สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมร้าน Starbucks Reserve Roastery สาขา Nakameguro ในกรุงโตเกียวที่เปิดให้บริการไปเมื่อเดือนมีนาคม 2019 เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว สาขานี้เป็น Roastery สาขาที่ 5 ของโลก การเดินทางมาที่นี่ก็ให้นั่งรถไฟหรือรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Nakameguro ทางออกที่ 1 แล้วก็เดินเลาะริมแม่น้ำมาเรื่อย ๆ ประมาณสิบนาทีค่ะ สาขานี้เปิดให้บริการตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าถึงห้าทุ่ม ถ้าไม่อยากรอนานให้ไปแต่เช้ามาก ๆ ค่ะ และก่อนที่จะเข้าไปใช้บริการได้เราต้องไปลงทะเบียนเพื่อจองคิวก่อนค่ะ สำนักงานสำหรับลงทะเบียนจะอยู่ด้านหลังของร้าน ถ้าเราเดินมาจากสถานีรถไฟก็จะถึงที่สำหรับลงทะเบียนก่อนค่ะ การลงทะเบียนก็แค่ใช้อีเมล์แอดเดรส หลังจากนั้นเราจะได้บัตรคิวมาเพื่อจะไปแสดงให้กับพนักงานที่ทางเข้าร้านเมื่อถึงคิวเรา จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับวันและเวลาที่เราไปใช้บริการด้วยค่ะ เราต้องรอประมาณสองชั่วโมงโดยเราสามารถแสกน QR code บนบัตรคิวที่เราได้มาเพื่อดูได้ว่าตอนนี้ถึงลำดับที่เท่าไรแล้ว เราก็ไปเดินเล่นที่อื่นก่อนเพื่อรอเวลา ใกล้ ๆ มีร้านดองกิ เราก็ไปเดินดูของฝากไปพลาง ๆ แล้วก็ไปเดินเล่นริมน้ำ, ดูร้านค้าแถว ๆ ริมคลอง พอใกล้ถึงคิวเราก็กลับมาที่ร้านค่ะ เข้าไปด้านในแล้วจะไม่จำกัดเวลาว่าเราจะนั่งอยู่นานแค่ไหน เราก็นั่งเล่นไปเรื่อย ๆ ได้จนกว่าเราจะเบื่อ สตาร์บัคส์สาขานี้จะมี 4 ชั้นด้วยกัน พื้นที่ทั้งหมด 2,966 ตารางเมตร ดูด้านหน้าอาคารจะเหมือนกับโบสถ์คริสต์ ตรงกลางอาคารด้านในจะโปร่งทะลุกันทั้งสี่ชั้น และมีเสากลมสีทองแดงขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางตกแต่งด้วยดอกซากุระ สตาร์บัคส์แห่งนี้ออกเเบบโดย สถาปนิกชาวญี่ปุ่นชื่อว่า เคนโกะ คุมะ (Kengo Kuma) เนื่องจากที่นี่เป็นโรงคั่วของสตาร์บัคส์ด้วย เราเดินเข้ามาในร้านก็จะได้กลิ่นกาแฟหอมมาก ชั้นที่ 1 เข้ามาแล้วส่วนแรกที่เจอจะเป็นบริเวณที่จัดแสดงสินค้าต่าง ๆ ของสตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ และถัดไปก็จะเป็นเคาน์เตอร์บริการ สำหรับรับออร์เดอร์เครื่องดื่ม และเบเกอรี่ค่ะ ระหว่างเข้าแถวรอรับบริการเราก็ดูเมนูไปพลาง ๆ ก่อน แต่ที่ยากกว่าสั่งเครื่องดื่มก็คือหาที่นั่งนี่แหละค่ะ เราก็ต้องรอให้มีที่ว่างโดยการไปเล็ง ๆ ดูไว้แล้วก็ไปยืนรอ เพราะชั้นหนึ่งจะมีที่นั่งไม่มากโดยเฉพาะริมกระจก ซึ่งวิวจะสวยมากและก็จะมีที่นั่งด้านหลังเคาน์เตอร์ บริเวณด้านในของชั้นหนึ่งก่อนขึ้นบันไดจะเป็นส่วนที่ขายอาหารพวกพิซซ่า ของกินเล่น ก็จะมีที่นั่งให้ทานด้วยบริเวณนั้น เราสามารถชมการคั่วกาแฟไปด้วยนั่งจิบกาแฟไปด้วย กาแฟที่คั่วจากสาขานี้จะถูกส่งไปให้สาขาอื่นของสตาร์บัคส์ทั่วประเทศญี่ปุ่นด้วยค่ะ บันไดทางขึ้นชั้นสองจะตกแต่งด้วยแก้วกาแฟสีขาว สำหรับคนที่ไม่ทานกาแฟ ก็มาที่ชั้นสองได้เลยค่ะ ซึ่งจะเป็นชั้นที่ขายชาชนิดต่าง ๆ เรียกว่า Teavana จะมีชาให้ทดลองดมและชิมดู ส่วนเคาน์เตอร์บริการจะอยู่ริมกระจก และจะมีที่นั่งชมซากุระด้วย ส่วนชั้นสามจะเป็นบาร์ Arriviamo จำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอลล์ และเครื่องดื่มพวกค็อกเทลผสมชาและกาแฟ บันไดทางขึ้นจะแต่งด้วยฉลากของกล่องชา ชั้นบนสุดคือชั้นสี่ จริง ๆ แล้วจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดงานหรือสัมมนา หรือลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ แต่เราก็สามารถขึ้นไปนั่งเล่นไปใช้บริการได้ หากใครมาที่นี่ช่วงที่ซากุระบานก็สามารถไปนั่งชมซากุระที่ระเบียงชั้นสี่ได้ ซึ่งเป็นระเบียงขนาดใหญ่มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งที่บนระเบียงให้ชมซากุระที่อยู่ริมแม่น้ำเลยค่ะ เราไปใช้บริการช่วงเดือนสิงหาคม หลังจากเปิดบริการมาได้สี่ห้าเดือนแล้วคนก็ยังเยอะอยู่ ราคาเครื่องขนมและดื่มของสาขานี้ไม่ได้ต่างจากสาขาอื่นมากนักค่ะ หากได้มานั่งจิบกาแฟชมซากุระคงจะฟินน่าดูค่ะ เราจะกลับไปใช้บริการที่นี่อีกแน่นอนค่ะถ้าเราได้ไปโตเกียวช่วงซากุระบาน @ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน #เที่ยวต่างประเทศ #เที่ยวญี่ปุ่น