ช่วงเวลาต้องเก็บตัวรักษาระยะห่างกับสังคม ใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้มาก ออกไปข้างนอกเท่าที่จำเป็นจริง ๆ ในช่วงมาตรการรับมือกับโควิด-19 ที่ทำให้ฉันมีเวลาทบทวนตัวเองและปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง ทุกครั้งที่ออกไปจ่ายตลาดนัดใกล้ที่พักเพียงเดินห้านาทีถึง น่าจะเป็นช่วงการรักษาระยะห่างต่อคนรอบตัว แต่ไม่ถึงกับตัดรอนความใส่ใจต่อกัน กับเพื่อนบ้านบางคนที่ฉันยังคุยกันตามปกติในระยะปลอดภัย ความประทับใจในห้วงนี้สำหรับฉันคือเพื่อนบ้านที่เปิดร้านชำขนาดเล็กในชุมชน ฉันมักเรียกเจ้าของร้านชำเหล่าว่า “ผู้ประกอบการจิ๋ว” ผู้ประกอบการจิ๋วคือส่วนประกอบของเศรษฐศาสตร์จุลภาค ลงทุนไม่สูง เน้นอาหาร ของใช้ภายในครัวเรือนที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน การซื้อของตามร้านชำขนาดเล็กในชุมชนทำให้ได้ทบทวนสติกับตัวเองเสมอ ต่างจากไปตามห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ มีสิ่งล่อตาล่อใจจำนวนมาก ฉันใช้เวลาหมดวันแบบไม่รู้ตัว พร้อมกับเงินในกระเป๋าหายไปกับของบางอย่างที่ไม่จำเป็นต่อชีวิตในบางครั้ง เรามักใช้ภาษาในสมัยนี้ในกรณีหลวมตัวซื้อบางอย่างว่า “ถูกป้ายยา” การมาของโควิด-19 ทำให้ตระหนักและตั้งคำถามต่อสิ่งจำเป็นในชีวิตไปพร้อมกับการเฝ้าระวังไม่เป็นพาหะ ไม่แพร่เชื้อ ไม่พาตัวเองไปในที่สุ่มเสี่ยง รวมถึงคิดถึงเพื่อนร่วมโลก ในมุมหนึ่งก็คือโรคที่สร้างความตื่นตระหนกขณะเดียวกันก็สร้างความตระหนักแก่ฉันในเวลาต่อมาเช่นเดียวกัน ร้านชำของเพื่อนบ้านในห้วงเวลาเฝ้าระวังโควิด-19 วันหนึ่งฉันระหว่างเลือกผักกับปลาทูมาทำอาหาร ฉันเปรยกับเธอว่า “อยากกินน้ำพริกกะปิ แต่ไม่มีครก” เธอแนะนำให้ไปซื้อครกที่ตลาดนัดวันอาทิตย์เช้า มีคนนำครกมาขาย เมื่อล่วงเลยผ่านวันอาทิตย์ ฉันเดินผ่านหน้าร้านชำ เธอกวักมือเรียก “สองสามวันก่อนที่แนะนำให้ไปซื้อครก ได้มาหรือยัง” ฉันส่ายหน้าแทนคำตอบ ระหว่างเลือกซื้อของสดประเภทผัก เธอถามต่อว่า “ว่าแต่ไข่ไก่ที่ซื้อไป กินหมดยัง” ฉันให้คำตอบว่า “ยังไม่หมดเลย และไม่กักตุน จะได้กระจายการกิน” เธอตอบว่าสายส่งไข่จำกัดการจำหน่ายไข่ให้กับทางร้านช่วงหนึ่ง แต่ตอนนี้มีไข่ตามปกติแล้ว ระหว่างที่ฉันเลือกของจากแผงผักที่ยื่นออกมาจากรั้วบ้านของเธออยู่นั้น เสียงของเธอสนทนากับลูกค้าคนอื่นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงราคาไข่ไก่ที่อาจจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับกล่าวขออภัยลูกค้าหากราคาปรับสูงขึ้นนิดหน่อย และของอาจไม่มีในกรณีขายหมด ฉันชำระเงินค่าผักและคุยกับเธอแบบรักษาระยะห่างต่อกันและกันว่า “ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนใจข้าง ๆ ในระยะห่างกับช่วงเวลาแบบนี้ เมื่อก่อนเราเดินผ่านกัน แวะทักทาย ซื้อของจากร้านชำ อาจจะรู้สึกเหมือนกิจวัตร แต่ตอนนี้โควิด-19 ทำให้เราละเอียดมากกว่าแค่คนซื้อ คนขาย” ทุกครั้งที่จ่ายตลาดจากร้านเธอเสร็จสิ้นลง ในช่วงเวลาปกติฉันมักจะกล่าวว่า “ขอบคุณที่หาข้าวปลาอาหารมาขายให้เพียงพอแก่ความจำเป็นเสมอ” เมื่อโควิด-19มาเยือน ฉันรู้สึกว่าคำขอบคุณให้ความรู้สึกอิ่มเอมยิ่งขึ้นเมื่อกล่าวออกไปเช่นนี้ รวมถึงกำลังใจที่ส่งมอบให้กับเธอและสามีที่ต้องออกไปจ่ายตลาดเพื่อซื้อของมาขายให้คนในชุมชน ฉันรู้สึกเสมอว่าร้านชำในชุมชนคือพื้นที่ของสาธารณะหน่วยย่อยทางด้านเศรษฐศาสตร์และการตลาดที่ทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นโอกาสในการเข้าถึงอาชีพ เป็นโอกาสให้เกิดบทสนทนา เป็นพื้นที่ให้ได้สัมผัสความใส่ใจต่อเพื่อนบ้านที่ไม่ใช่แบบลูกค้าพรีเมี่ยม เราไม่ต้องใช้บัตรสมาชิกเพื่อเป็นส่วนลด ไม่มีงานลดกระหน่ำ ราคาต่าง ๆ ที่ร้านชำตั้งไว้เป็นราคาพื้นฐานของชุมชนที่ทุกคนเข้าถึงได้ ถึงบางอย่างและหลายอย่างอาจจะสูงกว่าร้านค้าใหญ่ ๆ ที่มีแรงทางการตลาดในการลดราคา ร้านชำสอนการใช้จ่ายสภาพคล่องผ่านเงินสดและไม่ต้องจ่ายด้วยบัตรเครดิต และยังทำให้เราได้ส่งมอบความห่วงใยต่อกันแบบมีระยะห่างในช่วงเวลานี้ บางครั้งความห่วงใยไม่ได้พูดกันตรง ๆ แต่มันแฝงอยู่ในบทสนทนา คำทักทายอันเรียบง่าย หรือคำถามแสนธรรมดา เช่น “หาซื้อครกได้หรือยัง” นี่แหละร้านชำของเพื่อนบ้าน เรือนค้าขายที่เพาะชำความห่วงใยในช่วงโควิด-19 Story and Photo by Nonglak Butler