อื่นๆ
คอนโดพิลึก

ผมพักอยู่ที่คอนโดมิเนียแห่งหนึ่งแถวลาดพร้าว เข้าไปในซอยประมาณ 2 กิโลเมตร มีรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่หน้าปากซอยทั้งคืน ผมพักอยู่ชั้น 6 มีลิฟต์เป็นพาหนะในการขึ้นลงได้อย่างสบายห้องที่ผมพักอยู่ลูกเขยกับลูกสาวเป็นเจ้าของแต่เขายกให้ผมอยู่คนเดียวตัวเขาไปนอนที่บ้านหลังใหม่ ปกติผมจะอยู่ในห้องเขียนหนังสือส่งขายตามสำนักพิมพ์ต่าง ๆ เม่อประสารทเครียดมาก ๆ สัปดาห์หนึ่งจะออกไปพักผ่อนหย่อนใจสักครั้งเป็นการคลายเครียด ผมอยู่มาได้ 2 อาทิตย์แล้วย่างเข้าอาทิตย์ที่ 3 ก็เกิดเรื่องพิลึกขึ้น คืนวันนั้นผมนั่งเขียนหนังสืออยู่คนเดียวเปิดไฟสว่างไสวสว่างจ้าไปทั้งห้อง ผมได้ยินเสียงเคาะประตูดังค่อนข้างแรงมากผมคิดว่ามีคนมาหาจึงลุกจากโต๊ะทำงานไปเปิดประตูให้ ไม่มีใครเลยสักคนเดียวมองไปทางซ้ายและขวาซึ่งเป็นทางเดินผ่านห้องต่าง ๆ ก็ไม่มีสักคนเดียว ผมปิดประตูห้องไว้ตามเดิมนึกฉงนในใจว่าใครมาเคาะประตูหรือว่าจะมีพวกมือบอน
Advertisement
Advertisement
นั่งลงเขียนหนังสือต่อไป ครู่เดียวมีคนมาเคาะประตูอีก ไปเปิดออกคราวนี้กลายเป็นเพื่อนกันเขามาเยี่ยมเยียนเขาหิ้วเบียร์มาด้วย 3 ขวด เอามาดื่มกันมีกับแกล้มมาด้วยห่อหนึ่ง เป็นปลาหมึกย่าง เราดื่มเบียร์ด้วยกันหาเรื่องมาคุยกันอย่างสนุกสนานเพราะนาน ๆ จะได้เจอสักที มีเสียงเคาะประตูอีกแล้วเพื่อนเป็นคนลุกไปเปิดประตูโผล่หน้าออกไปดูแล้วปิดเมือนเดิมกลับมานั่งที่เก่า “ไม่มีสักคนไม่รู้ว่ามีใครมาเคาะประตูมันจะสัปดนแกล้งกันหรือเปล่า” “อย่าไปใส่ใจเลยมีคนอยู่มากหลายห้องอาจจะมีคนมือบอนเดินผ่านแล้วเคาะเล่นก็ได้” ดอนนั่งคิด เขาคิดในใจว่าไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะตอนที่โผล่หน้าไปดูนั้นทางเดินซึ่งยาวมากไม่มีคนเลยแม้แต่คนเดียวแต่เขาไม่พูดออกมาเท่านั้น ดื่มเบียร์กันยังไม่ทันหมด 3 ขวด เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกเปิดออกไปดูไม่พบใครเช่นเคย “ผีหลอกกระมัง” ดอนเอ่ยขึ้นลอยลอย
Advertisement
Advertisement
ผมเองไม่แน่ใจนะว่าเป็นการกระทำของใครไม่อยากจะคิดว่าเป็นผี ไม่ช้าเบียร์ก็หมดไป 3 ขวด ดอนลงไปซื้อมาอีก 3 ขวด ดื่มกันให้เมา ผมเองไม่เป็นอันเขียนหนังสือดื่มเบียร์ดีกว่า เสียงเคาะเกิดขึ้นอีกแล้วแต่ไม่เกิดที่ประตู แต่ที่พื้นห้องเพราะดังให้ยินชัด ๆ เคาะตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้างไม่เห็นคนเคาะคราวนี้ผมอยู่ไม่เป็นสุขแล้ว “มันยังไงกันแน่พี่” ดอนเอ่ยขึ้นมาหน้าเครียดเครียด “เสียงอะไรแน่ ๆ มันเคาะรอบ ๆ ตัวเราเสียด้วยนะ ผีแน่ ๆ “ “ไม่น่าจะใช่แต่มันจะเกิดขึ้นเพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน” คืนนั้นดอนตกลงใจนอนค้างกับผมเพื่อไม่ให้เกิดความหวาดกลัวแต่ตัวเขาเองกลับกลัวไม่น้อยทีเดียว
Advertisement
Advertisement
เสียงเคาะพื้นห้องเงียบหายไปแล้วดอนเกิดปวดปัสสาวะขึ้นมาจึงเดินไปเข้าห้องน้ำ พอเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปเขาก็ร้องโวยวายด้วยความตกใจวิ่งหน้าซีดกลับมา “เป็นอะไรดอน” “ผีหลอก” เขาตอบเสียงระวัว “ผีที่ไหนกัน” ผมถามอย่างตื่นเต้น “ในห้องน้ำมีผี ผีผู้หญิงไว้ผมยาวรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดดูไม่ได้เลย” เขาบอกเสียงเครือ ผมนี่อึ้งไปชั่วอึดใจอยากจะพิสูจน์ความจริงจึงค่อย ๆ ลุกไปเปิดห้องน้ำดู มีแต่ความว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย เบียร์หมดไป 6 ขวดแล้ว ผมจึงออกปากให้นอนเสียไม่ต้องคิดอะไรมาก ตอนล้มตัวลงนอนแล้วหลับไปเพราะฤทธิ์เบียร์ผมเองกลับนอนไม่หลับคิดถึงเรื่องที่ดอนไปเจอผู้หญิงในห้องน้ำด้วยความอยากรู้อยากเห็นทำให้ลุกขึ้นไปดูที่ห้องน้ำอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ผมเป็นฝ่ายตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นบ้าง ผมเจอเข้าแล้วเต็มเปามีผู้หญิงผมเผ้ารุงรังหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวจนยากที่จะอธิบายฟันยื่นออกมานอกจากหน้าตาดำปี๋ดวงตาลุกโพลงจมูบแบนน่าเกลียดอะไรอย่างนี้หาความเสน่หาไม่มีเลย
ผมเป็นฝ่ายร้องโวยวายบ้างวิ่งกลับมายังห้องนอนทำให้ดอนตกอกตกใจ พรวดพราดลุกขึ้น “ร้องทำไมเป็นอะไร” ดอนถามเสียงดัง “พี่ไปไหนมา” “ไปห้องน้ำมา” “เจอเข้าแล้วล่วละสิ” “มานอนเถอะแล้วไม่ต้องลุกไปไหนปวดท้องเยี่ยวก็ไม่ต้องไปเยี่ยวมันหล่ะปล่อยมันที่ข้างเตียงนี้เลย” ไม่ช้าทั้งสองคนคือผมกับดอนก็นอนหลับไปด้วยความเมามากกว่า ตื่นเช้าพร้อมกันทั้งสองคนดอนก็จะกลับบ้านก่อนกลับเขายังแสดงความหวังดีออกมา “พี่หาที่อยู่ใหม่เหอะขืนอยู่ที่นี่ต่อไปอายุจะสั้นผีดุเหลือเกินอย่างนี้ต้องเรียกผีคอนโดนะพี่นะ” “ย้ายไปยังไงล่ะที่นี่ของลูกเขยกับลูกสาวอยู่ฟรีไม่ต้องเสียค่าเช่า” ผมบอกเสียงแห้ง ๆ “กลัวเหมือนกันแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรต้องทนอยู่ต่อไป” เพื่อนส่ายหัวแล้วลากลับไปผมพยายามลืมเรืองต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ลงมือเขียนหนังสือต่อไปหิวก็ลงไปรับประทานอาหารข้างล่างเพราะไม่มีครอบครัวต้องซื้อเขากินทุกมื้อ ทำงานทั้งวันจนเกือบจะลืมเรื่องเมื่อคืนนี้ พอดีค่ำลงอีกแล้วอดนึกหวั่นหวาดไม่ได้ว่าคืนนี้จะเจออะไรอีก อาบน้ำ ทานอาหารเย็นแล้วอาหารก็ง่ายไข่เจียว กินจนหน้าจะเป็นไข่เจียวแล้ว
ขึ้นมาทำงานตามเดิมมองดูนาฬิกาที่ข้างฝาบอกเวลา 5 ทุ่มแล้ว เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกินจะไม่แก่ยังไงได้คนเรานี้อยู่รอวันตายเท่านั้นเองต้องตายทุกคน มีเสียงเคาะประตูอีกแล้วผมใจคอไม่ดีเลยไม่รู้ว่าเปิดประตูแล้วจะพบอะไร แข็งใจเปิดออกไปแล้วต้อง... หญิงสาวในชุดดำเป็นมันยืนยิ้มอยู่ตรงหน้า หน้าตาสวยงามเหลือเกินรูปร่างก็ดีไปทุกส่วนผิวขาวผ่องงามจริง ๆ “ฉันชื่อเรียมมาจากอยุธยา” เธอถามหาลูกสาวผม ผมชี้แจงไปว่าลูกสาวผมไม่ได้พักที่นี่ตอนนี้ดึกมากแล้วติดต่อกันไม่ได้เพราะลูกเขยลูกสาวปิดโทรศัพท์เสียแล้ว “ตายจริงทำยังไงดิฉันกลับไม่ได้ค่ะดึกมากแล้วจะไปนอนโรงแรมก็ไม่กล้ากลัวมากขออาศัยนอนที่นี่ก็แล้วกันนะคะพรุ่งนี้จะได้ออกไปแต่เช้า” ผมจะปฏิเสธได้ยังไงเธอเป็นเพื่อนลูกสาวจำต้องสละเตียงให้เธอนอนตัวผมเองลงมานอนกับพื้น เธอไม่มีเสื้อผ้าติดตัวมาผัดเลยนอนทั้งชุดที่สวมใส่มาอย่างนั้น ผมเลยต้องหยุดเขียนหนังสือล้มตัวลงนอน ไม่ช้าผมก็หลับไปมารู้ตัวอีกทีมีคนมานอนเบียดข้าง ๆ กลายเป็นเธอ ยังไงกันแล้วเตียงมีให้นอนกลับไม่นอนมานอนข้างล่างกับผม ไม่เท่านั้นเธอยังพลิกกายมากอดมาจูบผมด้วยผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนจะไปทนไหวได้ยังไงเลยตอบสนองไปบ้าง พอถอดเสื้อผ้าออกผมแทบสำลักผิวขาวผุดผ่องงเงามจริง ๆ ผมกอดจูบเธอเธอก็กอดจูบผม ได้เป็นผัวเมียกันในคืนวันนั้นเองแล้วผมก็หลับไป ตื่นขึ้นมาไม่มีเธอแล้วไม่รู้ว่าหายไปไหนไปดูในห้องน้ำก็ไม่มี ไม่อยากคิดให้ปวดสมองเลยตามเลยเธอจะไปไหนก็ช่างเถอะ ตอนสายลูกสาวของผมมาเยี่ยมผมจึงบอกลูกสาวว่ามีเพื่อนมาหาชื่อเรียม ลูกสาวบอกไม่รู้จักไม่เคยมีเพื่อนที่ชื่อเรียมเล่นเอาผมงงเปนไก่ตาแตกไปเลย ผมคงโดนผีหลอกเข้าให้แล้ว
ความคิดเห็น
