ยุคนี้เทรนด์สุขภาพกำลังมาแรงค่ะ คำว่าสุขภาพก็กว้างมาก ๆ ด้วย แต่หลัก ๆ ที่เห็นบ่อยในโซเชียลก็น่าจะเกี่ยวกับเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการนั่นเองค่ะ ส่วนตัวมิวมองว่าเรื่องของโภชนาการเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างหนึ่งที่สหวิชาชีพที่ทำงานร่วมกับนักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายควรจะต้องมีความรู้ในคลังอยู่บ้าง อย่างมิวเองที่เป็นนักกายภาพบำบัดให้กับนักกีฬา ก็อาจจะต้องหมั่นค้นคว้าและอัพเดตความรู้ในเรื่องเหล่านี้อยู่เสมอ ล่าสุดมีนักกีฬาสอบถามเกี่ยวกับ Granola และ Muesli ว่ามีความแตกต่างกันยังบ้าง ควรทานตัวไหนดี วันนี้มีเวลามาสรุปให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันค่ะ Corn flakes = แป้ง (จากข้าวโพด) อบกรอบเคลือบน้ำตาล ตัวนี้ส่วนใหญ่เป็นแป้งที่ถูกขัดสี ทำให้เหลือใยอาหารน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ Granola และ Muesli อีกความแตกต่างหนึ่งก็คือ วัตถุดิบที่นำมาแปรรูปก็จะแตกต่างกัน โดย Corn flakes ทำมาจากข้าวโพด ส่วน Granola และ Muesli โดยมากทำมาจากข้าวโอ๊ต และอาจมีผลไม้อบแห้งต่าง ๆ ร่วมด้วย เมื่อวัตถุดิบหลักต่างกันคุณค่าทางอาหารย่อมต่างกันค่ะ ฉะนั้นวันนี้ขอให้เข้าใจตรงกันว่ามิวจะไม่นำ Corn flakes มาเปรียบเทียบด้วยนะคะ Granola VS Muesli ดูกันหมัดต่อหมัด 1. วัตถุดิบ ทั้งสองตัวทำมาจากธัญพืช เมล็ดถั่ว และผลไม้แห้งเหมือนกัน โดยดั้งเดิมทำมาจากข้าวโอ๊ต Granola : ธัญพืชสุก (ผ่านกระบวนการ) Muesli : ธัชพืชไม่สุก (ไม่ผ่านกระบวนการ) 2. กระบวนการทำ Granola : ผ่านการปรุงและอบ แถมมีการเติมสารให้ความหวานและน้ำมันเข้าไป เพิ่มความเป็นเนื้อเดียวกัน Muesli : ไม่ถูกผ่านกระบวนการปรุงและอบ 3. เนื้อสัมผัส Granola : มักจะถูกเติมสารให้ความหวาน ทำให้ธัญพืชจับกันเป็นก้อน Muesli : มีเนื้อที่ร่นกว่ามาก 4. วิธีการทาน Granola : เหมาะกับการเสิร์ฟหรือทานในรูปแบบเย็น เช่น โรยในนม โยเกิร์ต หรือแม้แต่เทใส่มือแล้วกินเป็นของว่างก็ได้เช่นกัน Muesli : สามารถทานได้ 2 วิธี คือ แช่ในของเหลว เช่น นม ค้างคืนไว้เย็นๆ เพื่อให้ธัญพืชดูดซึมของเหลว ทำให้ทานได้ง่ายขึ้น หรือสามารถนำมาปรุงสุก เช่น บดแล้วผสมลงไปในการหุงข้าว หรือใส่ในช็อกโกแล็ตร้อน ๆ เป็นต้น 5. ความสะดวก Granola : สามารถทานเดี่ยว ๆ แบบ ready to eat ได้ Muesli : ไม่สามารถทานเดี่ยว ๆ ได้ ไม่ใช่อาหารพกพา 6. แคลอรี่ Granola : มีแนวโน้มว่ากราโนล่าจะมีปริมาณแคลอรี่ที่สูงกว่ามูสลี่จากสารให้ความหวานและน้ำมัน Muesli : อาจจะมีแคลอรี่ที่น้อยกว่า เนื่องจากไม่ถูกผ่านกระบวนการและอบ พอจะเข้าใจกันมากขึ้นมั้ยคะเพื่อน ๆ อันที่จริงไม่เชิงนำมา VS กันหรอกค่ะ เพราะความจริงแล้วการเลือกทานอาหารเช้าสักตัวคงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง การตัดสินว่าอะไรดีกว่าเพื่อน ๆ อาจจะต้องมีข้อมูลมากกว่านี้ เช่น ความแตกต่างของแต่ละยี่ห้อ อัตราส่วนของส่วนผสม หรือแม้แต่เลือกทานคู่กับนมที่มีแคลอรี่เท่าไหร่ ส่วนตัวมิวก็ทานได้ทั้งสองอย่าง มองว่าอาหารพวกนี้ใช่ว่าจะไม่อ้วนเสมอไป คุณค่าของมันค่อนไปทางอาหารที่ทานง่ายให้พลังงานง่ายเสียมากกว่า ส่วนการเลือกทานก็ย่อมขึ้นกับการตัดสินใจของแต่ละบุคคลค่ะ ยินดีที่ได้มาแชร์เพื่อประกอบการตัดสินใจนะคะ :) ขอบคุณข้อมูลจากหลายแหล่งที่เคยศึกษา รวมถึงพี่แทค บิ๊กบอสของหนูค่ะ ภาพปกจากผู้เขียน : Chadum | เพจ Daily short note by นักกายภาพบำบัดอิสระ ขอขอบคุณภาพประกอบจาก freepik ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3