“เกี๊ยวซ่า หน้าเปิด” ครั้งแรกที่ได้ยิน มีคำถามในหัวเต็มไปหมด เพราะคำว่า เกี๊ยวซ่า เราคงได้ยินจนชินแล้ว แต่คำว่า หน้าเปิด ที่พ่วงท้ายมาด้วย มันสะกิดต่อมอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที ว่าหน้าตามันเป็นยังไง รสชาติจะเหมือนเกี๊ยวซ่าทั่วไปหรือเปล่า แล้วที่ว่าหน้าเปิด มันจะเปิดไว้ทำอะไร ความสงสัยทั้งหมด พาเรามาอยู่ที่หน้าร้าน Feng Zhu (เฟิงจู) ร้านเกี๊ยวซ่าเล็ก ๆ ตรงข้าม River City แถวท่าเรือสี่พระยา ย่านเจริญกรุง ร้าน Feng Zhu ตกแต่งด้วยสไตส์แบบฮ่องกง ดูโดดเด่นดึงดูดคนเดินผ่านไปมา ดูหว่อง ๆ มีโต๊ะและเก้าอี้ไม่มากเท่าไหร่ตามขนาดน่ารัก ๆ ของร้าน สวนทางกับจำนวนคนที่แวะเวียนเข้ามา นอกจากโต๊ะจัดเป็นเซทด้านหน้าร้าน ทางด้านซ้ายของร้านจะมีที่นั่งเป็นเหมือนบาร์ เป็นสไตส์แบบจีน ๆ ตกแต่งด้วยหนังสือพิมพ์และหน้านิตยสารภาษาจีน เหมาะกับการถ่ายรูปไปลงโซเชี่ยลมาก ๆ และถ้าเรามองเข้าไปในร้านก็จะเห็นครัว มีคุณป้า คุณลุงช่วยกันรับออเดอร์ นึ่งเกี๊ยวเตรียมพร้อมเพื่อลูกค้า ถึงเวลาสั่ง!! เกี๊ยวซ่าเฟิงจูมีให้เลือกด้วยกัน 5 รสชาติ คือ ดั้งเดิม, หมาล่า, เห็ด 5 อย่าง, สามก๊ก, และแกงฮังเล แค่ได้ยินชื่อก็เลือกไม่ถูก มาถึงร้านก็ต้องลองให้หมด ซึ่งราคาก็จะอยู่ที่ชิ้นละ 12-15 บาท ตามในใบจดออเดอร์เลย แถมยังมีท็อปปิ้งให้เลือกโป๊ะบนหน้าเกี๊ยวซ่ากันไปเลยถึง 4 อย่าง คือ ชีส ไข่กุ้ง ไข่แดงเค็ม และหอมญี่ปุ่นซอย ในราคา 3-5 บาท ความดีงามของท็อปปิ้งคือ เราจะได้สัมผัสความอร่อยของเกี๊ยวซ่าในแต่ละคำไม่เหมือนกัน ใช้เวลารอไม่ถึง 10 นาที เราก็จะได้เกี๊ยวซ่าหน้าเปิดร้อน ๆ ที่เพิ่งนึ่งเสร็จมาอยู่ตรงหน้า เจ้าของร้านจะเรียกชื่อเราแล้วเอามาส่งให้ถึงที่ พร้อมกับเครื่องดื่มหน้าตาจีน ๆ ที่สั่งไป รสชาติคล้าย ๆ จับเลี้ยง ราคากระป๋องละ 50 บาท ได้เวลาชิม ไส้ในเกี๊ยวให้มาเต็มคำ ไม่มีหวง เลยเข้าใจว่าทำไมถึงกล้าเปิดหน้า กินเพลินมาก ไม่กี่คำก็หมด แต่ละรสชาติก็จะแตกต่างกันไป โดยส่วนตัวแล้วชอบอยู่ 3 รสชาติ คือ "รสดั้งเดิม" ได้รสชาติของหมูเน้น ๆ ไม่จืด ไม่รสจัดเกินไป กำลังพอดี, "รสสามก๊ก" รวมมิตรเครื่องเทศ รากผักชี กระเทียม และพริกไทย ทำให้หมูกลมกล่อมมากขึ้น, "รสแกงฮังเล" เป็นรสชาติของหมูในแกงฮังเลเลย พอเอามาหุ้มด้วยแป้งเกี๊ยวซ่า ก็ไม่คิดว่ามันจะเข้ากันได้ดี ลงตัว ซึ่งแต่ละหน้าก็จะมีรสชาติที่ต่างไปอีกจากท็อปปิ้งที่เราเลือกมาโป๊ะหน้า นอกจากรสชาติที่อร่อย หมูเน้นมาเต็มคำแล้ว เกี๊ยวซ่าของร้านนี้น่าจะถูกใจสายเฮลตี้ เพราะที่ร้านใช่วิธีการนึ่งแทนการทอด และไม่ใส่ผงชูรส เรียกได้ว่า อิ่ม ไม่อ้วนแน่นอน ถ้าใครสนใจ อยากลองตามมาชิม เดินทางง่ายไม่ยุ่งยาก นั่งได้ทั้งเรือด่วน เรือข้ามฝากมาลงท่าเรือสี่พระยา สาย BTS ต้องลงสะพานตามสินจะต่อพี่วินหรือรถประจำทางแล้วแต่สะดวก แต่ถ้าสาย MRT ต้องลงหัวลำโพง ขยันเดินหน่อยถือว่าออกกำลังกาย 10-20 นาทีก็ถึงแล้วจ้า ร้านเปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.30-20.00 น. และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 11.00-20.00 น.