เมย หญิงสาวผู้แอบรักผู้ชายคนเดียวมาตลอดหลายปี ตั้งแต่เธออยู่เพียงชั้นมัธยมจนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอได้ถูกจับพลัดจับผลูแต่งงานกับ เธียร ชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรักมานานแสนนาน แม้การแต่งงานนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความรักก็ตามแต่ยัยเมยก็ไม่ได้สนใจเพราะความสุขของเธอก็คือการได้แอบรักเธียรอยู่อย่างนั้น และหวังว่าสักวันผู้ชายที่เธอแอบชอบจะหันกลับมามองเธอและตกหลุมรักเธอบ้าง และก็เพราะไอ้การแอบรักของเธอนี่แหละที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ การแอบรักใครสักคนคงเป็นเรื่องที่ใครหลายๆ คนเคยผ่านมาแล้วอย่างแน่นอน และการแอบรักของ 'เมย' ก็ทำให้ตัวดิฉันเองคิดตามและย้อนวันเวลาไปในตอนที่เราเคยแอบรักใครสักคนได้อย่างน่าสนใจ หลายเหตุการณ์ที่เราเคยทำและไม่เคยทำย้อนกลับมาในความคิด นึกขำกับช่วงเวลาเหล่านั้นที่เกิดขึ้นเหมือนเช่นอย่างที่ 'เมย' ได้เจอ และสิ่งที่ดิฉันจะกล่าวถึงต่อไปนี้อาจไม่ได้ตรงใจทุกคนแต่ขอบอกเลยว่าสิ่งที่เขียนนั้นเป็นความรู้สึกโดยตรงและไม่ได้มีเจตนาไม่ดีต่อผู้ใดทั้งสิ้นค่ะ (ขออนุญาตออกตัวก่อนว่า เนื้อหาของตัวละคร 'เมย' นั้น จะเป็นการวิเคราะห์คร่าวๆ จากตอนที่ 1 - 9 เท่านั้น ไม่ใช่การวิเคราะห์จนจบแต่อย่างใดค่ะ) 1. ความสุขของการได้รักคือการแอบเห็นแง่มุมดีๆ ของคนที่เรารัก 'เมย' คือหญิงสาวที่มีความสุขจากการที่เธอได้เฝ้ามองคนรัก เธอรู้และจดจำในสิ่งที่เขาชอบได้ ได้เห็นมุมมองที่คนอื่นๆ ไม่ได้เห็น เธอรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้มาอยู่บ้านเดียวกับเขา ได้ทำกับข้าวให้เขากิน ได้ดูแลเขา แม้คนที่เธอแอบชอบจะทำเหมือนไม่เคยสนใจใยดีเธอเลยก็ตามที แต่'เมย' ก็ไม่เคยจะลดละในสิ่งที่ตนทำเลยสักนิด และการแอบรักของเธอก็นับว่าเป็นข้อดีของเธอที่สุด เพราะมันทำให้คนที่เธอแอบรักสามารถเปิดเผยตัวตนได้อย่างเต็มที่โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าคนที่เขาอยู่ด้วยจะกำลังแอบรักเขาอยู่ นี่คงเป็นข้อได้เปรียบของ 'เมย' ที่ได้มีโอกาสรับรู้เรื่องราวส่วนตัวของคนที่เธอแอบรักเหมือนดั่งคำที่กล่าวว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง อยู่ที่ว่าเราจะอยากเปลี่ยนสถานะจากคนแอบรักไปเป็นอย่างอื่นหรือไม่ และอย่าลืมเตรียมใจให้ดีเพราะถ้าเราอยากที่จะเปลี่ยนสถานะไปเป็นอย่างอื่น ก็ต้องรับผลตอบรับที่จะตามมา คุณอาจถูกลดสถานะมากกว่าเดิม หรืออาจสมหวังได้คบหากับเขาอย่างที่ต้องการก็คงจะขึ้นอยู่กับความรู้สึกของคุณทั้งคู่แล้วแหละ 2.ถึงเค้าจะร้ายกับเรายังไงเราก็เลิกรักเขาไม่ได้สักที ถึงจะบอกว่าเรามีความสุขเวลาที่เราได้เห็นเค้ามีความสุข แต่ไม่ว่าใครก็ต้องมีรู้สึกแย่รู้สึกเหนื่อยกันบ้างเวลาที่ได้พบได้เจอการถูกเมินเฉย หรือความเย็นชาจากคนที่แอบรัก เพราะหัวใจของคนเราไม่ใช่พระอิฐพระปูน แต่ถึงเราจะเจออะไรที่บั่นทอนความรู้สึกแค่ไหนเราก็อาจจะไม่สามารถ Move on ออกจากเขาได้อยู่ดี เหมือนกับ 'เมย' การแอบรักของเธอมันแสนจะยาวนาน ในขณะที่เธอต้องคอยดูแลเขาก็ต้องมีบ้างที่เขาทำให้เธอรู้สึกแย่ น้อยใจ และบั่นทอนความรู้สึก แต่วันนี้เศร้าวันต่อไป 'เมย' ก็ยังคงสามารถยิ้มให้กับ เธียรได้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และนี่ก็อาจเป็นข้อเสียของการแอบรักอย่างหนึ่ง เพราะหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ได้เจอเหตุการณ์อย่างเมยและกำลังรู้สึกแย่และบั่นทอน คุณจะโกรธเขาไม่ได้เพราะคุณอย่าลืมว่าเขาไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของคุณเลย เขาอาจจะแค่เคยชินกับตัวเองและมองข้ามความรู้สึกของคุณไปบ้าง แต่ถ้าคุณยังมีความรู้สึกกับเขาคุณก็คงต้องบอกตัวเองให้อดทนและสู้ต่อ แต่ถ้าหากคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว คุณก็เพียงแต่ต้องทำใจและ Move on ตัวเองออกมาก็เท่านั้น 3.บางทีเราก็ต้องยอมรับความจริง คนที่เค้าไม่รักเรา เราจะมาบังคับให้เค้ามารักเราไม่ได้หรอก คำพูดนี้ก็มาจากคุณแม่ประภาแม่ของ 'เมย' ในฉากนี้เป็นฉากที่เศร้ามากฉากหนึ่งของเรื่อง เป็นตอนที่เธอได้ยินคำพูดจาก เธียร ที่อยากจะหย่ากับเธอ แม้ว่าแม่ของเธียรจะถามย้ำอีกครั้งว่าอยู่กันมาไม่มีความรู้สึกใดๆ เลยหรือบอกเลยว่าหากเป็นดิฉันที่ยืนอยู่ คงยืนร้องไห้ต่อหน้าทั้งคู่หรือไม่ก็คงเดินหนีไปทำใจเรียบร้อยแล้ว แต่ 'เมย' ไม่ได้ทำเช่นนั้น เธอยังคงเก็บน้ำตาของเธอเอาไว้ และเก็บอาการไม่ให้เธียรรู้ และปล่อยน้ำตาออกมาตอนที่ฝนกำลังตก การที่คุณจะแอบรักใครสักคนคุณก็คงต้องทำใจไว้อยู่แล้วในระดับหนึ่งว่าคนที่เราแอบชอบอาจจะชอบเรากลับหรืออาจจะไม่ชอบเราเลย ต่อให้เราชอบเขามากแค่ไหน เราจะพยายามทำเพื่อเขาขนาดไหน ถ้าหากเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรา มันก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่เราจะบังคับจิตใจของเขาให้มารักมาชอบเราได้ ขนาดตัวเราเองยังไม่มีใครมาบังคับให้เราเลิกรักเลิกชอบใครได้เลยจริงมั้ยคะ ก็หวังว่าทุกๆ คนจะมีสติกับความรัก ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึก เมื่อเรามีความรักที่จริงใจให้คนอื่นวันนี้คุณอาจไม่ได้ความรักจริงใจนั้นตอบแต่ดิฉันเชื่อว่าสักวันหนึ่งความรักจริงใจจะตอบรับคุณกลับเช่นกัน เขาอาจไม่ใช่คนที่คุณแอบรักแต่อาจเป็นคนที่แอบรักคุณก็เป็นได้นะคะ 4.บางครั้งยิ่งหนียิ่งเจอ ยิ่งเกลียดอะไรยิ่งมักจะได้อย่างนั้น คงเปรียบได้กับหลายๆ คำกล่าวที่มีในไทยอย่าง ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก หรือถ้าเป็นคำที่จริงจังหน่อยก็คงเป็น น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อน แล้วหัวใจคนเราล่ะ ใช่มั้ยคะ ตอนที่เธียรพยายามหนี 'เมย' แต่สุดท้ายเขาก็หนีเธอไม่พ้น ได้กลับมาเจอกันและปล่อยให้เธอได้เข้ามาวนเวียนรอบๆ ตัวของเขาอยู่เช่นเดิม และครั้งนี้ 'เมย' ก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หายไปเธอเริ่มแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของเธียรทีละนิด บางครั้งคนเราเกลียดอะไร ไม่อยากเจออะไร ไม่อยากได้อะไร ก็อาจที่จะหนีสิ่งนั้นไม่พ้น รู้มั้ยคะจากประสบการณ์ตรงที่ดิฉันเคยผ่านมาสุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้แย่ไปเสียทุกเรื่อง สิ่งที่เราเคยคิดว่าไม่ชอบ ไม่มีทางชอบแต่วันหนึ่งความคิดนั้นก็อาจจะถูกเปลี่ยนมุมมองไปโดยใครอีกคนก็ได้ 5.ไม่ค่อยกล้าแสดงออกเพราะกลัวจะทำผิดพลาด ชาวแอบรักทุกคนก็คงเคยผ่านความรู้สึกนี้มาเช่นกัน ที่เราเป็นชาวแอบชอบก็เพราะเราไม่กล้าที่จะบอกคนที่เราชอบว่าตัวเรานั้นกำลังคิดไม่ซื่อกับเขาอยู่ กลัวว่าเมื่อเราได้บอกความรู้สึกของเราไปแล้วถ้าหากเขาไม่ได้คิดเหมือนกันกับเรา เราก็จะเสียความสัมพันธ์กับเขาไปในที่สุด สำหรับ 'เมย' เธอเองก็เคยคิดแบบนั้นแต่ในตอนปัจจุบันเธอก็ได้เปลี่ยนความคิดของตัวเองไป เธอเลือกที่จะพูดออกมา และพยายามแสดงออกให้เธียรรู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับเขา เธอเลิกกลัวและทำทุกอย่างเพื่อที่จะเป็นผู้หญิงที่อยู่ในใจของเธียร แม้เหตุผลที่เธอเลือกจะทำแบบนั้นก็เพราะเธอรู้ว่าตัวเองอาจจะไม่ได้เปิดเผยหรือทำในสิ่งที่เธออยากทำแบบนั้นอีกก็ตาม แต่การกระทำของเธอก็ถือเป็นการกระทำที่กล้าหาญในความคิดของดิฉัน บางครั้งเราก็ต้องยอมรับความจริงเพื่อให้ตัวเราจะได้เดินหน้าต่อไป ไม่ว่าความจริงนั้นจะทำให้เราต้องเจ็บปวด แต่ถ้าเราคิดถึงความเจ็บปวดเราอาจจะพลาดความสุขไปก็ได้ *การแอบรักไม่ใช่เรื่องผิด ถ้ามันเป็นความสุขของเรา บางครั้งความสุขเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นเหมือนน้ำชโลมจิตใจให้มันกระชุ่มกระชวยเดินหน้าต่อไปได้อีกวัน สู้ๆ นะคะ ชาวแอบรักทุกท่าน รูปภาพทั้งหมด จากเพจ Facebook อกเกือบหักแอบรักคุณสามี