(ขอบคุณภาพทั้งหมดในบทความนี้จาก www.pixabay.com) 12 ม.ค. 63 รายงาน case ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทยคนแรก คือผู้ป่วยหญิงจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน นับได้ว่าเป็นการพบผู้ติดเชื้อคนแรกนอกประเทศจีน 31 ม.ค. 63 รายงาน case ติดเชื้อ COVID-19 คือคนขับแท็กซี่ที่รับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นผู้ป่วยคนไทยรายแรกที่ไม่มีประวัติเดินทางไปประเทศจีน 15 มี.ค. 63 ประเทศไทยรายงาน case ติดเชื้อ COVID-19 เกิน 100 ราย (114 ราย) เป็นครั้งแรก นับจากวันนั้น COVID-19 ได้แพร่กระจายไปเกือบทั่วโลก ประเทศไทยมีมาตรการมากมายในการยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรค เช่น การประกาศเคอร์ฟิว การปิดสถานที่หรือยกเลิกกิจกรรมที่มีคนอยู่รวมกันมากๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า สนามมวย สนามกีฬา การจัดคอนเสริ์ต เป็นต้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หลายคนไม่มีงานทำ หรือต้องเอางานมาทำที่บ้านเพื่อให้คนอยู่ห่างกัน (Social Distancing) เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค เมื่อ COVID-19 เข้ามาเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของเรา ทำให้การใช้ชีวิตหลายๆ ด้านเปลี่ยนไป ต่อไปนี้คือ 9 Lifestyle (วิถีชีวิต) 1 Worry (ช้อกังวล) 1 Can’t Change (เปลี่ยนไม่ได้) ที่จะเกิดขึ้นกับสังคมเมื่อถึงวันที่ COVID-19 จากเราไป 9 Lifestyle อินเตอร์เน็ตคือปัจจัยพื้นฐาน 1. อินเตอร์เน็ตคือปัจจัยพื้นฐาน ต่อจากนี้ไป อินเตอร์เน็ต จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการใช้ชีวิตไม่ต่างจากไฟฟ้า น้ำประปา และโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ตจะไม่ได้มีไว้ใช้เฉพาะเล่นเกมส์ออนไลน์ เล่น Facebook อีกต่อไป แต่อินเตอร์เน็ตจะเอาไว้ใช้ทำงาน ใช้ซื้อของ ใช้ทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว Work From Home 2. Work From Home จากเดิมที่ทุกคนต้องไปทำงานรวมกันในที่ทำงาน ไปรวมตัวกันคุยงานกันในห้องประชุม COVID-19 ทำให้คนต้องอยู่ห่างกันทั้งการทำงานและการชีวิต ถึงจะห่างกัน ก็ยังต้องทำงาน เทคโนโลยีจึงถูกนำมาประยุกต์ใช้ให้ทุกคนสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องมารวมตัวกัน Work From Home จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ต่อไปนี้องค์กรต่างๆ จะใช้พิจารณาการทำงานของพนักงาน ซึ่งนอกจากจะทำให้งานมีประสิทธิภาพเหมือนมารวมกันในห้องประชุม ยังลดค่าใช้จ่าย ลดการเดินทางในท้องถนน แก้ปัญหาการจราจรอีกทางหนึ่ง e-Learning 3. e-Learning จากเดิมการเรียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-Learning เป็นเพียงทางเลือกของสถานศึกษาเพราะยังสามารถจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนได้ แต่เมื่อครูและนักเรียนไม่สามารถมาพบกันได้ e-Learning จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทั้งครูและนักเรียนต้องเตรียมอุปกรณ์ เตรียมแผนการสอนและเรียนรู้เครื่องมือในการเรียนอย่างเร่งด่วน COVID-19 ถือเป็นสถานการณ์ที่เร่งทำให้ e-Learning มีความสำคัญและมีความจำเป็นอย่างมากในการเรียนการสอนต่อจากนี้เป็นต้นไป Delivery 4. Delivery ก่อนเกิดเหตุการณ์ COVID-19 ธุรกิจขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นการส่งของและส่งอาหารก็แข่งขันกันดุเดือดอยู่แล้ว เมื่อคนต้องอยู่บ้าน การส่งของ ส่งอาหารถึงบ้านก็ยิ่งมีผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น พนักงานรับส่งอาหารแต่ละยี่ห้อต่างก็มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้มีหลายคนเลือกอาชีพ Delivery นี้เป็นอีกอาชีพในการสร้างรายได้ให้กับตัวเอง Mobile Banking 5. Mobile Banking จากเดิมธุรกิจธนาคารก็ถูก Disruption จากเทคโนโลยีอย่างหนักหน่วงอยู่แล้ว สาขาธนาคารถูกปิดเพราะคนไปใช้บริการธุรกรรมการเงินบน Smartphone แทน เมื่อคนต้องห่างกันมากขึ้น รวมทั้งกลัวว่าการใช้เงินสดอาจจะติดเชื้อไวรัส ทำให้การทำธุรกรรมการเงินบน Smartphone ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ทุกธนาคารต้องปรับปรุงระบบกันขนานใหญ่เพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น Shopping Online 6. Shopping Online เมื่อคนอยู่บ้านแต่ยังต้องกินต้องใช้ต้องซื้อของ การสั่งซื้อของผ่าน Platform Shopping Online ชื่อดังเช่น Lazada , Shopee และ JD Central จึงมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือทำให้เกิดการเพิ่มรายได้ทั้งผู้ขาย ผู้รับหน้าที่ขนส่งสินค้า และทำให้ผู้ซื้อได้สินค้าราคาที่ถูก แต่ข้อเสียคือ Plaflorm ต่างๆ นี้เป็นการลงทุนจากต่างประเทศทั้งสิ้น และทำให้ธุรกิจของคนไทยต้องแข่งขันกับ Platform เหล่านั้นยากขึ้น คล้ายกับการมาของห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่ทำให้ร้านขายของชำ (ร้านโขว์ห่วยเดิม) อยู่ลำบาก อาชีพที่ 2 7. อาชีพที่ 2 COVID-19 ทำให้หลายคนตกงานโดยไม่รู้ตัว จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต่อไปนี้ทุกคนมีอาชีพที่ 2 สำรองไว้ หากอยู่ดีๆ เกิดสถานการณ์ที่ทำให้ทำงานไม่ได้ ไม่มีรายได้ ก็ยังมีอาชีพที่ 2 ทำให้ยังดำเนินชีวิตต่อไปได้ การวางแผนทางการเงิน 8. การวางแผนทางการเงิน หลายคนเมื่อตกงานแล้วลำบากทันทีเนื่องจากไม่มีการวางแผนการเงินล่วงหน้า ทำให้ไม่มีเงินเก็บ ต่อจากนี้ไป ทุกคนควรมีเงินสดสำรองไว้เผื่อฉุกเฉินอย่างน้อย 6 เดือนและศึกษาหาความรู้เรื่องการวางแผนทางการเงินอย่างจริงจัง การประกันชีวิต การประกันสุขภาพ 9. การประกันชีวิต การประกันสุขภาพ จากเหตุการณ์ที่คนทำประกัน COVID-19 อย่างล้นหลามจนทำให้บริษัทรประกันภัยหลายบริษัทต้องหยุดรับประกัน ทำให้เห็นว่า คนไทยมีความตระหนักในการดูแลสุขภาพเป็นอย่างมาก เพราะปัจจุบันค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลค่อนข้างสูงและมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นทุกปี การประกันสุขภาพ การประกันชีวิตเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ทำให้ต่อจากนี้ไปคนจะสนใจทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพมากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงแล้วยังเป็นการวางแผนทางการเงินและลดหย่อนภาษีได้ด้วย 1. Worry สิ่งที่น่ากังวลหลังจาก COVID-19 หายไปนั้นคือการ “ตกงาน” จะเห็นได้ว่าหลายธุรกิจปรับตัวโดยไม่ต้องใช้คนทำงาน เช่น การทำธุรกรรมการเงินผ่านมือถือไม่ต้องไปสาขา การสั่งอาหารผ่านระบบ Dilivery โดยไม่ต้องมีหน้าร้านและเด็กเสริฟ์ การทำงานที่ไม่จำเป็นต้องเข้าที่ทำงานซึ่งแสดงว่าบางงานสามารถจ้าง Freelance ได้ ไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานประจำ น่าเป็นห่วงว่า ต่อจากนี้ไปคนจะตกงานกันมากขึ้นหากไม่ปรับตัว ไม่ Upskill ไม่ Reskill ตัวเองก็จะหางานได้ยากขึ้น 1 Can’t Change สำหรับสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้หรือเปลี่ยนได้ยากไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใด คือการเอารัดเอาเปรียบกัน การคอรับชั่น เช่นกรณีหน้ากากอนามัยขาดตลาดหรือหน้ากาก 200 ล้านชิ้น แอลกอฮอล์ 70% ราคาพุ่งไป 10 เท่า ราคาไข่ที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งไม่ว่าสถานการณ์ไหนก็ไม่สามารถทำให้สิ่งเหล่านี้หายไป จบบทความด้วยการขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพตัวเอง UpSkill Reskill ทักษะของท่านให้พร้อมรับกับโลกใหม่เมื่อ สถานการณ์ COVID-19 จบลง ขอให้โชคดีทุกท่านครับ สวัสดีครับ