ไลฟ์แฮ็ก
3 วิธี เลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง

ย้อนกลับไปก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ ผู้คนมากมายต่างเริ่มตั้งปณิธาน ของตัวเองขึ้นมา บ้างก็บอกว่า ปีหน้าฉันจะตั้งใจทำงาน เก็บเงินเพื่อสร้างบ้าน บ้างก็บอกว่า ปีหน้าฉันจะตั้งใจออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก ให้ตัวเองดูดีขึ้น แต่พอระยะเวลาเริ่มผ่านไป สักประมาณสองถึงสามเดือน น้อยคนนักที่จะยังคงทำตามคำพูดที่ตัวเองเคยพูดเอาไว้เมื่อปีก่อน สาเหตุที่ทำให้คนเหล่านั้นล้มเลิกความตั้งใจ มาจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องของความขี้เกียจ หรือไม่มีเวลาว่าง และอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความตั้งใจนั้นได้ล้มเลิกไป นั่นคือ การผัดวันประกันพรุ่ง
การผัดวันประกันพรุ่ง คือการที่ตัวเราเองนั้น ตั้งเป้าหมายสำคัญ ๆ เอาไว้ แต่กลับเลือกทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม ยกตัวอย่างเช่น เย็นนี้ฉันจะรีบเข้าฟิตเนส เพื่อออกกำลังกาย แต่พอเอาเข้าจริง ๆ กลับไปเข้าคาเฟ่เสียอย่างนั้น แล้วก็มาบอกกับตัวเองว่า เอาไว้วันหลังละกัน วันนี้ขอมาคาเฟ่ก่อน พอวันถัดไปก็จะพูดอย่างนั้น ทำอย่างนั้นซ้ำ ๆ จนกระทั่งมาคิดได้อีกครั้ง หลังจากที่เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ผู้เขียนเองก็เคยประสบปัญหาแบบเดียวกันมาก่อน แต่ปัจจุบันนี้สามารถเลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่งของตัวเองได้แล้วในระดับหนึ่ง จึงอยากจะมาเขียนเทคนิคหรือเคล็ดลับ ที่จะช่วยทำให้เพื่อน ๆ เลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่งของตัวเองลงได้บ้าง เพื่อชีวิตที่สดใส และเป้าหมายปีใหม่ที่เป็นจริง
Advertisement
Advertisement
3 วิธี เลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง
1. ใช้กฎ 5 วินาที
เคยสังเกตกันบ้างไหม ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกที่จะทำอะไรสักอย่าง มันมักจะมีช่วงเวลาที่ทำให้เราหยุดคิด ว่าเราควรเลือกทำอะไรดี เราจะใช้ช่องวางระหว่างนั้นในการรีบตัดสินใจทันที นับ 1 2 3 4 5 พอสิ้นสุดเลขห้าปุ๊บ ให้เราบังคับตัวเองเดินไปทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ ยกตัวอย่างเช่น ก่อนที่คุณจะเลือกระหว่างการออกไปกินของหวานที่คาเฟ่ กับออกไปเข้าฟิตเนส ให้นับถอยหลังห้าวิ แล้วบังคับตัวเองให้ไปที่ฟิตเนสทันที ตอนตัดสินใจทำ สมองมันจะงงนิดหน่อย ว่าทำไมเราถึงเลือกไปทางนี้ เพราะโดยปกติแล้วสมองมันจะเลือกสิ่งที่ง่าย และสบายให้กับตัวเราเสมอ แต่บางครั้งไอ้สิ่งที่ง่าย หรือสิ่งที่สบายนั้น มันคือสิ่งที่จะมาทำลายเป้าหมายของเรา พอเราเลือกเป้าหมายที่มันขัดกับสมอง ช่วงแรกมันก็จะงงหน่อย แต่พอผ่านไปได้สักพัก สมองมันจะเออออตามเราเองโดยอัติโนมัติ
Advertisement
Advertisement
2. เอากิเลสออกไปให้ห่างจากตัว
ปกติแล้วสมองมันจะเลือกสิ่งที่ทำให้เราสบาย และมีความสุขที่สุด และอีกอย่างคือมันจะเลือกหยิบจับสิ่งที่ใกล้ตัวเราที่สุดด้วย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณตั้งใจที่จะฝึกเล่นกีต้าร์ แต่กีต้าร์ของคุณนั้นอยู่ชั้นล่างของบ้าน หรืออยู่ห่างตัวคุณเกือบ 10 เมตร แต่สิ่งที่อยู่ใกล้กับตัวคุณที่สุดคือ โทรศัพท์มือถือ และรีโมททีวี ถ้าเป็นแบบนี้สมองคุณจะไม่เลือกไปหยิบกีต้าร์ แต่จะเลือกเล่นมือถือ หรือไม่ก็เปิดดูทีวีแทน เพราะมันไม่อยากให้ร่างกายสูญเสียพลังงานเพื่อเดินไปหยิบกีต้าร์ เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณควรทำ ถ้าหากอยากเล่นกีต้าร์เก่ง คุณต้องจัดวางเสียใหม่ เอาโทรศัพท์ไว้ห่างจากตัวคุณ เอารีโมททีวี หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันมักจะล่อลวงกิเลสของคุณออกไปให้ห่างจากตัว แล้วนำกีต้าร์ตัวนั้นมาอยู่ใกล้กับตัวคุณมากที่สุด เมื่อเป็นอย่างนี้ สมองคุณก็จะเลือกหยิบกีต้าร์ที่วางอยู่ใกล้ ๆ มาฝึกเล่น แทนที่จะลุกไปหยิบมือถือที่อยู่ไกลออกไป ยิ่งถ้าคุณเอาไว้ห่างไกลจากตัวมากเท่าไหร่ ร่างกายก็จะไม่มีความรู้สึกอยากหยิบมาเล่นมากขึ้นเท่านั้น
Advertisement
Advertisement
3.ทำทีละนิด ไม่มากแต่ได้ผล
อย่างที่ได้บอกไปว่า สมองมันมักจะเลือกให้เราทำให้สิ่งที่ง่ายที่สุด แทนที่จะทำสิ่งที่มันยาก และสูญเสียพลังงานเยอะ ถ้าเป็นอย่างนั้น เราต้องซอยสิ่งที่ยากออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ หลักการก็คือ แทนที่คุณจะตั้งเป้าหมายว่า วันนี้ฉันจะอ่านหนังสือสอบให้ครบทุกวิชา โอ้โห แค่ฟังก็ดูเหนื่อยแล้ว สมองมันคงไม่ยอมทำตามแน่เลย แต่ถ้าลองปรับเปลื่ยนความคิดเสียใหม่เป็น วันนี้ฉันจะอ่านหนังสือวิชาเดียว และจะอ่านเพียงแค่ 10 – 15 นาทีเท่านั้น ทีนี้เป้าหมายมันก็จะน้อยลงมาแล้ว ความยากในการควบคุมสมองก็จะน้อยลง จากนั้นคุณก็จะเริ่มอ่านหนังสือเอง แต่บางคนก็มักจะใช้ไม่ได้ผล เพราะยังคงคิดว่ามันเยอะเกินไป งั้นลองปรับให้มันน้อยลงมาอีกดูไหมล่ะ เช่น วันนี้ฉันจะอ่านหนังสือ 2 หน้า แล้วก็พอเลย จบเลิก เท่านี้มันก็จะเป็นการสร้างตัวล่อให้สมองแล้วว่า เฮ้ย อ่านสองหน้าเองเหรอ แค่นี้สบาย ๆ อยู่แล้ว แต่พอลองอ่านไปสักพัก รับรองเลยว่าจากที่ตั้งใจจะไปอ่านสองหน้า มันจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากสองหน้า เป็นสามหน้า สี่หน้า ไปเรื่อย ๆ จนกว่าสมองมันจะรู้ตัว เท่านี้คุณก็สามารถเอาตัวเองไปอ่านหนังสือได้แล้ว หรือไม่ก็ลองนำวิธีทั้งสามวิธีนี้ ไปประยุกต์ใช้ดู อาจจะช่วยแก้ไขนิสัยผัดวันประกันพรุ่งของคุณได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
สุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่าคุณจะใช้สักกี่ร้อย กี่พัน หรือกี่แสนวิธี ถ้าคุณไม่เริ่มทำด้วยตัวของคุณเอง มันก็คงไม่ได้ผลอยู่ดี ต่อให้เอานักปราชญ์ หรือใครก็ตามมาบอกคุณ ถ้าคุณไม่เริ่มด้วยตัวของคุณเอง ทุกอย่างมันก็คงไม่วันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมได้ เพราะฉะนั้น จงเริ่มทำมันซะ ก่อนที่นิสัยผัดวันประกันพรุ่งนี้จะเริ่มติดตัวคุณไป จนในที่สุดก็ไม่สามารถแก้ไขมันได้เลย ไว้เจอกันใหม่ในบทความหัวข้อถัดไป สำหรับวันนี้ ขอบคุณที่อ่านจนจบ สวัสดีครับ
===============
Written By นักเขียนไร้เงา
ขอบคุณรูปภาพหน้าปกจาก http://pxhere.com/en/photo/1427909
ขอบคุณรูปภาพที่ 1 จาก http://pxhere.com/th/photo/959022
ขอบคุณรูปภาพที่ 2 จาก http://pxhere.com/th/photo/1240848
ขอบคุณรูปภาพที่ 3 จาก http://pxhere.com/th/photo/863129
===============
ความคิดเห็น
