ไลฟ์แฮ็ก
Countdown ปีใหม่: สิ้นปีแล้วมาแอบวางแผนกันเถอะ (ใช้ Planner อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ)

ใช้ Planner อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
ใกล้เข้ามามาก ๆ แล้วกับปีเลขสวยอย่างปี 2020 สำหรับใครที่อยากมีชีวิตคูล ๆ ประสบความสำเร็จและมีความสุขกับชีวิต มาวางแผนตั้งแต่สิ้นปี 2019 กันดีกว่า บอกเลยว่ายิ่งวางแผนก่อน ยิ่งได้เปรียบ เพราะคนประสบความสำเร็จมักทำงานเวลาที่ชาวบ้านเขาไม่ทำกัน
เพราะคนประสบความสำเร็จมักทำงานเวลาที่ชาวบ้านเขาไม่ทำกัน
พูดถึงการวางแผน หลาย ๆ คนก็จะนึกถึง Planner ไม่ว่าจะเป็นสมุด ปฏิทินตั้งโต๊ะ หรือในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างคอมพิวเตอร์หรือไอแพด แต่ก่อนที่เราจะใช้ Planner เรามาดูกันดีกว่าว่าองค์ประกอบหรือลักษณะของ Planner มีอะไรบ้าง โดยจะแบ่งออกเป็น 4 สาย ซึ่งบางคนก็อาจจะใช้ทั้ง 2-4 สายใน Planner อันเดียวเลยก็ได้ ตามความถนัดและสไตล์ของแต่ละคน
สายที่หนึ่ง : สายกางปฏิทิน
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pexels.com/photo/writings-in-a-planner-636246/
Advertisement
Advertisement
ข้อดีสำหรับสายนี้คือสามารถกุมาชะตาชีวิตตลอดทั้งปีไว้ได้ในระดับหนึ่งเลย เพราะปฏิทินจะทำให้เราได้เห็นภาพรวมตลอดทั้งปี เดือน และสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นปฏิทินตั้งโต๊ะ, สมุดปฏิทิน หรือพวกแอพพลิเคชันต่าง ๆ อย่างเช่น Google Calendar
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pexels.com/photo/app-apple-calendar-computer-39578/
ข้อแนะนำสำหรับสายนี้
1.List วันสำคัญทั้งหมดก่อน เป็นวันที่ Fix ไว้อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้นแน่นอน เช่นวันหยุด (สำคัญจริง ๆ เชียว) จากนั้นค่อยวางกิจกรรมเสริมเข้าไป
2.ถ้าเป็นปฏิทินกระดาษ การขีดฆ่าช่องวัน จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้นมากขึ้น เหมือนนับถอยหลังก่อนถึงเดดไลน์
3.ปฏิทินแบบแอพพลิเคชันค่อนข้างมีประโยชน์มาก ๆ เพราะสามารถลงรายละเอียดงานที่ทำเป็นรายชั่วโมงหรือนาทีได้เลย แถมยังเลือกสีได้ด้วย นอกจากนี้สิ่งที่บันทึกไว้ไม่หายไปไหน สามารถค้นหาได้ แม้เวลาจะผ่านไปนานกี่ปีก็ตาม แถมยังสามารถดูได้ในโทรศัพท์มือถือ สะดวกสุด ๆ (คิดว่าคนรุ่นใหม่น่าจะชอบข้อนี้)
Advertisement
Advertisement
สายที่สอง : สาย To do list
To do list ก็คือรายการของสิ่งที่ต้องทำ มักใช้ควบคู่กับปฏิทินหรือตารางเวลา โดยที่ขั้นตอนแรกให้เขียนรายการที่จะต้องทำก่อน แล้วนำมาลงในตารางเวลา จากนั้นก็นำสิ่งที่อยากจะทำเพิ่ม มาใส่ในตารางเช่นกัน
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pexels.com/photo/pen-calendar-to-do-checklist-3243/
ข้อแนะนำสำหรับสายนี้
1.ความสุข ความสะใจ และความสนุก อย่างหนึ่งของ To Do List อยู่ที่การได้ขีดฆ่ารายการที่ทำสำเร็จแล้ว บอกเลยว่าฟินสุด ๆ
2.ลองแบ่งประเภท To Do List ออกมาเป็น Need และ Want โดยที่ Need เป็นความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น เงินเดือน, บ้าน, อาหาร เป็นต้น แต่ Want เป็นสิ่งที่เพิ่มมาจากความจำเป็น คือความอยากล้วน ๆ เช่น อยากมีรายได้เพิ่ม, อยากมีเงินเก็บเพิ่ม, อยากลดรอบเอว เป็นต้น
สายที่สาม : สาย Mind Map
Advertisement
Advertisement
ขอบคุณรูปภาพจาก https://pixabay.com/illustrations/woman-thoughts-girl-social-media-1169316/
สายนี้เอาจริง ๆ ค่อนข้างยากนะ ที่จะเขียนทุกอย่างที่เป็นเป้าหมาย ให้เห็นภาพรวมทั้งหมดภายในหน้าเดียว แต่ถ้าทำได้ก็สุดยอดมากเลย Mind Map คือผังความคิด ที่แตกแขนงออกไป ย่อยไปเรื่อย ๆ ตามต้องการ อย่างเช่น “อยากไปเที่ยว” แตกออกเป็น “ไปเที่ยยุโรป” กับ “ไปเที่ยวญี่ปุ่น” หัวข้อย่อยลงไปอีกก็เช่นแต่ละที่อยากทำอะไร, กินอะไร, ไปเหมืองไหน เป็นต้น ยิ่งละเอียด เป้าหมายยิ่งชัด
ข้อแนะนำสำหรับสายนี้ : ระวังอย่างเดียว อย่าให้ออกทะเลมากเกินไป เพราะ Mind Map จะทำให้เราแตกแขนงมาก จนเราไม่สามารถโฟกัส เป้าหมายหลัก ๆ ได้เลย ทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง เช่น อยากเป็นนักร้อง แต่นักร้องก็ต้องมีดนตรี เลยไปหัดเรียนดนตรี และการเรียนดนตรีก็ต้องใช้เงิน เลยวางแผนหางานเสริม พอหางานเสริมมาก ๆ ก็เหนื่อย ไปทำงานไม่ไหว โดนไล่ออกจากงานประจำ ซึ่งจริง ๆ อยากเป็นนักร้องก็ไปเรียนร้องเพลงสิ พอคุณร้องเพลงได้ดีในระดับหนึ่ง จะมีคนมาขอเล่นดนตรีให้คุณเองแหละ
ใครเคยหลงทางตอนปี 2019 ขอให้ทบทวนดี ๆ แล้วปี 2020 ไม่เอาละนะ เริ่มใหม่กันเถอะ
สายที่ 4 : สาย Days Challenge
เคยได้ยินไหมว่าการทำสิ่งซ้ำ ๆ 20 วัน, 30 วัน หรือ 40 วัน ติดต่อกัน จะทำให้คนเราสร้างนิสัยใหม่ได้ การทำ Days Challenge ก็คือการกำหนดว่าจะทำสิ่งหนึ่งติดต่อกันกี่วันนั่นเอง
30-Day Challenge ของ Austin Kleon ขอบคุณสำหรับรูปภาพและสามารถดาวน์โหลดได้ที่ https://austinkleon.com/2017/11/01/30-day-challenge/
ข้อแนะนำสำหรับสายนี้
1.อย่าทำ Days Challenge หลายอย่างในช่วงเดียวกัน เพราะการจะมีวินัยขนาดนั้นได้ ต้องโฟกัสทีละอย่างจริง ๆ อย่างเช่นอยากตื่นตี 5 ทุกวัน คุณก็แค่สปริงตัวขึ้นมาจากเตียงตอนตี 5 ทุกวันให้ได้ก่อน (ยกตัวอย่างได้ใกล้เคียงกับตัวเองมากกก) เมื่อลุกขึ้นมาตี 5 แล้ว จะตื่นมาดูการ์ตูน หรือกวาดบ้านก็ได้ พอนิสัยการตื่นตี 5 เริ่มอยู่ตัวแล้ว ก็ค่อยขยับเป็นตื่นมาทำอย่างอื่นเช่น ออกกำลังกาย, อ่านหนังสือ ในช่วงตี 5 นั้น เป็นต้น
2.ตั้งรางวัลให้ตัวเอง เพื่อเป็นแรงจูงใจในการทำซ้ำ ๆ เพราะมันไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะการสร้างนิสัยใหม่เนี่ย
3.เน้นกระบวนการมากกว่าเป้าหมาย ยกตัวอย่างเลยดีกว่าจะได้เข้าใจง่าย เช่น แทนที่จะชั่งดูน้ำหนักทุกชั่วโมงว่าลดไปกี่กิโลแล้ว ให้ดูนาฬิกาข้อมือตัวเองแทนว่าเดินได้ครบหนึ่งหมื่นก้าวแล้วหรือยัง
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pexels.com/photo/people-doing-marathon-618612/
และนี่ก็คือการใช้ Planner แบบมีประสิทธิภาพ ถ้าอ่านบทความนี้จบแล้ว ก็ควักเงินไปซื้อ Planner ได้เลย หรือจะใช้แอพพลิเคชันฟรี ๆ ก็ได้
สุดท้ายนี้ถ้าจำอะไรไม่ได้เลยในบทความนี้ ก็จำไว้แค่ว่า “โฟกัส” อย่าหลงทาง โฟกัสดี ๆ มีเป้าหมายชัดเจน เมื่อเป้าหมายชัด แผนทุกอย่างมันจะเริ่มชัดเอง
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pexels.com/search/planner/
ขอให้ปี 2020 เป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคน เริ่มจากการวางแผนตั้งแต่ปี 2019 กันเลย แล้วปีหน้ามาสนุกกัน
โอ้
Facebook : fb.me/justlearntogether
YouTube : https://bit.ly/2PpkbZu
IG : kanziri
ความคิดเห็น
