หากพูดถึงชื่อของ สตีเวน คิง เชื่อว่าใครที่เป็นคอหนัง คอนิยายระทึกขวัญคงจะเป็นที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเขาผู้นี้คือนักเขียนนิยาย ที่ได้รับฉายาว่า "ราชาแห่งนิยายเขย่าขวัญ" ซึ่งผลงานของเขาถูกหยิบไปสร้างเป็นภาพยนตร์ และซีรีส์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Shawshank Redemption ,Green Mile ,The Shining ซึ่งโพสต์นี้เราก็ได้รวบรวบ 9 คอนเทนต์ จาก สตีเวน คิง ที่สามารถหาชมได้ในสตรีมมิงดังอย่าง Netflix ให้ทั้งคนที่เป็นแฟนของ คิง และคนที่อยากจะลองติดตามงานของเขา ได้ลองเข้ามาเลือกชมกัน1. The Shining เรื่องราวของครอบครัวเล็ก ๆ ครอบครัวหนึ่งที่ประกอบไปด้วย แจ็ค(แจ็ค นิโคลสัน) ,เวนดี้(แชลลี่ย์ ดูวัล) และแดนนี่(แดนนี่ ลอยด์) ที่ได้เดินทางไปพักยังโรงแรม โอเวอร์ลุ้ค โฮเตล ที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ห่างไกลจกาตัวเมือง โดย แจ็ค ได้รับการว่าจ้างจากผู้จัดการโรงแรม ให้รับหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของโรงแรม ในช่วงที่่ปิดตัวจากพายุฤดูหนาว พร้อมทั้งเขายังใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการเขียนนิยายเล่มใหม่ให้เสร็จ แต่ทว่าระหว่างที่อาศัยในโรงแรมแห่งนี้พวกเขากลับพบว่าได้มีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นมากมาย ทั้ง แดนนี่ ที่เริ่มมีอาการพูดกับเพื่อนในจินตนาการบ่อยขึ้น และเห็นวิญญาณร้ายในโรงแรม และแจ๊ค ที่กลับมาติดเหล้าอีกครั้ง ทำให้ เวนดี้ ต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากเรื่องเลวร้ายในครั้งนี้ให้ได้สำหรับ The Shining เป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญคลาสสิก ขึ้นหิ้งที่ใครที่เป็นคอหนังแนวนี้ต้องดูสักครั้งในชีวิต แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ถูกใจตัวเจ้าของเรื่องอย่าง คิง ที่มองว่าหนังได้ดัดแปลงจากนิยายไปเยอะมากก็ตาม แต่ด้วยลีลาการกำกับของ คูบริค ที่ถ่ายทอดบรรยากาศความน่ากลัวของโรงแรมโอเวอร์ลุ้ค ออกมาได้ชวนวังเวน น่าขนลุก แม้ว่าตลอดทั้งเรื่องเราจะแทบไม่เห็นผีเลยก็ตาม พร้อมทั้งการแสดงของ แจ๊ค นิโคลสัน ที่กลายเป็นตำนาน และฉากขวานจามประตู ที่กลายเป็นฉากที่ถูกพูดถึง และกลายเป็นแรงบันดาลใจของหนังสยองขวัญยุคหลัง ๆ หลาย ๆ เรื่อง เรียกได้ว่าหากจะจัดลิสต์หนังคลาสสิกคุณภาพ หรือหนังสยองขวัญที่น่ากลัวที่สุด ใน Netflix จะต้องมีเรื่องนี้ติดอันดับแน่นอนลิงก์ดูหนัง https://www.netflix.com/title/9590082. Pet Sematary (1990)เรื่องราวของครอบครัวหนึ่ง ที่ย้ายจากเมืองกรุงมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในรัฐเมน เนื่องจากผู้เป็นพ่อได้ย้ายมาทำหน้าที่เป็นหมอในคลีนิกเล็ก ๆ ในหมู่บ้านดังกล่าว จนกระทั่งพวกเขาได้พบว่าแท้จริงแล้วหลังบ้านของพวกเขาได้มีสุสานสัตว์เลี้ยง และหากเลยไปอีกหน่อยจะเป็นสุสานลับของเผ่าอินเดียแดง ที่มีความพิเศษคือหากฝังสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วลงในบริเวณดังกล่าว สิ่ง ๆ นั้นจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ในขณะที่ครอบครัวที่อบอุ่นนี้ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข จนกระทั่งเมื่อถึงวันที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความตายของแมวที่พวกเขารักโดยไม่คาดคิด ผู้เป็นพ่อจึงนำร่างของแมวไปฝังในสุสานอินเดียแดง แต่ทว่าสิ่งที่กลับมาหาพวกเขานั้นกลับไม่ใช่แมวตัวเดิมอีกต่อไป พร้อมทั้งมันก็ยังได้มอบความน่าสยดสยอง สุดสะเทือรขวัญมาสู่พวกเขาอีกด้วยสำหรับหนังเรื่องนี้มีทั้งหมดสองเวอร์ชั่นด้วยกัน โดยเวอร์ชั่นแรกเป็นปี 1989 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ คิง ได้ลงมือมาร่วมเขียนบทเอง ส่วนอีกเวอร์ชั่นนั้นเป็นฉบับปี 2019 ที่ได้ปรับบริบทต่าง ๆ ของหนังให้ออกมาดูน่ากลัว และร่วมสมัยมากขึ้น แต่สำหรับเวอร์ที่มีให้ชมใน Netflix เป็นฉบับปี 1989 ซึ่งจุดขายของเวอร์ชั่นนี้ คือการที่หนังเคารพนิยายของ คิง มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศของหนัง รวมถึงประเด็นที่หนังต้องการนำเสนอโดยเฉพาะการพูดถึงเรื่อง'ความตาย' ซึ่งหนังเวอร์ชั่นนี้ก็ยังมีฉากในตำนานที่กลายเป็นภาพติดตา และเป็นที่กล่าวขว้ญถึงความน่าสยดสยองมาจนถึงทุกวันนี้ ลิงก์ดูหนัง https://www.netflix.com/title/600021683. Carrie(2013)เรื่องราวของ แครี่ ไวท์ เด็กสาวที่กำลังอยู่ในช่วงเจริญพันธุ์ และมีแม่ที่เคล่งศาสนา วันหนึ่งเธอได้พบว่าเธอกำลังมีประจำเดือนครั้งแรกในชั่วโมงเรียนวิชาว่ายน้ำ แต่ด้วยความที่ แครี่ ไม่รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองในครั้งนี้ ทำให้เธอกลายเป็นตัวตลก และเป็นที่น่ารังเกียจของเพื่อน ๆ ร่วมชั้น แต่ทว่าสิ่งที่ตามมาหลังจากประจำเดือนของ แครี่ คือพลังพิเศษบางอย่างของเธอ ที่สามารถควบคุมสิ่งของต่าง ๆ ได้ตามใจนึก และพลังดังกล่าวก็ได้เป็นจุดเริ่มต้นของความสยดสยองในครั้งนี้ หนังดัดแปลงมาจากนิยายขนาดสั้น ที่ได้แจ้งเกิดให้ คิง กลายเป็นราชาแห่งนิยายเขย่าขวัญมาจนถึงวันนี้ โดยก่อนหน้านี้หนังเคยถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์มาแล้วเมื่อปี 1976 กำกับโดย ไบรอัน เดอ พัลมา โดยตัวรีเมคนั้นยังคงเป็นการเดินเรื่องแบบฉบับของหนังฉบับก่อนหน้า ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนบริบทบางส่วนให้เหมาะตามยุคสมัย จุดเด่นของหนังคือการได้นักแสดงสาวที่กำลังมาแรงอย่าง โคลอี้ เกรซ มอร์เรทซ์ มารับบทแครี่ พร้อมได้ จูลี่แอนน์ มัวร์ มารับบทแม่ ด้วยเคมีของสาวนักแสดงหญิง ทำให้หนังมีการแสดงที่น่าสนใจชวนติดตาม นอกจากนี้ฉากปล่อยพลังของ แครี่ ที่ใช้งานโปรดักชั่น และงาน CGI สุดสมจริงของยุคนี้ ช่วยทำให้ฉากดังกล่าวดูโหด ดิบ และสมจริงมากยิ่งขึ้น ลิงก์ดูหนัง https://www.netflix.com/title/702515374. The Mist Series (2017)เมือง ๆ หนึ่งที่ได้ถูกหมอกปริศนาปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาคือสิ่งที่อยู่ในหมอกที่มาพร้อมความน่ากลัว สยดสยอง จนทำให้ผู้คนในเมืองล้มตายเป็นจำนวนมาก ทางเดียวที่จะเอาชีวิตรอดได้คือ ซ่อนตัวในที่ที่หมอกเข้าไม่ถึงอย่าง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ใจกลางเมือง แต่กระนั่นพวกเขาก็ต้องเผชิญกับความโลภ ความกระหายที่จะเอาชีวิตรอดของมนุษย์ด้วยกันเองด้วยเช่นกันสำหรับ The Mist ก่อนหน้านี้เคยถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ โดยแฟรงค์ ดาราบอนด์ มาแล้วเมื่อปี 2007 จนกระทั่งทุกวันนี้ผลงานดังกล่าวถูกยกให้เป็นหนังหักมุมสุดสะเทือนอารมณ์คนดูในตำนาน ส่วนฉบับซีรีส์นั้น จะเป็นการขยายดีเทลล์ของเหตุการณ์ของเรื่อง โดยเปลี่ยนจากการเล่าการเอาชีวิตรอดของคนที่อยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต อย่างเดียว เป็นการถ่ายทอดการเอาชีวิตรอดของคนในเมือง โดยมีการแบ่งเป็นหลายเส้นเรื่องตามสไตล์ของซีรีส์ในยุคนี้ พร้อมเพิ่มสกิลความน่ากลัวของปีศาจในหมอก ให้หลากหลาย และเดาทางยากกว่าเดิม น่าเสียดายที่ด้วยเรทติ้ง และเสียงตอบรับที่ไม่ดี ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีเพียงซีซั่นเดียว และตอนจบสุดค้างคาใจมาจนถึงทุกวันนี้ลิงก์ดูหนัง https://www.netflix.com/title/801354145. It (2017)เรื่องราวของคำสาปแห่งเมืองเดอร์รี่ ที่ทุก ๆ 27 ปี จะมีเด็กหายตัวไปอย่างปริศนา จนกระทั่งวันหนึ่ง จอร์จี้ น้องชายของ บิล เดนโบร ได้ถูกปีศาจตัวตลกนาม เพนนี่ ไวส์ ฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ก่อนที่ บิล และเพื่อน ๆ แก๊งขี้แพ้ ได้ช่วยกันสืบหาเบาะแสของโศกนาฎกรรมครั้งนี้ จนทำให้พวกเขาทั้งหมดต่างถูก เพนนี่ ไวส์ หลอกหลอนในรูปแบบต่าง ๆ ทางเดียวที่พวกเขาจะรอดจากคำสาปครั้งนี้ได้ คือการเอาชนะความกลัวของตัวเอง และช่วยกันปราบปีศาจตนนี้ เพื่อแก้คำสาปให้พ้นไปจากเมืองหากพูดถึงหนังที่ดัดแปลงจากหนังสือของ คิง ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา It น่าจะเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน โดยก่อนหน้านี้ It เคยถูกสร้างเป็นมินิซีรีส์เมื่อปี 1990 ก่อนที่ Warner Bros. จะจับตำนานปีศาจตัวตลกมานำเสนออีกครั้ง โดยยกระดับความสยดสยอง ความโหด ด้วยเรท R เลือดสาด ซึ่งหนังฉบับ 2017 ก็ประสบความสำเร็จทั้งรายได้ และคำวิจารณ์ ด้วยจังหวะการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม ฉากการหลอกหลอนของ เพนนี่ ไวส์ ที่ทำให้เราหายใจไม่ทั่วท้องตลอดทั้งเรื่อง จนทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังสยองขวัญเรื่องโปรดของหลาย ๆ คน นอกจากนี้เวอร์ชั่นที่ฉายใน Netflix ตอนนี้เป็นเพียง Chapter 1 เท่านั้น หนังยังมี Chapter 2 ที่ว่าด้วยเหตุการณ์ 27 ปีต่อมา ที่คาดว่าน่าจะลงฉายให้ชมใน Netflix เร็ว ๆ นี้ลิงก์ดูหนัง https://www.netflix.com/title/801777706. 1922 (2017)เรื่องราวของครอบครัวชาวไร่เล็ก ๆ ครอบครัวหนึ่ง ที่วันหนึ่งตัวผู้เป็นสามี และพ่อ ได้ร่วมมือกับลูกชาย ลงมือฆาตกรรมภรรยาของเขาทิ้ง หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ปิดปังเรื่องดังกล่าวให้เป็นความลับ ความสงสัยจากบรรดาเพื่อนบ้านรอบข้าง ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มถูกวิญญาณของผู้เป็นภรรยา และแม่ ตามหลอกหลอน จนกระทั่งเกิดปัญหาที่ทำให้พ่อลูก แตกคอกัน และนำมาสู่บทสรุปอันน่าสะเทือนขวัญความน่าสนใจของหนังคือการถ่ายทอดเหตุการณ์ในอเมริกายุคต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นช่วงที่ คิง ไม่ค่อยหยิบเหตุการณ์ในยุคนี้มาเล่านัก หนังถ่ายทอดเรื่องราวเหมือนว่าเรากำลังดูนิทานสอนใจเรื่องหนึ่ง แม้ว่าหนังจะไม่ได้มีฉากสยดสยอง หรือฉากน่ากลัว น่าขนลุกมากนัก แต่หนังเรื่องนี้ก็ได้ให้แง่คิดเรื่องความโลภ ความเห็นแก่ต้วของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ลิงก์ดูหนัง https://www.netflix.com/title/801351647. Gerald's Game(2017)สองคู่รัก เจสซี่ และเจอรัลด์ ได้เดินทางมายังบ้านพักต่างอากาศที่อยู่ในชนบท เพื่อมาสวีทรักกันสองต่อสอง โดยพวกเขาได้คิดไอเดียร่วมรักสุดพิศดาลด้วยการล็อคแขน เจสซี่ ไว้กับเสาเตียง แต่ทว่าทุกอย่างก็ไม่เป็นอย่างที่เขาหวัง เมื่อเจอรัลด์ ได้เกิดอาการหัวใจวาย และตายลงก่อนที่จะได้ร่วมรัก ทำให้ เจสซี่ ต้องโดนล็อคกุญแจเอาไว้กับเตียง พร้อมเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่อมีหมาป่า ในระแวกนั้น ได้เข้ามาในบ้านเพื่อหาอาหาร เธอจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ หนังเป็นการดัดแปลงงานของเจ้าพ่อนิยายเขย่าขวัญครั้งแรกของ ไมค์ ฟลานาแกน ผู้กำกับสายสยองขวัญมากฝีมือเจ้าของผลงานซีรีส์ The Haunting of Hill House ก่อนที่เขาจะได้มากำกับ Doctor Sleep ภาคต่อของ The Shining เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา ในเรื่องนี้นอกจากจะมาพร้อมพลอตเรื่องที่แปลก แหวกแนว พร้อมอารมณ์ระทึกขวัญ เอาชีวิตรอดที่ชวนลุ้นตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนั้นหนังยังได้พาคนดูไปสำรวจจิตใจ และอดีตของตัวละคร ผ่านเหตุการณ์อันเลสร้ายนี้อีกด้วย ทำให้ Gerald's Game เป็นงานสยองขวัญ ที่นอกจากความตื่นเต้นชวนลุ้นแล้ว หนังยังมีประเด็นต่าง ๆ ให้ได้ตีความ และคาดเดาถึงสิ่งที่หนังต้องการจะสื่ออีกด้วยลิงก์ดูหนัง https://www.netflix.com/title/801287228. In The Tall Grass (2019)เรื่องราวของสองพี่น้อง ที่ได้ขับรถผ่านมายังบริเวณหนึ่งที่มีทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ และมีหญ้าสูงในระดับที่มิดหัวของคน ๆ หนึ่ง เรื่องประหลาดเริ่มขึ้นเมื่อทั้งคู่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือมาจากด้านในพงหญ้าดังกล่าว ก่อนที่จะตัดสินใจพากันเข้าไปตามเสียงร้องดังกล่าว และนั่นก็ทำให้ทั้งสองพบเจอกับความน่าสยดสยอง และเรื่องแปลกประหลาดของด้านในพงหญ้าแห่งนี้ตัวหนังเป็นแนวระทึกขวัญ จิตวิทยา เอาชีวิตรอด ที่มาพร้อมวิธีการดำเนินการเรื่องแบบเดียวกับ Gerald's Game ที่เล่นกับสถานการณ์ที่แปลกประหลาด และชวนกดดัน ตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนี้หนังยังได้แฝงไปด้วยการสะท้อนจิตใจของมนุษย์ในสถานการณ์ที่ต้องเอาชีวิตรอด ออกมาได้อย่างน่าสะพรึง อย่างไรก็ตามในบรรดาคอนเทนต์จากสตีเวน คิง ที่มีใน Netflix เรื่องนี้เป็นหนังที่ค่อนข้างเข้าถึงยากที่สุด หนังเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ และนัยยะมากมายให้คนดูได้ตีความ และคาดเดากันอย่างเต็มที่ แต่หากใครไม่ชอบหนังที่ใช้ความคิด หรือตีความเยอะ ๆ ก็อาจถอดใจจากเรื่องนี้ตั้งแต่กลางทางก็เป็นได้ลิงก์ดูหนัง https://www.netflix.com/title/802379059. Castle Rock (2018-)ซีรีส์ที่ทำมาเพื่อเฉลิมฉลอง และขยายจักรวาลของ สตีเวน คิง โดยซีรีส์เรื่องนี้ จะไม่ได้เป็นการหยิบเหตุการณ์ในนิยายเล่มไหนของคิง มาดัดแปลงแต่อย่างใด แต่จะเป็นการนำตัวละคร สถานที่ และการใส่อีสเตอร์เอ้ก ต่าง ๆ ที่เคยอยู่ในจักรวาลนิยายของคิง มาสานต่อเป็นเรื่องราวเดียวกันผ่านมุมมองของตัวละครหน้าใหม่ ๆ และหน้าเก่าบางตัว ส่วนเนื้อหาจะพูดถึงเมืองที่มีชื่อเดียวกันกับชื่อเรื่อง ที่ได้มีอาถรรพ์บางอย่างที่ทำให้ผู้คนในเมืองเข่นฆ่ากันเอง หรือฆ่าตัวตายอย่างปริศนา โดยซีรีส์ชุดนี้ก็ยังไม่ทอดทิ้งเสน่ห์ความน่ากลัว ลึกลับ ระทึกขวัญ ที่เป็นลายเซ็นของ ราชานิยายเขย่าขวัญผู้นี้ออกไป สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ผลิตโดยอีกค่ายสตรีมคุณภาพอย่าง Hulu ที่ได้ผู้สร้างหนังไซไฟ แฟนตาซีแห่งยุคอย่าง เจเจ อับบรัมส์ มารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ โดยจุดเด่นข้อซีรีส์คือการที่แฟน ๆ ของคิง จะได้เพลิดเพลิน และฟินไปกับการเห็นตัวละครต่าง ๆ ที่เคยปรากฏในนิยาย มาผจญภัยในโลกแห่งความสยดสยองนี้ รวมถึงได้เห็นอีสเตอร์เอ้ก ที่มาเซอร์ไพรส์อยู่เป็นระยะ ๆ ปัจจุบันซีรีส์เรื่องนี้มีมาให้ชมทั้งหมด 2 ซีซั่นด้วยกัน โดยเนื้อหาแต่ละซีซั่นจะจบเคลียร์ในตัวเอง แต่ก็ยังมีส่วนเชื่อมโยงกันอยู่ เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่แฟนคลับของ คิง ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงลิงก์ดูหนัง https://www.netflix.com/title/81036944สำหรับหนัง และซีรีส์ทั้ง 9 เรื่องที่แนะนำไปนั้น ยังเป็นเพียงแค่บางส่วนของผลงานทั้งหมดของคิง ที่ถูกสร้างเป็นหนังเท่านั้น ยังมีผลงานของคิง อีกมากมายที่มีให้ชมตามช่องสตรีมอื่น ๆ หรือตามร้านจำหน่ายดีวีดี ที่มีหนังเก่า ๆ ของคิง ให้เลือกได้ลองชมมากมาย หรือหนังสือที่ตอนนี้ได้มีหลายสำนักพิมพ์ไทยหยิบทั้งงานเก่างานใหม่มาให้ได้อ่านกัน โดยเฉพาะใครที่อยากเสพงานระทึกขวัญ มีเต็มไปด้วยการนำเสนอที่มีชั้นเชิง ไม่ซ้ำใคร แถมยังแฝงไปด้วยแง่คิดดี ๆ งานของสตีเวน คิง ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง สามารถรับชมทั้ง 9 คอนเทนต์ที่แนะนำ บน Netflix ผ่านกล่อง True-ID ได้แล้ววันนี้ Cr.ภาพ หน้าปก / 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9สำหรับใครที่เป็นแฟนสตีเวน คิง ที่อ่านบทความนี้แล้วถูกใจ ทางผู้เขียนก็ได้มีกิจกรรมพิเศษด้วยการแจกโค้ดสำหรับช็อปแอ้ป Wemall มูลค่า 200 บาท จำนวน 3 รางวัลด้วยกัน โดยกติกาการร่วมสนุกมีดังนี้1) แชร์บทความนี้ออกไปยังเฟสบุ้คของคุณ พร้อมตั้งเป็นสาธารณะ 2) ใส่ แฮชแทก ในโพสต์ที่แชร์ว่า คุณชอบหนัง ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของสตีเวน คิง มากที่สุด เหตุผลใครโดนใจ 3 อันดับแรก ได้รางวัลไปเลย Code Wemall ท่านละ 200 บาท เงื่อนไข:ระยะเวลาในการเข้าร่วมสนุกกิจกรรม ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. - 30 มิ.ย. 63 เวลา 12.00ทาง In-Trend Influencer จะทำการประกาศชื่อบุคคลที่ได้รับของรางวัล 3 ชื่อ ในวันที่ 30 มิ.ย.63 เวลา 18.00 น. โดยการคอมเมนต์รายชื่อผู้ชนะผ่านทางโพสต์ที่ประกาศเชิญชวนให้ร่วมกิจกรรมบน Facebook ของ In-Trend Influencer สำหรับผู้ที่เข้ามาร่วมกิจกรรม หากคุณเป็นผู้ที่ได้รับรางวัล Code ส่วนลด Wemall ทาง In-Trend Influencer จะทำการติดต่อคุณไปยัง inbox ทาง Facebook เพื่อสอบถาม ชื่อและอีเมล ของคุณ เพื่อให้ทีมงานส่ง Code Wemall ไปให้ตามอีเมลที่ระบุไว้ Code Wemall จะถูกทำการส่งไปยังอีเมลของผู้ชนะ 3 ท่านภายใน 7 วันทำการ ภายหลังจากที่ทาง In-Trend Influencer ได้ทำการประกาศผู้ที่ได้รับรางวัลในส่วนของการคัดเลือกผู้ชนะเป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความในการคัดเลือกเท่านั้น ทางทีมงาน TrueID In-Trend ไม่มีส่วนในการคัดเลือกผู้ที่ได้รับของรางวัล Code Wemall แต่อย่างใด