ห้องพักเก่าในเมืองใหญ่

      เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นกับลุงจ้อย ลุงจ้อยเป็นลุงข้างบ้านผมเองครับ ลุงเเกทำอาชีพเกษตรกร ทำไร่ ทำนา เป็นคนใจดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เเต่เสียอยู่อย่างเดียวคือเเกติดพนันครับ หรือพูดง่าย ๆ ตามประสาชาวบ้านคือเเกเป็นผีพนันนั่นเเหละ เรียกได้ว่ามีบ่อนพนันที่ไหน เเกก็จะตามไปที่นั่น คนเเถวบ้านนี่รู้จักเเกหมดด้วยชื่อเสียงของความเป็นผีพนันเนี่ยเเหละ

      มีอยู่วันหนึ่งลุงจ้อยเเกก็ออกไปเล่นพนันของเเกตามปกติ เเต่มันไม่ปกติตรงที่ว่าวันนั้นเเกดันเล่นเสียเงินไปเยอะมาก เเล้วด้วยความโลภในจิตใจเเกเลยตัดสินใจไปกู้หนี้นอกระบบมาเพื่อเล่นพนันอีกรอบ เพื่อหวังจะเอาเงินที่ได้จากการเล่นพนันไปจ่ายค่าพนันที่ติดไว้

      ความซวยบังเกิดเมื่อเวลาผ่านไปเกือบสามเดือน เจ้าหนี้ได้เข้าทวงหนี้เเกถึงหน้าประตูบ้าน ด้วยตัวเลขเงินเกือบครึ่งล้าน ซึ่งมันเยอะมากสำหรับคนที่ทำอาชีพเกษตรกรที่มีรายได้ไม่เเน่นอน ลุงเเกก็เลยเครียดมาก ไม่มีเงินใช้หนี้ เเถมยังมีลูกมีเมียที่ต้องดูเเล ลูกก็พึ่งจะอายุครบ 3 ขวบมาหมาด ๆ เมียเองก็ไม่มีงานทำต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูก ด้วยความจำใจ เเกเลยบอกเมียว่าจะออกไปหาเงินทำที่กรุงเทพเพื่อมาใช้หนี้ที่ได้กู้ไป เเรก ๆเมียก็ไม่ยอม เเต่ทำยังไงได้ ถ้าอยู่ที่นี่ต่อไปคงไม่มีเงินมาใช้หนี้เกือบครึ่งล้านเเน่นอน ถ้าเป็นอย่างนั้นเเล้วพวกเจ้าหนี้มันอาจจะมาทำร้ายครอบครัวอันเป็นที่รักของเเกได้

     งานที่ลุงจ้อยได้รับทำคืองานโรงงาน เป็นงานที่ต้องใช้พละกำลังเป็นส่วนใหญ่ เเต่ว่าเงินเดือนนั้นค่อนข้างดีเลยทีเดียว ทำให้ลุงพอมีหวังว่าอาจจะใช้หนี้ได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี ชีวิตของลุงก็ได้ดำเนินไปเรื่อย ๆ ทำงาน กลับห้อง พักผ่อน วนอยู่อย่างนี้เกือบหนึ่งสัปดาห์ ทุกอย่างปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งเริ่มต้นสัปดาห์ที่สอง เหตุการณ์ประหลาดก็ได้เกิดขึ้นกับลุงจ้อย ในคืนวันนั้นต้องกลับห้องดึกเพราะทำโอที ขณะที่ลุงกำลังอาบน้ำจู่ๆก็มีเสียงหมาหอนดังอยู่หน้าห้อง เเรก ๆ ก็ไม่เเปลกอะไรจนกระทั่งมีเสียงคนเคาะประตูจากด้านนอก เคาะเเรงมากจนลุงตกใจรีบเดินไปที่ประตู พร้อมตะโกนเสียงดังว่า " ใครวะ " เเต่เสียงเคาะยังคงดังขึ้น ๆ เรื่อย ๆ ลุงหมดความอดทนเลยเปิดประตูออกไป เเต่กลับไม่มีคนอยู่หน้าห้องเลยเเม้เเต่คนเดียว 

      ลุงจ้อยเเกก็ไม่ได้เอะใจอะไร กลับไปอาบน้ำต่อจนเสร็จเตรียมพร้อมนอนหลับพักผ่อน สักพักเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาทีก็มีเสียงหมาหอนขึ้นอีกครั้ง เสียงหมาหอนปลุกลุงให้ลืมตาตื่น เเต่ทว่าร่างกายกลับไม่ตื่นตามไปด้วย ตอนนี้มีเพียงดวงตาที่ลืมขึ้นมา เเต่ร่างกายกลับเเข็งทื่อ ลุงตกใจอย่างมากว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ขยับก็ไม่ได้ ตะโกนออกไปก็ไม่มีเสียงเล็ดลอด เเล้วจู่ ๆ ก็มีภาพผู้หญิงผมยาวใส่ชุดพนักงานโรงงานปรากฏอยู่ตรงหน้า เธอเดินไปรอบ ๆ ห้อง พร้อมทั้งจ้องมองลุงไปด้วย ร่างกายของเธอซีดเซียว ผมยาวปกปิดใบหน้า ช่วงท้องมีมีดปักอยู่จนเลือดไหลซิบ ตอนนี้ลุงจ้อยเเทบช็อค ขนลุกชูชันไปทั่วร่าง ผมฟูชี้ฟ้า ซึ่งเป็นปฏิกิริยาของคนเห็นผี

      ผีสาวตนนั้นหยุดเดินเเละได้เดินขึ้นมาเหยียบที่อกของลุง ลุงจ้อยหายใจไม่ออก ได้เเต่ยกมือไหว้สวดมนต์ เเต่ในขณะที่ลุงสวดมนต์อยู่นั้นเอง เขาก็นึกขึ้นได้ว่า ก่อนที่จะมาที่นี่ มีหลวงพ่อเเถวบ้านได้ให้คาถากันผีดีๆเอาไว้กับตัว ลุงจ้อยไม่รอช้ารีบสวดคาถานั้นทันที ผีสาวได้ยินดังนั้นก็ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ไม่นานร่างเธอก็หายไป

      ลุงจ้อยได้นำเรื่องนี้ไปเล่าให้คนในโรงงานฟัง จนได้คำตอบว่าอันที่จริงเเล้วห้องพักที่ลุงพักอยู่นั้นมันเป็นห้องพักเก่าของคนงานผู้หญิงที่เคยทำงานอยู่ที่นี่ เธอโดนหัวหน้างานด่าจนเครียดหนักมาก เเถมเธอยังป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอีก บ้านก็ไม่มี พ่อเเม่ก็เสียไปเเล้ว มันเลยทำให้เธอคิดสั้นใช้มีดเเทงที่ท้องเพื่อฆ่าตัวตาย

       พูดจบลุงจ้อยก็หน้าซีดเผือดพร้อมกับคิดว่าดีนะที่ตัวเองได้คาถาดี ไม่งั้นคงโดนผีลากไปอยู่เป็นเพื่อนด้วยเเน่ ๆ หลังจากนั้นเพื่อนร่วมงานลุงก็ได้ให้ผ้ายันต์กับลุงไว้เผื่อเเปะเอาไว้หน้าห้องเพื่อป้องกันผี เพราะเพื่อนร่วมงานคนนั้นเองก็เคยอยู่ห้องนั้นมาก่อน ก่อนที่จะย้ายออกมาเพราะเจอที่ใหม่ ลุงจ้อยเห็นดังนั้นเลยรับมาเเต่โดยดีพร้อมทั้งนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ลูกเมียที่บ้านฟัง 

      Cover Photo by DarkWorkX on Pixabay