแล้ว ยิ่งถ้าเป็นรถกะดึกสักตี 2-3 ถึงตอนนั้นจะเหลือแต่เสียงเครื่องยนต์ให้ได้ยิน เหลียวมองไปข้างหลัง ข้างซ้าย ข้างขวา น้อยครั้งที่เจอจะใคร มนุษย์ที่อยู่ใกล้ที่สุดคือคนขับกับกระเป๋าที่อยู่ห่างออกไปถึงหน้ารถ
เป็นความวิเวกวังเวงใจกลางมหานคร แม้มองออกไปนอกหน้าต่างรถ กรุงเทพฯ ที่เคยคึกคัก ยามค่ำคืนก็ตกอยู่ในความมืดและเงียบงัน โดยเฉพาะรถเมล์ที่แล่นผ่านย่านชานเมืองออกมาหน่อย
ทุกทีที่ผมอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้น จะคิดถึงประสบการณ์ของรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยขึ้นมาทันที
พี่นพเป็นเด็กต่างจังหวัด เพิ่งจะเข้ากรุงเทพฯ ก็ตอนมาเรียนมหาวิทยาลัย แต่แกปรับตัวได้เร็ว เข้ามาแป๊บเดียวก็นั่งรถเมล์คล่อง อาศัยรถเมล์เป็นพาหนะหลักเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะเวลาที่แกไปทำงานพิเศษเป็นนักดนตรีที่ร้านอาหารแล้วต้องเลิกดึก แม้ต้องรอรถกะดึกเป็นชั่วโมงเพื่อกลับหอ แต่ก็ดีกว่าต้องควักเงินหลายร้อยเพื่อนั่งแท็กซี่
Advertisement
Advertisement
พี่นพเป็นผู้ชาย มีความแก่นกล้าประสาเด็กบ้านนอก ก็ไม่ได้กลัวอะไรหรอกครับกับการต้องกลับบ้านตอนเปลี่ยวๆ ยิ่งเรื่องเหนือธรรมชาติยิ่งไม่เชื่อเอาเสียเลย แกบอกว่าคนน่ากลัวกว่าเยอะ ซอยหอแกเปลี่ยวเสียด้วย ต้องพกมีดใส่เป้ไว้ให้อุ่นใจ
คืนนั้น พี่นพรอรถเมล์จนเกือบจะถอดใจไปนั่งแท็กซี่อยู่แล้ว ทั้งเหนื่อยทั้งยังกรึ่มมานิดหน่อย แต่สุดท้ายรถก็มาตอนเกือบตีสาม
บนรถมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่แล้วที่เบาะหลังสุด เธอไม่สวยพี่นพเลยไม่ได้สังเกตนัก แกก็เลือกที่นั่งใกล้ประตูกลางรถ ตามความชอบของแกที่ไม่นิยมไปนั่งใกล้คนอื่นนัก แกบอกว่าถ้าสวยก็ว่าไปอย่าง
ผู้โดยสารมีสองคนอยู่นาน จะรถผ่านไปสักเจ็ดป้าย หญิงสาวก็เดินผ่านหน้าพี่นพลงไปทางประตูหน้า พี่นพไม่ได้สนใจเช่นเคย ยังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ หูฟังเสียบหูเพื่อฟังพอดแคสต์ไปเรื่อย
Advertisement
Advertisement
"แกร็กกกกก"
รถแล่นไปสักพัก ก็มีเสียงดังขึ้นจากหลังรถ สภาพรถเมล์ค่อนข้างเก่า พี่นพเลยไม่ได้สนใจ คิดว่าเป็นเสียงเครื่องยนต์ แต่ก็นึกประหลาดใจอยู่บ้าง เพราะเสียงฟังดูคล้ายๆเวลาแกใส่รองเท้า ร.ด. แล้วแกว่งเอาเหล็กข้างรองเท้าไปกระแทกเสาเหล็ก
"แกร็กกกกกก"
เสียงดังขึ้นอีก จนแกนึกรำคาญ ก็พอดีกลับที่รถเมล์ถึงป้ายหน้าหอแก
พี่นพเดินลงจากรถ ก่อนจะก้าวเท้าเข้าหอ ไม่รู้อะไรดลใจให้เหลียวมองขึ้นไปบนรถเมล์
ที่ท้ายรถ เบาะเดียวกับที่หญิงสาวเคยนั่งอยู่ มีชายวัยกลางคน ใส่เครื่องแบบทหาร นั่งจ้องมองมายังพี่นพตาเขม็ง
พี่นพยืนยันมั่นใจมาก ว่าแกนั่งติดกับประตู ไม่มีมนุษย์คนไหนเดินผ่านแกไปที่ท้ายรถได้โดยที่แกไม่เห็นแน่นอน
พี่นพจึงเชื่อว่า ทหารปริศนาคนนั้นไม่ใช่มนุษย์
ความคิดเห็น
