องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ 3 ธันวาคม ของทุกปี เป็น "วันคนพิการสากล" เพื่อเป็นการระลึกถึงวันที่สมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติได้รับรองแผนปฏิบัติการโลกว่าด้วยเรื่องคนพิการ และให้ประเทศสมาชิก ร่วมกันจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้คนพิการได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ทำให้สังคมเกิดเจตคติเชิงสร้างสรรค์ต่อคนพิการและความพิการ ให้การยอมรับคนพิการในฐานะที่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของสังคม (อ้างอิงจากเว็บไซต์รัฐบาลไทย) โดยในปี พ.ศ. 2562 นี้ องค์กรสหประชาชาติได้กำหนดประเด็นหลัก คือ สร้างการมีส่วนร่วม เสริมความเป็นผู้นำคนพิการ สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 สำหรับประเทศไทย ได้ให้ความสำคัญกับการจัดงานวันคนพิการสากลเป็นอย่างยิ่งค่ะ โดยในวันที่ 3 ธันวาคม 2562 เวลา 15.00 น. ท่านนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันคนพิการสากล ประจำปี 2562 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณดีเด่นให้แก่ คนพิการต้นแบบดีเด่น องค์กรที่สนับสนุนงานด้านคนพิการดีเยี่ยม และสถานที่ดีเด่นด้านการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ // ขอบพระคุณภาพประกอบจาก : เว็บไซต์รัฐบาลไทย // สำหรับผู้ที่มาร่วมงานในครั้งนี้ เช่น ผู้แทนองค์การสหประชาชาติ นายกสมาคมคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย รวมทั้งผู้พิการทางสายตา พิการทางการได้ยิน พิการทางสมอง และพิการทางการเคลื่อนไหว รวมทั้งผู้ดูแลผู้พิการก็มาร่วมงาน และมาร่วมแสดงความยินดีกับผู้ได้รับโล่ฯ ด้วยนะคะ นอกจากนี้ ยังมีวงดนตรีของผู้พิการทางสายตา มาให้ความสุขกับผู้เข้าร่วมงานด้วยค่ะ ถึงแม้สายตาจะมองไม่เห็น แต่พี่ ๆ เล่นเพลงได้ไพเราะมากค่ะ รวมทั้งการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับผู้พิการ และความต้องการของผู้พิการ เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่สังคมด้วยนะคะ กล่าวคือ ประเทศไทยมีคนพิการกว่า 2 ล้านคน ซึ่ง 1 ใน 33 คน ของประชากรไทยเป็นคนพิการ ซึ่งสาเหตุของความพิการเกิดจากภาวะความเจ็บป่วย/โรคภัยไข้เจ็บ อุบัติเหตุ พันธุกรรม โรคติดเชื้อ เป็นต้นค่ะ สำหรับความต้องการของผู้พิการนั้น ส่วนใหญ่ต้องการรับความช่วยเหลือด้านการมีอาชีพ/มีงานทำ สิทธิเท่าเทียม สุขภาวะคนพิการ สิ่งอำนวยความสะดวก และการศึกษา เป็นต้น และที่น่าสนใจ คือ 50% ของคนพิการเป็นผู้สูงอายุ ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้พิการเหล่านั้น ได้มีโอกาสเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ในการดูแลรักษาสุขภาพ และรู้สึกถึงการดำรงชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าในตัวเอง เช่น การให้ความรู้ "คนพิการสูงวัย สร้างสุขใกล้ตัว" โดยปฏิบัติการ 5อ. ได้แก่ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ อดิเรก และอนามัย ในส่วนของการออกกำลังกายนั้น ผู้พิการสูงวัยคงไม่สามารถทำอะไรได้มาก ดังนั้น จึงมีการแนะนำให้ผู้พิการสูงวัยได้รู้จักกับ "ยางยืดเพื่อสุขภาพ" ซึ่งคุณสมบัติของยางยืด คือ ทำให้ร่างกายแข็งแรง ควบคุมน้ำหนัก และสะดวกต่อการพกพา" อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ Art & Craft ซึ่งเป็นการสอนศิลปะ และงานฝีมือให้แก่ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้พิการอื่น ๆ ด้วยค่ะ นิทรรศการอีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งทำให้เราได้รับทราบถึงความก้าวหน้าทางวิทยาการ เพื่อการช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา และผู้พิการทางการได้ยินด้วย ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ Read Ring เป็นเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้คนตาบอดสามารถเข้าถึงการอ่านได้มากขึ้น ซึ่งเจ้าเครื่องนี้นะคะ มีราคา และหน้าที่การใช้งานเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนเลยค่ะ สามารถอ่านตัวหนังสือและอักษรเบรลล์ได้เต็มประโยค เหมือนเครื่องแสดงผลเบรลล์ และเป็นอุปกรณ์เครื่องแรกของโลก ที่ผู้ใช้งานสามารถอ่านหนังสือของคนปกติ และสัมผัสอักษรเบรลล์ได้ทันทีด้วยค่ะ ระบบล่ามทางไกลสำหรับการศึกษานักศึกษาหูหนวก โดยภาพและเสียงของผู้สอนจะถูกส่งผ่านระบบสื่อสารทางไกลไปยังศูนย์ล่ามภาษามือ และศูนย์ถอดความ จากนั้นล่ามจะแปลภาษามือ และส่งภาพกลับมายังห้องเรียน ในขณะที่ศูนย์ถอดความจะส่งข้อความคำบรรยายแทนเสียงกลับมาที่ห้องเรียนเช่นกัน ทั้งนี้ นักศึกษาหูหนวกสามารถดูล่ามภาษามือ พร้อมอ่านข้อความคำบรรยายแทนเสียงขณะที่อาจารย์สอน และสามารถสื่อสารกับล่ามเพื่อถามและตอบกับอาจารย์ได้ ผ่านกล้องที่ติดอยู่กับคอมพิวเตอร์ของนักศึกษาแต่ละคน จากการไปสังเกตการณ์ ทำให้เราได้เห็นว่า คนพิการล้วนต้องการโอกาส เพื่อให้พวกเขาสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองอย่างเท่าเทียม และมีศักดิ์ศรี ดังจะเห็นได้จากความสำเร็จต่าง ๆ ที่คนพิการได้พยายามเป็นอย่างยิ่ง เพื่อนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทย ในส่วนของความช่วยเหลือนั้น ทุกภาคส่วนของสังคม ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ต่างก็มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนให้คนพิการสามารถเข้าถึงสิทธิ สวัสดิการ การใช้ประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ การคุ้มครองแรงงานคนพิการ และส่งเสริมการมีอาชีพเพื่อให้คนพิการสามารถดำรงชีวิตได้ด้วยตนเอง ในมุมมองของเรา ประเทศไทยเป็นสังคมของการให้โอกาส เริ่มจากตัวของเพื่อน ๆ ทุกคน ให้โอกาสคนพิการ ลุกให้เขานั่ง พาเขาข้ามถนน ถามว่าเขาต้องการให้เราช่วยเหลืออะไรหรือไม่ ... จากจุดเล็ก ๆ ที่เริ่มจากทุกคน เราเชื่อว่า ความปรารถนาดี และการหยิบยื่นโอกาสและความปรารถนาดีให้แก่กันนั้น จะช่วยให้ผู้พิการดำเนินชีวิตได้สะดวกสบายมากขึ้น เพื่อให้เขาได้มีชีวิตอยู่ในสังคมร่วมกับพวกเราอย่างมีความสุขค่ะ