ภาพหน้าปกโดย Pexels จาก Pixabay สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน ^^ "ว่ายน้ำ" จัดว่าเป็นกีฬาทางน้ำประเภทที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่นิยมเล่นกัน แต่อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันลูกหลานของหลาย ๆ บ้าน มักจะเกิดอุบัติเหตุจากการว่ายน้ำสูงขึ้นมากและยังคงพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ เลยค่ะ เนื่องจากขาดความระมัดระวังในการดูแล และเด็ก ๆ ก็มักจะว่ายน้ำยังไม่ค่อยเก่งและแข็งมากพอ เนื่องจากขาดทักษะและความรู้เรื่องการว่ายน้ำ ดังนั้นการว่ายน้ำในวัยเด็กจึงต้องมีทักษะที่สำคัญ เพื่อให้การว่ายน้ำนั้นเกิดความปลอดภัยและลดการสูญเสีย โดยพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องหาวิธีสอนลูกว่ายน้ำให้ปลอดภัย เพื่อที่จะที่ทำให้เด็กสามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ค่ะ ภาพโดย StockSnap จาก Pixabay ดังนั้น ในวันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำ 4 วิธี สอนลูกว่ายน้ำให้ปลอดภัย เพื่อที่จะได้ลดการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ และทำให้ลูก ๆ ของท่านสามารถที่จะเอาตัวรอดในทุก ๆ สถานการณ์ได้อย่างปลอดภัยและถูกวิธี จะมีอะไรมาแนะนำบ้างนั้น มาตามดูกันได้เลยค่ะ 1. ต้องสอนลูกเสมอว่า ห้ามว่ายน้ำคนเดียว ให้มีเพื่อน ๆ อยู่ด้วยเสมอ เนื่องจากว่าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา จะได้มีคนคอยช่วยเหลือ และสามารถตะโกนเสียงออกไปได้จนกระทั่งมีคนได้ยินมาช่วยเหลือได้ทันการณ์ นอกจากนี้ เมื่อลูกของท่านต้องเจอกับภาวะวิกฤติตอนลงสระว่ายน้ำ ในบางครั้งการอยู่คนเดียว ทำให้ลูกของท่านไม่สามารถที่จะขอความช่วยเหลือจากใครได้ทัน หากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา จะทำให้เกิดอาการตื่นตะหนกจนทำให้เสียสติ และเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ดังนั้น การว่ายน้ำทุก ๆ ครั้งหากมีเพื่อนร่วมอยู่ด้วย ซักสองสามคนก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ ถ้าหากว่ามีสถานการณ์ฉุกเฉินก็จะได้พากันเข้าช่วยเหลือได้ทัน ภาพโดย Pexels จาก Pixabay 2. เมื่อรู้สึกว่าเหนื่อยหรือเริ่มเป็นตะคริวแล้ว ให้หยุดว่ายน้ำทันที เนื่องจากตะคริวถือเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนจมน้ำ ก่อนจะลงน้ำอาจะบอกลูก ๆ ว่า ควรวอร์มร่างกายให้พร้อมเสียก่อนที่จะลงน้ำ ด้วยการยืดเส้นยืดสายให้เรียบร้อยแล้วจึงค่อยลงสระ นอกจากนี้ หากในขณะที่ลูกกำลังว่ายน้ำอยู่นั้น เกิดเป็นตะคริวขึ้นมา สิ่งแรกที่ต้องมีเลยนั่นก็คือ "สติสัมปชัญญะ" ค่ะ ควรพยายามที่จะสอนลูกด้วยคำนี้เสมอ ให้เขาจำให้ขึ้นใจเลยนะคะ เพราะสติจะทำให้เราสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ เมื่อเรามีสติแล้ว สิ่งถัดมาจากนั้นก็คือ หากปรากฎว่าเราเป็นตะคริว ให้ลูกของท่านลอยตัวหงายขึ้น จากนั้นให้ว่ายน้ำด้วยการพยุงตัว กลับมายังขอบสระแล้วทำการเหยียดเท้าทั้งสองข้างของเราให้ตรง พยายามคอยนวดในจุดที่เป็นตะคริว จนกว่าตะคริวบริเวณดังกล่าวนั้นจะหายไป ซึ่งการนวดด้วยวิธีนี้ จะช่วยบรรเทาการเกร็งของกล้ามเนื้อได้พอสมควร ทำให้สามารถกลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ภาพโดย tookapic จาก Pixabay 3. หัดลอยตัวในน้ำให้เป็น เพราะมันจำเป็นเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินไม่คาดฝัน ! เนื่องจากว่าการลอยตัวในน้ำนั้นจะทำให้สามารถพยุงร่างกายได้ การลอยตัวในน้ำก็ไม่ยากค่ะ เราอาจจะทำได้โดยกางแขนออกไปโดยการนอนหงายบนน้ำ หรือจะนอนหงายโดยการให้จมูกและปากโผล่พ้นน้ำ เพื่อให้การหายใจนั้นสะดวก ทำให้เราสามารถควบคุมร่างกายและระบบการหายใจได้ดีและไม่ตื่นตะหนก อย่างไรก็ดี การลอยตัวในน้ำนั้น พยายามอย่าเกร็งส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เพราะอาจทำให้ลอยตัวในน้ำยากกว่าปกติ ฉะนั้นควรปล่อยร่างกายตามสบาย ชิล ๆ จะได้ไม่รู้สึกเหนื่อย ทำให้ปอดไม่ทำงานหนักมากเกินไป ซึ่งปอดนี่เองที่จะทำหน้าที่เสมือนร่มชูชีพ ที่จะช่วยพยุงร่างของลูกเรานั้นไม่ให้เกิดการจมน้ำและช่วยให้เรารอดจากการจมน้ำได้ค่ะ ภาพโดย Pezibear จาก Pixabay 4. ช่วงฝนตก ให้งดการลงว่ายน้ำ หรือหากกำลังว่ายน้ำอยู่ให้รีบขึ้นจากสระทันที เนื่องจากว่าหากมีฝนตกหนัก และอยู่ในที่โล่ง ๆ อาจจะเกิดการโดนฟ้าผ่าขึ้นมาได้ เนื่องจากถ้ามีสายฟ้าฟาดลงมาที่อยู่ในบริเวณแถวนั้น กระแสไฟอาจจะกระจายออกไปเป็นคลื่นแล้วไปกระทบกับวัตถุนั้น ๆ ซึ่งอาจจะทำให้เป็นอันตรายต่อตัวของเราได้ ดังนั้นหากได้ยินเสียงฟ้าร้อง ผู้เขียนขอแนะนำว่า พ่อแม่จะต้องบอกลูกเสมอว่าให้หลีกเลี่ยงจากการลงสระว่ายน้ำ และเมื่อฝนหยุดตกแล้วค่อยอาจจะกลับมาลงสระว่ายน้ำอีกครั้งก็ได้ นอกจากนี้ ช่วงฝนตกเป็นช่วงที่น้ำเย็นลง อาจจะทำให้เป็นตะคริว ซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้นะคะ ฉะนั้นหากช่วงฝนตกให้งดการลงสระว่ายน้ำโดยเด็ดขาดเลยนะคะ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตค่ะ ภาพโดย StockSnap จาก Pixabay เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 4 วิธี สอนลูกว่ายน้ำให้ปลอดภัย พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถนำ 4 วิธีดังกล่าวไปสอนลูกหลานของเรา เพื่อให้สามารถว่ายน้ำได้อย่างมีความสุขและปลอดภัยต่อชีวิต สำหรับคราวหน้าผู้เขียนจะมาให้ความรู้เรื่องกีฬาประเภทไหนต่อ อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ ^_^