อื่นๆ

รับน้องใหม่ออฟฟิศหลอน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
รับน้องใหม่ออฟฟิศหลอน

     ท่ามกลางความเงียบในยามค่ำ  ในช่วงเวลาที่หลายๆคนกำลังสาละวนกับการเดินทาง  กลับบ้านหลังเลิกงาน ฉันเองกำลังเร่งมือแก้ไฟล์งานให้เสร็จเรียบร้อย  อยากจะกลับบ้านเต็มทีแล้ว ฉันเพิ่งเข้ามาทำงานที่ได้เพียงเดือนเศษๆ  บริษัทขนาดใหญ่มีหลายชั้น หลายแผนก  ในแผนกของฉันเองนอกจากห้องกว้างๆที่มีโต๊ะทำงาน  ยังมีห้องผู้จัดการ  ที่กั้นเป็นสัดส่วนอยู่ในแผนกด้วย  นอกจากโต๊ะทำงานนับสิบๆตัวของเพื่อนร่วมแผนก  ยังมีตู้เอกสารโต๊ะวางเครื่องแฟกซ์ส่วนกลาง  พวกตู้ๆต่างๆทำให้ห้องมีซอกหลืบ บังสายตา จนทำให้ฉันลืมสังเกตุไปว่า  เพื่อนร่วมแผนกเริ่มทยอยกลับไปแล้ว 

     หลังจากได้รับคำสั่งแก้ไขงาน  จากผู้จัดการมาเมื่อตอนห้าโมงเย็น  ฉันก็ก้มหน้าก้มตารีบทำงาน  แต่เจ้ากรรมยิ่งรีบ  ก็ยิ่งผิดพลาด  ฉันตัดสินใจสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ  แล้วเดินออกไปในส่วนห้องเพนทรีด้านนอก  เพื่อดื่มน้ำเย็นๆให้สดชื่นขึ้น ตั้งสติเพื่อทำงาน

Advertisement

Advertisement

ออฟฟิส

     เมื่อเดินกลับเข้ามาในห้อง  ฉันเห็นแสงไฟลอดมาจากมู่ลี่ในห้องทำงานผู้จัดการ  เลยคิดว่าสงสัยคงยังไม่กลับ  ด้วยความที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน  ฉันต้องแสดงฝีมือให้ทุกคนเห็น  ว่าความสามารถของฉันคู่ควรกับตำแหน่ง   ในระหว่างความคิดคำนึง ฉันเดินผ่านโต๊ะเพื่อนร่วมแผนก สายตาเหลือบไปเห็นเหรียญพระองค์เล็กๆ  วางอยู่บนชั้นเอกสารเหนือโต๊ะ  แต่มันจะไม่น่าแปลกใจหรอก  ถ้าฉันจะไม่เผลอสังเกตเห็นว่าบนโต๊ะทำงานของเพื่อนร่วมแผนกแทบทุกคน  มีเหรียญพระหรือเครื่องราง วางกันแทบทุกโต๊ะเลย ตอนนั้นนึกในใจว่า สงสัยในแผนกจะไปงานบุญผ้าป่าสามัคคี  เลยได้เหรียญพระมาบูชากันถ้วนหน้า  

พระจันทร์คืนเดือนมืด

     เวลาเลิกงานของบริษัทแห่งนี้  คือหกโมงเย็น  บางแผนกอาจมีงานเร่ง  ก็มีคนอยู่เกินเวลากันไปบ้าง  ฉันเลยพออุ่นใจได้บ้าง อย่างไรก็ตั้งใจว่าไม่เกินหนึ่งทุ่ม  น่าจะเคลียร์งานให้จบแล้วกลับ  ในขณะทำงาน  ฉันตัดสินใจเปิดวิทยุออนไลน์เอาไว้  เพื่อไม่ให้ห้องเงียบเกินไป  ในขณะที่ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างตั้งอกตั้งใจ  ก็ได้ยินเสียงเลื่อนเก้าอี้ในห้องผู้จัดการ  สลับกับเสียงคล้ายของตกลงบนพื้น ฉันไม่ได้สนใจอะไรยังคงทำงานต่อไป  จากนั้นจู่ๆเสียงวิทยุที่เปิดเพลงเอาไว้   เสียงก็เบาลงแล้วก็ดังขึ้น  ราวกับมีใครมาช่วยปรับลดระดับเสียงให้อย่างนั้นแหละ   เสียงดังสลับเบาอยู่สักพัก  ก็กลับมาปกติ  ตอนนั้นก็รู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกัน แต่เอาเถอะงานต้องมาก่อน สักพักมีเสียงคล้ายคนนั่งบนเก้าอี้แล้วหมุนเล่นอยู่ด้านหลัง  ฉันหันขวับไปมองพบเพียงความว่างเปล่า เอาล่ะสิ โดนรับน้องแล้วมั้ยเนี่ย 

Advertisement

Advertisement

      จังหวะนั้นงานใกล้เสร็จแล้ว  มีเสียงแฟกซ์ดังขึ้น  เหมือนจะมีใครส่งเอกสารมา แต่นี่เกือบทุ่มแล้วใครจะแฟกซ์อะไรมาป่านนี้ แน่นอนฉันไม่ลุกไปดูหรอก  นี่มันยามหน้าสิ่วหน้าขวานชัดๆ  ฉันรีบกดปุ่มแนบไฟล์  ส่งอีเมล์งานที่แก้ไขเรียบร้อย  จากนั้นรีบปิดคอมและเก็บของภายในเวลาที่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้   

     เมื่อคว้ากระเป๋าได้   ฉันจึงเดินไปที่ห้องผู้จัดการ   กะจะเดินไปแจ้งว่าส่งงานเรียบร้อยแล้ว  และจะสวัสดีร่ำลาก่อนกลับบ้านด้วย เดินจ้ำไปด้วยความไวแสงอยากไปให้พ้นๆ  จากสถานการณ์หลอนๆนี่ซะที  เคาะประตูห้องผู้จัดการแล้วมีเพียงความเงียบ   รออยู่อึดใจเลยตัดสินใจหมุนลูกบิดประตู   ทันทีที่ประตูเปิดออก  ฉันเห็นเพียงความว่างเปล่า   ไม่มีใครอยู่ในนั้น!!!

ขอบคุณ

ภาพโดย Markus Spiske จาก Pixabay

ภาพโดย Pexels จาก Pixabay

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์