สวัสดีค่า ทานข้าวหรือยังคะคำถามนี้คงเป็นคำถามที่ไม่ว่าใครก็เคยได้ยินเพราะอาหารคือปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะกับคนไทยที่ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ คำถามว่า "ทานข้าวหรือยัง" จึงเป็นเหมือนคำถามติดปากของคนไทยมาตั้งแต่ยุคสมัยไหนๆเมื่อพูดถึงอาหาร วันนี้หมีจะมาแนะนำการ์ตูนทำอาหารที่แตกต่างจากการ์ตูนอาหารทั่ว ๆ ไปที่มักจะประชันกันทั้งเรื่องอาหารและการแข่งขันอย่างถึงพริกถึงขิง แต่สำหรับการ์ตูนเรื่อง เมื่อวานเจ๊ทานอะไร? หรือ きのう何食べた? กลับเป็นการ์ตูนที่แตกต่างจากนั้น แม้ว่าจะมีเรื่องราวของการทำอาหารแทรกอยู่ในทุกตอน มีการอธิบายขั้นตอนการทำอาหารและลงมือทำอย่างละเอียด แต่การ์ตูนเรื่องนี้กลับเป็นการ์ตูนอาหารที่ ช้า เนิบ สวยงาม และเต็มไปด้วยความรู้ของชีวิตLGBTชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องนี้เมื่อวานเจ๊ทานอะไร? เป็นการ์ตูนของสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ ปัจจุบันมีออกมาประมาณ 14 เล่ม (ตั้งแต่เล่ม 12 ออกเป็นแบบ E-Book เท่านั้น) เป็นเรื่องราวของคู่ชีวิตชาวเกย์วัย40++สองคนที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน คาเคย์ ทนายหนุ่มที่มีฝีมือในการทำอาหารและใช้อาหารเป็นเครื่องเยียวยาจิตใจที่อ่อนล้าจากการทำงานในแต่ละวัน และ เคนจิ คนรักของคาเคย์ ช่างตัดผมที่ทั้งตลก อ่อนโยนและแสดงออกว่าเป็นเกย์อย่างเต็มที่แค่เพียงตัวละครหลักสองตัว การ์ตูนเรื่องนี้ก็สร้างให้เห็นภาพที่แตกต่างกับของ 'เกย์ในประเทศญี่ปุ่น' ได้อย่างชัดเจนคาเคย์ ชิโร่ (ผมดำชุดสูท) คือภาพตัวแทนของคนที่มีอาชีพเป็นทนายความซึ่งมีหน้าตาในสังคมและจำเป็นต้องมีภาพลักษณ์ที่เคร่งขรึม เอาการเอางาน ด้วยอาชีพและบุคลิกส่วนตัวที่เป็นคนกังวลต่อสายตาผู้อื่นทำให้เขาไม่สามารถเปิดเผยว่าเป็นเกย์กับคนที่ทำงานได้ คาเคย์จะมีสองโหมดหลัก ๆ คือโหมดทำงานและโหมดแม่บ้านอาหารลดราคา เขาเป็นคนชอบทำอาหารแต่ที่ชอบกว่านั้นคือการได้ซื้อของลดราคาในซูเปอร์ใกล้บ้านและใช้เงินไปกับวัตถุดิบให้น้อยที่สุดแต่ได้อาหารที่สมบูรณ์แบบในแต่ละวัน นอกจากนี้แล้วยังเป็นคนขี้บ่นอีกด้วยยาบูกิ เคนจิ (ผมน้ำตาล เสื้อม่วง) ช่างผมมืออาชีพประจำร้าน Hiro เคนจิเป็นเหมือนขั้วตรงข้ามของคาเคย์ เคนจิเป็นภาพตัวแทนของเกย์ที่เปิดเผยตัวตน เขาใช้ชีวิตอย่างเปิดเผยกับทุกคนว่าเป็นเกย์ เป็นคนร่าเริง ไม่มีพิษมีภัย ขี้อ้อน เอาแต่ใจในบางครั้ง แต่ก็เป็นคนที่แสดงออกว่ารักคาเคย์อย่างชัดเจนเสมอ เคนจินิยามตัวเองว่ามีบุคลิกแบบ 'เกย์จ๋า' คือมีอาการตุ้งติ้ง ติดพูดสำเนียงเกย์ ชอบของหวานร้านน้ำชาและชอบใส่เสื้อผ้าสีฉูดฉาด เขามักอวดว่ามีคาเคย์เป็นคนรักอย่างภาคภูมิใจและมีความสุขไปกับอาหารของแฟนหนุ่มเสมอ อ่อ....แล้วเขายังเป็น 'รุกออกสาว' ด้วยคาเคย์และเคนจิมีโลกที่แตกต่างกันอย่างมากแต่ทั้งสองคนก็เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไม่ต่างกับคู่สามีภรรยาชายหญิงอื่น ๆ การ์ตูนเรื่องนี้....แม้ว่าจะเป็นเรื่องราวของเกย์สองคนแต่หมีกลับมองเห็นสภาพของสังคมญี่ปุ่นและการยอมรับเกย์ของคนในสังคมได้อย่างชัดเจน การถูกยอมรับของคนกลุ่ม LGBT ยังไม่กว้างขวางแม้กระทั่งกับ 'คนในครอบครัว' อย่างแม่และพ่อของคาเคย์ทันทีที่รู้ว่าลูกชายคนเดียวเป็นเกย์ แม่ของคาเคย์เลือกที่จะมุ่งหาทางที่จะเปลี่ยนลูกชายให้กลับมาเป็นผู้ชายอย่างเดิมเช่น การไปเข้าลัทธิต่าง ๆ การซื้ออ่างน้ำมนต์ หรือการสวดภาวนาให้หายจากการเป็นเกย์ จนกระทั่งลูกชายเติบโตขึ้นมีอาชีพการงานมั่นคง แม่ก็ยังเป็นห่วงลูก เธอพยายามที่จะยอมรับความเป็นเกย์แต่ก็ยังมีความรู้สึกแปลก ๆ ติดค้างอยู่ในใจแม่กับพ่อของคาเคย์ก็เป็นเหมือนตัวแทนคนในสังคมญี่ปุ่นที่มองการเป็นเกย์ว่าแตกต่างและแปลก แม้จะพยายามแสดงออกว่ารับได้แต่ภายในใจก็ยังตะขิดตะขวงจนหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงอย่างไรก็ตาม การ์ตูนเรื่องนี้ไม่ได้ขายความดราม่าหรือเศร้าโศกของตัวละครเกย์ แต่ อ.โยชินากะ ฟุมิ เลือกที่จะเล่าอาชีพ การทำงาน การทำอาหาร การใช้ชีวิต และความสัมพันธ์ของผู้ชายสองคนที่อยู่ด้วยกันมากกว่า ถือได้ว่าการ์ตูนเรื่องเมื่อวานเจ๊ทานอะไร เป็นการ์ตูน Slice of life น้ำดีเรื่องหนึ่งเลยทีเดียวหากใครที่อยากเรียนรู้การใช้ชีวิตของคู่เกย์ในญี่ปุ่น ชีวิตประจำวัน วัฒนธรรม การทำอาหารและเรื่องราวการแก้ปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตคู่ การ์ตูนเรื่องนี้อาจจะให้คำตอบและสร้างความเข้าใจใหม่ ๆ ให้กับคุณได้นะคะกระแสความดังของเรื่องนี้ยังไม่จบแค่การ์ตูน แต่ตอนนี้ได้กลายมาเป็น Live Action (ละครที่ทำจากการ์ตูน) ที่แสนฮอตฮิตแล้วด้วย ถ้าฟินกับความอบอุ่นน่ารักในแบบการ์ตูนเสร็จแล้ว อย่าลืมหาแบบซีรีส์มาดูกันนะคะ แล้วคุณจะรักพวกเขาทั้งสองคนขึ้นอีกมากมายรื่นรมย์สวัสดีหมี Credit :ภาพในซีรีส์ : https://twitter.com/tx_nanitabeภาพถ่ายโดยผู้เขียน