“ความรู้” (Knowledge) เป็นเครื่องมือที่สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เช่น นำมาใช้เพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานของตัวเอง , นำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาให้กับผู้อื่น , นำมาใช้เพื่อสร้างนวัตกรรมให้สังคมดีขึ้น เป็นต้นในสมัยก่อน เมื่อเราเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง อาจจะใช้ความรู้นั้นทำมาหากินไปได้เป็น 10 ปี แต่ในยุค Disruption ความรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นแทบทุกวัน ทำให้ความรู้เดิมที่มีอยู่บางเรื่องแทบจะใช้ประโยชน์ไม่ได้เลย คนในยุคปัจจุบันจึงต้องแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ด้วยการเรียน (Learn) และต้องทำใจยอมรับที่จะต้องทิ้งความรู้ที่ตัวเองมี (Unlearn) และเรียนรู้ใหม่ (Relearn) การเรียนรู้มีหลายรูปแบบ ต่อไปนี้คือ 5 คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ (Learning) ที่จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา 1. Distance Learning (การเรียนรู้ทางไกล) ในโลกปัจจุบัน เราไม่จำเป็นต้องเข้าห้องเรียนเพียงอย่างเดียวถึงจะได้ความรู้ เราสามารถหาความรู้ได้จากทุกๆ ที่ การเรียนรู้ทางไกล จะช่วยนำความรู้มาให้เราถึงที่ ในประเทศไทย การเรียนรู้ทางไกลในระดับอุดมศึกษาที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีคือการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อเราลงทะเบียนเรียนแล้ว มหาวิทยาลัยจะส่งเอกสารการเรียนไปให้ที่บ้านและเมื่อถึงเวลาสอบก็จะสอบที่โรงเรียนใกล้บ้าน ในระดับมัธยมศึกษาเช่น การเรียนผ่านสื่อการสอนทางไกลของมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ที่มีสื่อการสอนสำหรับการเรียนในทุกระดับชั้น 2. e-Learning (การเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) เมื่อเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วนของสังคม การเรียนรู้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ได้นำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ ในยุคแรกๆ จะเป็นลักษณะสื่อการสอนที่จัดเก็บในรูปแบบต่างๆ เช่นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สื่อการสอนในแผ่น CD หรือการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน CAI (Computer-Assisted Insruction) ต่อมาเมื่ออินเตอร์เน็ตกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นไม่ต่างจากไฟฟ้า น้ำประปา อินเตอร์เน็ตจึงกลายเป็นเครื่องมือในการจัดการการเรียนการสอนที่เรียกว่า MOOC (Massive Open Online Courseware) Website การเรียนการสอนผ่านอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยที่น่าสนใจเช่น https://thaimooc.org/ , https://mooc.chula.ac.th/, https://mooc.mahidol.ac.th/ ในต่างประเทศเช่น https://www.coursera.org/ https://www.udacity.com/3. Active Learning (การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม) การจัดการเรียนการสอนในรูปแบบที่ให้ผู้เรียนนั่งฟังบรรยายเพียงอย่างเดียว อาจจะทำให้ผู้เรียนได้รับความรู้ไม่ครบถ้วน ดังนั้นการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning จะทำให้ผู้เรียนได้รับความรู้ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นและนำประยุกต์กับงานอื่นๆ ได้ ตัวอย่างเช่น การระดมสมอง (Brainstorming) , การทำโครงงาน (Project) การแลกเปลี่ยนความคิด (Sharing) การตั้งคำถาม สำหรับรูปการเรียนแบบทางไกลหรือ e-Learning ก็สามารถจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมได้ เช่น ในช่วง Live สดให้ผู้เรียนตอบถามหรือ Share Screen หน้าจอตัวเองเพื่ออธิบายให้เพื่อนฟัง หรือการส่งการบ้านผ่านทาง e-mail การที่ทำให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมกับการเรียนจะทำให้เข้าใจกับเนื้อหาการเรียนได้ดียิ่งขึ้น4. Micro Learning เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่ได้รับความนิยมมากรูปแบบหนึ่งในปัจจุบัน การเรียนแบบนี้ จะใช้เวลาน้อยแต่จะให้ความรู้แบบตรงประเด็นและเข้าใจง่าย หรือเรียกว่า “เรียนน้อยได้มาก” ยกตัวอย่างเช่น Clip สอนทำอาหารใน Youtube , Clip สรุปข่าวสั้นใน Facebook Fanpage ของสำนักข่าวต่างๆ ซึ่งทำให้ผู้ชมได้รับข้อมูลข่าวสารครบถ้านตามที่ต้องการโดยใช้เวลาที่ไม่นานนัก5. Life Long Learning (การเรียนรู้ตลอดชีวิต) ในโลกที่เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI , หุ่นยนต์มีการพัฒนาให้ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้นทุกวัน มนุษย์เดินดินคนธรรมดาแบบเราจะต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เราไม่สามารถที่จะหยุดเรียนรู้ได้แม้ว่าจะเหนื่อยมากแค่ไหนก็หยุดเรียนรู้ไม่ได้ เพราะถ้าเราหยุดไม่ใช่แค่เราไม่มีความรู้ แต่จะเหมือนกับเราเดินถอยหลังในขณะที่คนอื่นเดินหน้า การเรียนรู้ตลอดชีวิตจึงเป็นสิ่งที่เราต้องทำในการใช้ชีวิตในโลกปัจจุบัน คำถาม “เราจะอยู่รอดในโลกยุคนี้หรือไม่?” คำตอบคือคำถามกลับ “วันนี้ คุณเก่งกว่าเมื่อวานหรือยัง?” การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทุกวัน พัฒนาความรู้เดิมของคุณให้เก่งขึ้น (Upskill) เรียนรู้เรื่องใหม่ที่ไม่เคยทำได้ (Reskill) และเรียนรู้ตลอดเวลา จะทำให้คุณเป็นคนที่มีคุณค่าและสามารถอยู่รอดในโลกยุคนี้ได้อย่างแน่นอน ขอขอบคุณภาพประกอบจาก www.canva.com www.pixabay.com www.pxhere.com www.flickr.comภาพปก / ภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 / ภาพประกอบที่ 5