ความเดิมจากตอนที่แล้ว เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงจากการเดินทางด้วยรถสาธารณะ (อ่านเพิ่มเติมเรื่อง กักตัว หยุดเชื้อ เพื่อชาติ : Day.1 เมื่อฉันเป็นกลุ่มเสี่ยง) จึงต้องเฝ้าระวังและกักตัวแบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันมาเป็นระยะเวลา 14 วัน แม้จะกักตัว แต่ไม่ได้นอนหายใจทิ้ง เพราะหน้าที่การงานที่ยังดำเนินอยู่ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ แม้จะมีความเครียดแค่ไหนจากโรคภัยไข้เจ็บ ก็ต้องทำงานให้เจ้านายเห็นว่าทำงานได้ หลังจากกักตัว 14 วัน และต่อด้วยด้วยการทำงานที่บ้าน 8 วัน ก็ได้รับคำสั่งให้กลับไปทำงานต่อ ซึ่งการทำงานรอบนี้ต่างจากงานปกติที่เคยทำมา เพราะต้องมาทำงานทั้ง 7 วันจนกว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคจะคลี่คลาย ด้วยเหตุที่ยังเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแล้วไปต่อรถประจำทางเหมือนที่ผ่านมา ดังนั้น การกลับไปทำงานรอบนี่ เราต้องป้องกันตัวอย่างเต็มที่ เพราะเรามีหอบหืดและภูมิแพ้เป็นโรคประจำตัว รวมทั้งที่บ้านมีแม่อายุย่าง75 ปี และมีลูกชายอายุ 6 ขวบ ที่เป็นกลุ่มอ่อนไหว มีโอกาสเจ็บป่วยรุนแรงหากได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 เราเลยตั้งใจว่า จะไม่ให้ตัวเองและครอบครัวต้องเสี่ยงติดเชื้อ จึงตระเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวแน่นหนากว่าเดิม ใส่กันตั้งแต่ออกจากบ้านในช่วงเช้า แล้วใส่กันยาวไปจนกลับเข้าบ้าน บทความนี้ตั้งใจแบ่งปัน “3 Items พลาดไม่ได้ เมื่อต้องกลับไปทำงานหลังกักตัว” มาติดตามกันเลยค่ะ 1. หน้ากากป้องกันใบหน้า หรือ Face Shield ป้องกันใบหน้า ตา จมูก และปาก จากละอองฝอยที่จะกระเด็นมาโดน ปลอดภัย และวางใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าไห้ปลอดภัยชัวร์ ต้องสวมหน้ากากอนามัยควบคู่กันไปด้วยนะคะ 2. หน้ากากอนามัย : กลับมารอบนี้ไม่เสียดายหน้ากากอนามัยขอใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น ชั้นในสุดเป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ซึ่งเราซื้อไว้เมื่อปีที่ผ่านมา และชั้นนอกสุดเป็นหน้ากากอนามัยผ้ามัสลิน ละอองฝอยไม่มีโอกาสเข้าจมูกและปากเราแน่นอน 3. แว่นตานิรภัย : ซื้อจากร้านขายอุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งเป็นแว่นที่บุคคลากรทางการแพทย์สวมใส่เวลาที่ดูแลคนไข้ในห้องฉุกเฉิน แว่นตาโค้งเข้ารูปหน้า ใส่แล้วไม่เวียนหัว จึงใส่ได้ตลอดทั้งวัน นอกจาก 3 Items ข้างต้นแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ต้องติดไว้ในกระเป๋า คือ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สเปรย์แอลกอฮอล์ และทิชชูเปียก เพื่อทำความสะอาดมือได้บ่อยเท่าที่จะทำได้ ผู้คนรอบข้างอาจจะมองว่าโอเวอร์ แต่ขอแชร์ความรู้สึกว่า เราผ่านจุดที่เครียดที่สุดในชีวิตมาแล้วจากการกักตัว รวมทั้งการแบกรับความวิตกกังวลของตัวเองและคนในครอบครัวว่า “เราติดหรือยัง” ดังนั้น เราจะไม่ให้ความรู้สึกที่ย่ำแย่เหล่านั้นกลับมาบั่นทอนความรู้สึกของตัวเองและครอบครัวอีก อีกทั้งเวลาที่เราเจ็บป่วย ก็ไม่มีใครมาเหลียวแลนอกจากแม่แก่ ๆ ที่หาข้าวและน้ำมาเลี้ยงดูในช่วงกักตัว ดังนั้น เพื่อให้การกลับไปทำงานอีกครั้งในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เราจึงต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกันทุกอย่างให้พร้อมเพรียง เพื่อให้ตัวเอง ครอบครัว และสังคมปลอดภัยนั่นเองค่ะ // ภาพประกอบโดยผู้เขียน //