5 ซีรีส์ Fantasy นอกสายตา หาชมได้ทาง Netflix ทุกคนคงรู้จัก Stranger Things หรือ The Witcher ที่เป็นซีรีส์สร้างชื่อให้ Netflix จนมีผู้เข้าชมติดหนึบและกลายเป็น Fan boy มากมาย แต่วันนี้ ผมจะไม่พูดถึงซีรีส์เหล่านี้เพราะเชื่อว่า ท่านผู้อ่านที่หลงเข้ามาน่าจะต้องเคยได้ดูซีรีส์เหล่านี้กันเรียบร้อยแล้ว สำหรับในครั้งนี้ผมจะขอนำเสนอ ซีรีส์แนวแฟนตาซีที่อยู่นอกเรดาร์ความสนใจของคนทั่วไป แต่เป็นซีรีส์งานดี มีโปรดักชั่นอลังการไม่แพ้สองเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นเลยละครับ เรามาดูกันว่า มีซีรีส์เรื่องใดบ้างที่ติดโผในครั้งนี้Chilling Adventures Of Sabrina มาเริ่มกันที่เรื่องแรก เป็นแนว Fantasy สไตล์แม่มดสุดแสนจะสนุกสนาน ว่าด้วย Sabrina เด็กสาวที่มีความมั่นใจในตัวเอง เธอถูกเลี้ยงดูโดยแม่มดสองคนที่เป็นป้าของเธอ เนื่องจากพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตในอุบัติเหตุตั้งแต่เธอยังเป็นเพียงเด็กทารก เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อเธอถึงวัยที่จะต้องเข้าพิธีลงชื่อในสมุดบันทึกของซาตานเพื่อถวายการรับใช้ และรับพลังเวทยมนต์เป็นการแลกเปลี่ยน โดยเธอถูกล่อหลอกโดย ลิลิธ ปีศาจสาวจากนรกที่ต้องการทำตามประสงค์ของซาตานในฐานะภรรยา และหวังจะได้ขึ้นเป็นราชินีแห่งนรก เนื้อเรื่องนั้นจะไม่ได้เป็นแนวแม่มดวัยใส ทุกอย่างเป็นสีชมพู แต่มันเต็มไปด้วย เลือด ความดาร์ก และกลิ่นอายวัยรุ่นแบบหนังทไวไลท์ แต่ไม่งี่เง่าหรือหวานเลี่ยนเลย ตัวละครมีความเป็นสาวยุคใหม่ที่ไม่ทำตามขนบ ขณะเดียวกันก็มีสิ่งยั่วล้อขนบมากมาย ทั้งการที่เธออยู่ในลัทธิซาตานที่มีคำกล่าวสรรเสริญซาตานแทนที่จะเป็น คำสรรเสริญพระเจ้า ไม้กางเขนคว่ำ พิธีต่างๆ ที่เป็นขั้วตรงข้ามกับศาสนาคริสต์ ซึ่งดูเหมือนจะชั่วร้ายแต่กลับกลายเป็นว่า ตัวละครไม่ได้ชั่วร้ายไปตามสิ่งเหล่านี้ ทั้งยังมีประเด็นการบูลลี่ในโรงเรียน ประเด็นเรื่องเพศสภาพ ประเด็นวัยรุ่น รวมถึงความเป็นผู้หญิงแฝงเร้นอยู่ในเรื่องอย่างเต็มเปี่ยมล้น เป็นซีรีส์ครบรสที่มีสาระแนบเนียนไปด้วย ขณะเดียวกันก็ได้เสพงานสยองขวัญ ความรัก และเวทยมนต์อันตระการตาไปด้วย เรียกได้ว่า ดูเรื่องนี้ก็ได้ครบทุกสิ่งที่ต้องการเลย ช่วงซีซั่นหลังๆ อาจจะออกทะเลนิดนึง แต่เพราะตัวละครทุกตัวในเรื่องที่มีความเทาๆ ขณะเดียวกันก็คงเสน่ห์ความเป็นตัวของตัวเองไว้ได้ดีเยี่ยม ทำให้เราแทบไม่เกลียดใครเลย และตัวละครก็น่าจดจำไปเสียทุกตัว ด้วยความชัดเจนและน่าสนใจนี้เอง ทำให้ซีซั่นหลังๆ ที่ว่าออกทะเลไปบ้าง แต่ก็ยังคงติดตามต่อไปเพราะตัวละคร โดยเฉพาะความน่ารักของ Sabrina จำนวนซีซั่น : 3 ซีซั่น (ซีซั่นที่สี่ถูกยืนยันการสร้างพร้อมซีซั่นที่สาม แต่ยังไม่ประกาศวันฉาย)จำนวนตอนทั้งหมด : 28 ตอนระยะเวลาเฉลี่ยต่อตอน : 1 ชั่วโมงรับชมคลิกLocke and Key ซีรีส์จากหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้ ดูเหมือนจะเป็นแนวสดใสแบบ Narnia เมื่อพี่น้องสามคนย้ายเข้ามาในคฤหาสถ์หลังเก่าของพ่อผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ชวนช็อก ก่อนจะพบความลับเกี่ยวกับกุญแจปริศนาที่สามารถไขประตูแล้วทำให้เกิดพลังเหนือธรรมชาติตามแต่กุญแจจะมี แต่ยิ่งถลำลึกไปในแต่ละตอน เราจะพบว่า นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง Dark Fantasy ที่มีประเด็นหนักอึ้งแบบเคลือบช็อกโกแลต ตัวร้ายในเรื่องเป็นหญิงสาวที่หลุดมาจากมิติลี้ลับ เธอเจ้าเล่ห์และคอยหลอกล่อเด็กๆ ในเรื่อง ขณะที่แต่ละคนก็ต้องรับมือกับปัญหาของตัวเองในแบบต่างๆ นำโดยพี่ชายคนโต Tyler เด็กหนุ่มที่มีปมทะเลาะกับพ่อ และไม่ได้เคลียร์กันในวันที่พ่อของเขาตายอย่างสยดสยอง Kinsey ลูกสาวคนกลางที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง และมีความกลัวในจิตใจติดค้างจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น และ Bode ลูกชายคนเล็กที่น่าเสียดายที่ตัวเนื้อเรื่องเองไม่ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับปมทางด้านจิตใจกับตัวละครนี้เท่าที่ควรแต่เขามีหน้าที่เป็นตัวที่ทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ ในบ้าน คือถ้าจะบอกว่าเป็นตัวหาเรื่องก็คงจะไม่ผิดนัก ตัวร้ายอย่าง Dodge นั้น เปิดซีนมาก็ทำให้เรากลัวได้แล้วอย่างไม่น่าเชื่อ เธอเป็นตัวพลิกเรื่องที่ทำให้จากตอนแรกที่ผมเข้าใจว่ามันจะเป็น Narnia ให้กลายเป็นซีรีส์ Dark Fantasy แบบที่จะบอกว่าไม่เหมาะกับเด็กกันไปเลย ตลอดทั้งเรื่องนั้น ซีรีส์มีความเหวี่ยงขึ้นลงเหมือนนั่งรถไฟเหาะเลย มันมีบางตอนที่สนุกสนานไปกับความอัศจรรย์ของกุญแจ มีตอนที่กดดันสุดขีดเหมือนดูหนังสยองขวัญไล่ฆ่า มีตอนที่เป็นหนังวัยรุ่นเต็มคราบ เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ครบครันด้วยความบันเทิงในแบบที่คุณอาจกำลังตามหาอยู่ จำนวนซีซั่น : 1 ซีซั่น (ได้รับการยืนยันว่ามีการสร้างต่อซีซั่นสอง แต่ยังไม่ระบุวันฉาย)จำนวนตอนทั้งหมด : 10 ตอนระยะเวลาเฉลี่ยต่อตอน : 50 นาทีรับชมคลิกThe Umbrella Academy เปลี่ยนแนวจาก Fantasy จ๋า มาเป็นในทาง Fantasy Superhero กันบ้างกับ The Umbrella Academy ซีรีส์ว่าด้วย เด็ก 7 คนที่มีพลังวิเศษและถูกค้นพบโดย Sir Reginald Hargreeves เขาได้พาพวกเขามาอยู่ในบ้านของตนเองและตั้งทีม Superheroes ขึ้นเพื่อให้พวกเขาได้ช่วยเหลือโลกจากภัยอันตราย หลากปีต่อมา พวกเขาต่างแยกย้ายไปมีชีวิตของตนเอง และต้องกลับมารวมกันอีกครั้งเมื่อคนที่ได้ชื่อว่า พ่อของเขา เสียชีวิต แต่เป็นการเสียชีวิตที่แปลกประหลาดและทำให้พวกเขาต้องร่วมมือกันสืบหาความจริง ขณะเดียวกัน เด็กหนุ่มที่มีชื่อว่า Five โผล่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยและบอกกับพวกเขาว่า โลกกำลังจะแตกในอีก 8 วันข้างหน้าเรื่องนี้ เอาแค่การที่มีตัวละครที่มีพลังวิเศษแตกต่างกันก็น่าจะทำให้เราติดตามต่อได้ไม่ยาก โดยตัวละครในเรื่องนี้ประกอบไปด้วย Luther หรือหมายเลขหนึ่ง ชายหนุ่มผู้มีพละกำลังมหาศาล เขาถูกส่งไปอยู่บนดวงจันทร์ตามคำสั่งของพ่อ และปกปิดความลับเกี่ยวกับร่างกายอันใหญ่โตของเขา Diego หรือหมายเลขสอง ที่มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนวิถีของอะไรก็ตามที่เขาคว้างออกไป โดยปกติเขาเชี่ยวชาญในการใช้มีด Allison หรือหมายเลขสาม ดาราสาวที่สามารถควบคุมให้ทุกคนเชื่อในสิ่งที่เธอพูดได้ เมื่อเธอพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่า...”เธอมีปัญหากับพลังของตัวเองเพราะหลายครั้ง เธอใช้ความสามารถนี้ในการทำให้ลูกของเธอทำตัวน่ารัก ซึ่งทำให้เธอกับสามีมีปัญหากัน Klaus หรือหมายเลขสี่ เกย์หนุ่มติดยาที่มีความสามารถในการสื่อสารกับวิญญาณ หมายเลขห้า เด็กหนุ่มที่สามารถเดินทางข้ามเวลาได้ เขาได้เดินทางไปในยุคสมัยที่โลกล่มสลาย และได้หาทางกลับมาเตือนทุกคนเพื่อหยุดมัน อันเป็นต้นทางของเรื่องทั้งหมด Ben เด็กหนุ่มที่เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก เขาสามารถปล่อยหนวดระยางสยดสยองจากร่างกายได้ เขาปรากฏตัวในซีรีส์ในสภาพผีที่ Klaus เท่านั้นที่ได้คุยด้วย และ Vanya หรือ หมายเลขเจ็ด สาวนักไวโอลีนเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มที่ถูกตราหน้าว่าไม่มีพลังมาตั้งแต่เด็กๆ จากตัวละครเท่านี้และเนื้อเรื่องที่ดาร์กเต็มหน่วย บวกแฟนตาซี (อีกแล้ว) จะทำให้สายซีรีส์แนวนี้ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน จำนวนซีซั่น : 1 ซีซั่น (ได้รับการยืนยันว่าซีซั่นสองจะมาในเดือนกรกฎาคม 2020)จำนวนตอนทั้งหมด : 10 ตอนระยะเวลาเฉลี่ยต่อตอน : 1 ชั่วโมงรับชมคลิกA Series Of Unfortunate Events ดาร์กๆ กันมาหลายเรื่องแล้ว เราก็มาดาร์กกันต่อนะ (แล้วจะพูดทำไมเนี่ย!!) แต่เรื่องนี้เนี่ย ระดับความดาร์กเทียบกับสามเรื่องก่อนหน้าแล้ว น้อยกว่ากันค่อนข้างมาก สำหรับเรื่องนี้ทำมาจากวรรณกรรมเยาวชนชื่อดัง 13 เล่มจบ ที่มีชื่อภาษาไทยว่า อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย แน่นอนว่าเรื่องนี้เต็มไปด้วยโชคร้ายและความดาร์กดำมืดมากมายอย่างไม่ต้องสงสัย เรื่องราวคร่าวๆ ก็คือ 3 พี่น้องตระกูล Baudelaire ได้รับข่าวร้ายในระหว่างที่ทั้งสามไปเดินเล่นริมทะเลว่า บ้านของพวกเขาถูกไฟไหม้มอดทั้งหลังไปพร้อมพ่อและแม่ของพวกเขา ทำให้พวกเขากลายเป็นเด็กกำพร้าที่ยังไม่มีสิทธิ์ในมรดกของครอบครัวจนกว่าหนึ่งในพี่น้องจะอายุครบ 18 ปี ซึ่งปมประเด็นก็เริ่มที่จุดนี้เมื่อ Count Olaf ชายหนุ่มประหลาดเจ้าของคณะละครสัตว์สยองขวัญหวังจะฮุบสมบัตินี้เอาไว้โดยทำทุกวิถีทางสามพี่น้องนั้นประกอบไปด้วย Violet พี่สาวคนโต เป็นนักประดิษฐ์ที่เมื่อเธอคิดอะไรได้ จะนำเอาผ้ามาผูกผมไว้และเริ่มประดิษฐ์สิ่งของ Klaus น้องคนกลาง เด็กชายที่แทบจะอ่านหนังสือบนโลกใบนี้จนหมดสิ้นแล้ว เป็นเด็กฉลาดที่คอยช่วยเหลือทุกคนในยามคับขันได้ และ Sunny ลูกสาวคนเล็กที่ยังอยู่ในวัยทารกเตาะแตะ แต่กลับมีฟันแหลมคมในระดับที่สามารถทำลายข้าวของทุกอย่างที่ขวางหน้าได้ พี่น้องทั้งสามจะได้วนเวียนไปอยู่อาศัยกับญาติห่างๆ ของครอบครัว และพวกเขาก็จะพบกับจุดจบอันน่าสยดสยองไปทุกรายเพราะ Count Olaf ที่พยายามจะหาทางฮุบสมบัติของพวกเธอเอาไว้ ซีรีส์เรื่องนี้ทำมาจากหนังสือทั้ง 13 เล่มอย่างซื่อตรง แต่ขณะเดียวกันก็สอดแทรกและดัดแปลงเรื่องราวที่ดูไม่สมเหตุสมผลในหนังสือให้ออกมาดูมีเหตุผลขึ้น เป็นซีรีส์ที่ยิ่งดูก็ยิ่งดำดิ่ง เพราะตัวละครจะได้พบเจอกับความโชคร้ายขึ้นอย่างทวีคูณไปเรื่อยๆ ในทุกตอน และตัวซีรีส์เองก็ยั่วล้อผู้ชมด้วยการบอกว่า ถ้าไม่อยากจะต้องมาชมอะไรที่ทุกข์ทนอีกแล้วก็ขอให้เปลี่ยนไปดูอย่างอื่นเสียเถิด แต่เอาเข้าจริง ก็ยังติดตามไปจนจบละนะ ถึงแม้ว่าจะเริ่มเห็นความงี่เง่าของตัวละครรอบข้างพี่น้องทั้งสามอยู่ตลอดเวลาก็ตาม จำนวนซีซั่น : 3 ซีซั่น (จบบริบูรณ์ตามหนังสือ)จำนวนตอนทั้งหมด : 25 ตอนระยะเวลาเฉลี่ยต่อตอน : 45 นาทีรับชมคลิกRagnarok ปิดท้ายกันที่ซีรีส์แฟนตาซีจากประเทศ นอร์เวย์ กันบ้าง เรื่องนี้น่าจะเป็นซีรีส์ที่ดาร์กน้อยที่สุด แต่ก็ยังคงดาร์กอยู่ ซีรี่ส์นำเรื่องราวของตำนานนอร์ส ที่มีทั้ง ธอร์ โอดิน โลกิ และเหล่ายักษ์น้ำแข็ง มาเล่าใหม่ในฐานะซีรีส์วัยรุ่นยุค Facebook ครองเมือง ด้วยความเป็นซีรีส์ยุโรป เราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่แตกต่างกับเวลาดูซีรีส์อเมริกันอยู่พอสมควร แต่พอคุณปรับตัวได้ จะพบว่ามันดีมากๆ สำหรับเรื่องนี้มีภาพวิวของเมืองที่โดดเด่นมากๆ ขณะที่ปมในเรื่องก็มีความน่าสนใจและน่าขบคิด แถมยังแปลกแวกแนวมากๆ อย่างการที่ ธอร์ ในเรื่องเป็นเด็กหนุ่มหัวทึบที่มีปัญหากับการแสดงอารมณ์โกรธเพราะปมบางอย่างหรือปมเรื่องภาวะโลกร้อนที่อาจเป็นต้นกำเนิดของเหตุการณ์ล้างโลกที่มีชื่อว่า Ragnarok ซึ่งเป็นการนำปมมาผูกได้น่าติดตามมากๆ อย่างไรก็ตามถ้าใครหวังว่าจะมีฉากต่อสู้ยุบยับมากมาย อาจจะต้องผิดหวัง เพราะตัวเรื่องจะเน้นไปที่การเติบโตของตัวละคร Magne ที่จะค่อยๆ รับรู้ความเป็นธอร์ของตัวเอง ไปพร้อมๆ กับถอดปมปริศนาและการคอรัปชั่นของผู้ใหญ่ คือเนื้อแท้จริงๆ ของเรื่อง เป็นการต่อสู้ระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่เสียมากกว่า ซึ่งบางครั้งก็รู้สึกว่า ไม่ต้องมีเรื่องแฟนตาซีให้มากหรอก เพราะแค่เรื่องพวกนี้ก็น่าสนใจเพียงพอให้ติดตามต่อไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว จำนวนซีซั่น : 1 ซีซั่น (ได้รับการยืนยันว่าจะมีซีซั่นที่สองต่อ แต่ยังไม่กำหนดวันฉาย)จำนวนตอนทั้งหมด : 6 ตอนระยะเวลาเฉลี่ยต่อตอน : 45 นาทีรับชมคลิกและนี่ก็คือซีรีส์ 5 เรื่องในแนว Fantasy ที่อยากจะให้ทุกคนได้ลองไปรับชมกันดูนะครับ ส่วนตัวผมติดหนึบทั้งห้าเรื่องเลย และการันตีเรียบร้อยแล้วว่า ทุกเรื่องยังคงมีต่ออย่างแน่นอน (ยกเว้น A Series Of Unfortunate Events ที่จบบริบูรณ์เรียบร้อยแล้ว) รับรองว่า คุณอาจจะไม่ได้หลับได้นอน เพราะต้องตามดูให้จบอย่างแน่นอนครับทิ้งท้ายไว้อีกนิดนึงว่า สำหรับผู้อ่านท่านใดที่มี กล่อง True ID TV ต้องบอกว่าเป็นข่าวดีครับ เพราะท่านสามารถรับชม Streaming Service ที่มี Content ให้คุณเสพมากมายอย่าง Netflix ได้แล้ววันนี้ครับ นั่นหมายความว่า ท่านสามารถรับชมรายการดีดีจาก Netflix บนจอใหญ่จัดเต็มได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องต่อจอหรือชมผ่านคอมพิวเตอร์อีกต่อไป แล้วอย่าลืมไปอัพเดทตัวกล่องเพื่อเข้ารับชมกันนะครับภาพทั้งหมด Capture จากหน้าปกของแต่ละเรื่องทาง Netflix.com