Existentialism หลักปรัชญาที่ปลอบประโลมเราในวันที่อ้างว้าง เราเกิดมาเพื่ออะไร ทำไมชีวิตเราถึงเป็นแบบนี้ ถ้าในวันนั้นเราเลือกที่จะ... ตอนนี้เราก็คง... คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่เราทุกคนล้วนต้องเคยถามกับตัวเองมาแล้วทั้งสิ้น บางคนอาจจะมีคำตอบที่คอยปลอบตัวเอง บางคนไม่มี คิดแล้วคิดอีกก็ไม่ได้คำตอบสักทีอาจเกิดอาการตั้งแต่นั่งเซ็ง เศร้านิดๆ ไปจนถึงการสับสนกับชีวิตของตนเอง หากคุณ(หรือเคย)เป็นเช่นนั้นแล้ว อัตถิภาวนิยมหรือ Existentialism อาจเป็นสิ่งที่ให้คำตอบกับคุณได้ เมื่อมีความต้องการที่จะนำหมึกมาจรดเขียนลงบนแผ่นกระดาษเพื่อบันทึกสิ่งต่างๆ การประดิษฐ์สิ่งที่เรียกว่าปากกาก็เกิดขึ้น แต่กับมนุษย์ล่ะ ทำไมการมีตัวตนอยู่ถึงมีมาก่อนจุดประสงค์ในชีวิตของเรา ปรัชญา Existentialism เชือว่า ไม่มีอำนาจที่สูงส่ง ความดีชั่วที่ทำมาแต่ชาติก่อน มากำหนดความหมายของการดำรงอยู่ของเราได้ แต่มันเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องออกไปสัมผัส รับรู้ เข้าใจ ค้นหาจุดประสงค์ของชีวิตเราด้วยตัวเองExistence precedes essence Jean Paul Sartre (21 June 1905 – 15 April 1980) เป็นนักเขียน นักเคลื่อนไหวทางการเมืองนักปรัชญาชาวฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในนักปรัชญาที่มีอิทธิพลต่อวงการปรัชญาฝรั่งเศสมากที่สุดในศตวรรษที่ 20 Sartre (ซาทร์) เชื่อว่า การมีตัวตนอยู่ บุคลิก และการดำเนินชีวิตของคนมีผลมาจากการที่เขาเหล่านั้นได้รับประสบการณ์จากการใช้ชีวิต มนุษย์ทุกคนมีอิสรภาพ อย่างไรก็ตามเราทุกคนก็ต้องยอมรับผลการกระทำของตัวเอง ยกตัวอย่างในหนังสือ Existential is a Humanism ในช่วงสงครามมีนักเรียนของซาทร์คนหนึ่งมาขอความเห็นจากเขา ว่าควรจะอยู่บ้านดูแลแม่ของเขาที่ฝรั่งเศส เพราะพี่ชายเสียชีวิตในสนามรบ และพ่อก็ทอดทิ้งครอบครัวไป หรือจะไปเข้าร่วมกลุ่มต่อต้านเพื่อต่อสู้กับเยอรมนี นักเรียนคนนี้ต้องเลือกระหว่างครอบครัว และประเทศชาติ ระหว่างความจำเป็นที่ต้องเลี้ยงดูแลแม่ และความต้องการแก้แค้นให้พี่ชาย ซาทร์บอกเพียงว่า ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ไม่มีถูกหรือผิด เขาต้องเป็นคนใช้ศีลธรรมของตนเองตัดสินใจเรื่องนี้ เขาคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้ และเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบกับมันกับผลที่ตามมาเช่นกัน Should I kill myself, or have a cup of coffee? Albert Camus (7 November 1913 – 4 January 1960) เป็นนักเขียน นักข่าว และนักปรัชญา(ถึงแม้เขาจะปฏิเสธที่จะเป็นมาโดยตลอด) ชาวฝรั่งเศส ในหนังสือThe Myth of Sisyphus Camus (คามู) เชื่อว่ามนุษย์นั้นเหมือน Sisyphus ที่โดนสาปให้ต้องเข็นก้อนหินขึ้นไปบนยอด ก่อนที่จะต้องดูมันกลิ้งหล่นลงมา จากนั้นก็เข็นใหม่ไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม เขาเสนอให้เราทำการ Revolt (ปฏิวัติ) ต่อความคิดนี้ เราสามารถเลือกทำสิ่งใดก็ได้ที่เราต้องการ ไม่ว่าโลกจะพาเราไปเจอกับอะไร หากเราหันหน้าเผชิญกับมัน เข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่อง"ไร้สาระ (Absurd)" คามูคิดว่านั่นแหละ คือการใช้ชีวิตที่แท้จริง ซึ่งก็ดูเหมือนว่าเขาจะเชื่อในแนวคิดนี้จริงๆ คามูเป็นชายเจ้าสำราญ เขาออกงานพร้อมกับสาวๆมากหน้าหลายตา มีความสัมพันธ์กับดาราสาวทั้งที่มีครอบครัวอยู่แล้ว แม้กระทั่งเมื่อเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ขณะเดินทางกลับปารีสกับเพื่อนและครอบครัว ทั้งๆเส้นทางที่รถขับเป็นทางตรง เป็นเรื่องตลกร้ายที่ในกระเป๋ากางเกงของเขามีตั๋วรถไฟในคืนนั้นที่มีจุดหมายอยู่ที่ปารีสเช่นเดียวกัน แนวคิดของซาทร์และคามูมีทั้งความแตกต่างกันในหลายด้าน แต่แนวคิดของทั้งสองคนก็มีหลักการพื้นฐานที่คล้ายกันที่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรานั้นไม่มีที่มาที่ไป ควบคุมไม่ได้ เเต่ทว่าเราเป็นคนควบคุมชีวิตของเราเอง ไม่มีอำนาจใดอยู่เหนือตัวเรา และอย่างน้อยที่สุด มันอาจช่วยปลอบประโลมความรู้สึกสิ้นหวังท้อแท้ที่เรากำลังมีอยู่นั้นเอง credit ภาพ https://qz.com/quartzy/1275452/most-self-help-ideas-were-written-first-and-better-by-jean-paul-sartre/ https://quillette.com/2019/03/26/albert-camus-unfashionable-anti-totalitarian/