เที่ยวทิพย์ - นำชมพระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอของญี่ปุ่น (Take a online tour to see FUDŌ MYŌ-Ō of Japan) โดย นายสัณหวัช รามพูล เตรียมอุดมศึกษา รุ่นที่ ๗๙ สาขาวิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตวังท่าพระ ภาพที่ ๑ พระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต ศิลปะญี่ปุ่น สมัยคามาคุระ (Kamakura period) กำหนดอายุได้ราวต้นคริสต์ศตวรรษที่ ๑๓ (ราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๘ - ปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๘) ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิตัน (Metropolitan Museum of Art) นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มาของภาพ : https://en.wikipedia.org/ พระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต เป็นภาคดุร้ายของพระพุทธเจ้ามหาไวโรจนะ / ไดนิชิ เนียวไร - Dainichi Nyorai -木造大日如来坐像 ในภาษาญี่ปุ่น เพื่อปราบปรามความชั่วร้ายและมิจฉาทิฐิกับทิฐิมานะของพวกนอกรีตให้ยอมรับคำสอนของพระพุทธเจ้ามหาไวโรจนะ (๑) โดยพระพุทธเจ้ามหาไวโรจนะ / ไดนิชิ เนียวไร - Dainichi Nyorai -木造大日如来坐像 ในภาษาญี่ปุ่น คือ พระพุทธเจ้าผู้เป็นศูนย์กลางของจักรวาลและทรงเป็นประธานของพระพุทธเจ้าทั้งปวง อีกทั้งเป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่งทั้งปวง (๒) จากที่กล่าวมาข้างต้น ความเชื่อเรื่องพระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต และพระพุทธเจ้ามหาไวโรจนะ / ไดนิชิ เนียวไร - Dainichi Nyorai -木造大日如来坐像 ในภาษาญี่ปุ่นนั้น มาจากความเชื่อในพระพุทธศาสนานิกายชินงอน (Shingon) ที่ีถือกำเนิดขึ้นในดินแดนหมู่เกาะญี่ปุ่น สมัยเฮอัน (Heian period) ราวปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๘ - ปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๒ (ราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๔ - ต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๘) (๓) ซึ่งดัดแปลงมาจากนิกายมันตรยานอันเป็นสายหนึ่งของพระพุทธศาสนาฝ่ายวัชรยานตันตระ โดยนิกายชินงอน (Shingon) นับถือพระพุทธเจ้ามหาไวโรจนะ / ไดนิชิ เนียวไร - Dainichi Nyorai -木造大日如来坐像 ในภาษาญี่ปุ่นนั้นเป็นพระพุทธเจ้าสูงสุดที่สามารถแบ่งภาคดุร้ายมาเป็นพระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤตดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนั่นเอง (๔) ภาพที่ ๒ พระพุทธเจ้ามหาไวโรจนะ / ไดนิชิ เนียวไร - Dainichi Nyorai -木造大日如来坐像 ในภาษาญี่ปุ่น ศิลปะญี่ปุ่น สมัยเฮอันตอนปลาย (Late Heian period) กำหนดอายุได้ราวคริสต์ศตวรรษที่ ๑๒ (ราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๗ - ต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๘) ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิตัน (Metropolitan Museum of Art) นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มาของภาพ : https://www.metmuseum.org/ พระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต ยังเป็นหัวหน้าของกลุ่มวิทยาราช ๕ องค์ (FIVE GREAT KINGS / FIVE GREAT MYŌ-Ō / Godai Myō-ō /五大明王) เรียกว่า "ปัญจมหาวิทยราช" ซึ่งเป็นกลุ่มเทพแสงสว่างแห่งปัญญา (Grouping Kings of Mystical Knowledge, Grouping Kings of Mantra, Grouping Kings of Wisdom, Grouping Kings of Knowledge , Grouping Kings of Light) (๕) ได้แก่ พระโพธิสัตว์วัชรยักษวิทยราช (Vajrayaksha - Vidyārāja) ประจำทิศทิศเหนือ (วัชรยักษ์) พระโพธิสัตว์ยมานตกวิทยราช (Yamantaka - Vidyārāja) ประจำทิศตะวันตก (ยมานตกะ) พระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja) ประจำทิศเบื้องกลางหรือศูนย์กลาง (อจลนาถ) พระโพธิสัตว์ไตรโลกยวิชยวิทยราช (Trilokavijaya - Vidyārāja) ประจำทิศตะวันออก (ไตรโลกยวิชัย) และพระโพธิสัตว์กุณฑลีวิทยราช (Kundali - Vidyārāja) ประจำทิศใต้ (กุณฑลี) (๖) พระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต มีต้นกำเนิดมาจากแผ่นดินอินเดีย เดิมทีคือ พระศิวะ (เทพสูงสุดในศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู ลัทธิไศวนิกาย) ซึ่งถูกผนวกเข้ามาในพระพุทธศาสนาในฐานะของสมณทูตผู้นำลัทธิตันตระ (ลัทธิที่มีอิทธิพลของไศวนิกาย) เข้ามาเผยแพร่ในดินแดนหมู่เกาะญี่ปุ่น กล่าวได้ว่า พระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) เป็นสมณทูตของพระพุทธเจ้ามหาไวโรจนะ ต่อมาได้กลายเป็นภาคดุร้ายของพระพุทธเจ้ามหาไวโรจนะ (๗) ดังนั้น เมื่อมาอยู่ในดินแดนหมู่เกาะญี่ปุ่น พระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) จีงได้ชื่อว่า “พระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王)” โดยคำว่า “ฟูโด / Fudō” ในภาษาญี่ปุ่น หรือ "อจละ / Achala" หมายความว่า “ไม่เปลี่ยนแปลง / ไม่เคลื่อนไหว” กล่าวคือ ศรัทธาของพระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง (๘) ภาพที่ ๓ พระศิวะ (ด้านซ้ายของผู้อ่าน) และพระนางอุมาหรือปารวตี ผู้เป็นพระชายา (ด้านขวาของผู้อ่าน) ในปางอุมามเหศวร เรียกว่า อุมามเหศวรมูรติ (Uma - Mahesvara murti) หรืออุมาสหิตมูรติ (Uma - Sahita murti) ศิลปะอินเดีย กำหนดอายุได้ราวคริสต์ศตวรรษที่ ๑๐ - ๑๒ (ราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๕ - กลางพุทธศตวรรษที่ ๑๘) ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ปัฏนะ (Patna Museum) รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ที่มาของภาพ : http://www.southasian-archaeology.com/ พระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ทรงมีพระพักตร์ดุร้าย – โกรธเคือง – ตาถมึงทึงจ้องเขม็ง เพื่อสยบมารนอกศาสนาให้ยอมรับคำสอนของพระพุทธศาสนา พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ “คุริการะ (Kurikara)” หรือดาบปราบมาร เพื่อตัดผ่านความชั่วร้ายและอวิชชา (ความไม่รู้) (๙) บางครั้งมักปรากฏมังกรพันอยู่โดยรอบพระขรรค์ (๑๐) ซึ่งอาจมีที่มาจากงูที่พันรอบตรีศูลของพระศิวะ แต่เมื่อความเชื่อนี้เข้ามาเผยแพร่ในหมู่เกาะญี่ปุ่น งูที่พันรอบตรีศูลของพระศิวะก็ได้เปลี่ยนเป็นมังกร เพื่อให้สอดคล้องกับความเชื่อพื้นถิ่นในหมู่เกาะญี่ปุ่น นอกจากนี้พระขรรค์ที่มีลักษณะเป็นสามง่าม ซึ่งอาจมีที่มาจากตรีศูลของพระศิวะที่มีสามง่ามเช่นเดียวกัน ส่วนพระหัตถ์ซ้ายถือบ่วงเพื่อจับและมัดเหล่าคนชั่ว – มาร – ปีศาจนอกศาสนา (๑๑) รวมทั้งมักมีตาที่สามกลางพระนลาฏ (หน้าผาก) (๑๒) ซึ่งอาจมีที่มาจากตาที่สามกลางพระนลาฏ (หน้าผาก) ของพระศิวะด้วยเช่นกัน ภาพที่ ๔ ภาพจิตรกรรมของพระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต ผิวสีแดง เรียกว่า อากะ - ฟูโด (赤不動 / Aka-Fudō) ศิลปะญี่ปุ่น สมัยเฮอัน (Heian period) กำหนดอายุได้ราวปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๘ - ปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๒ (ราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๔ - ต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๘) โดยอยู่ที่วัดเมียวโออิน (Myōō-in temple - 明王院 - Myōō-in ) บนภูเขาโคยะ (Mount Kōya - 高野山 - Kōya-san) ในประเทศญี่ปุ่น ที่มาของภาพ : https://en.wikipedia.org/ ถัดไป ผู้เขียนจะมานำชมเพื่อพาผู้อ่านไปเที่ยวทิพย์ดูความงาม ความอลังการ อารมณ์ที่แสดงออกมาอย่างมีพลังและอำนาจของพระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต กันนะครับ ถ้าพร้อมแล้ว พวกเราไปชมกันได้เลยครับ ภาพที่ ๕ พระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต ศิลปะญี่ปุ่น สมัยเฮอัน (Heian period) กำหนดอายุได้ราวปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๘ - ปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๒ (ราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๔ - ต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๘) ที่มาของภาพ : https://artsandculture.google.com/ ภาพที่ ๖ ภาพจิตรกรรมของพระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต ผิวสีเหลือง เรียกว่า คิ-ฟูโด (黄不動 / Ki-Fudō) ศิลปะญี่ปุ่น สมัยเฮอันตอนปลาย (Late Heian period) กำหนดอายุได้ราวคริสต์ศตวรรษที่ ๑๒ (ราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๗ - ต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๘) โดยอยู่ที่วัดมันชูอิน (Manshu-in Temple - 曼殊院 - Manshu-in) ในประเทศญี่ปุ่น ที่มาของภาพ : https://en.wikipedia.org/ ภาพที่ ๗ พระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต ศิลปะญี่ปุ่น สมัยคามาคุระ (Kamakura period) กำหนดอายุได้ราวปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๒ - ต้นคริสต์ศตวรรษที่ ๑๔ (ราวต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๘ - ปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๙) ที่มาของภาพ : https://www.buddhistdoor.net/ ภาพที่ ๘ ภาพจิตรกรรมของพระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต ศิลปะญี่ปุ่น สมัยคามาคุระ (Kamakura period) กำหนดอายุได้ราวปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๒ - ต้นคริสต์ศตวรรษที่ ๑๔ (ราวต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๘ - ปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๙) ปัจจุบันอยู่ที่วัดไดโกะจิ (Daigo-ji Temple - 醍醐寺 - Daigo-ji) กรุงเกียวโต (อดีตราชธานีของญี่ปุ่น) ประเทศญี่ปุ่น ที่มาของภาพ : https://en.wikipedia.org/ ภาพที่ ๙ พระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต สมัยเฮอันตอนปลาย (Late Heian period) กำหนดอายุได้ราวคริสต์ศตวรรษที่ ๑๒ (ราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๗ - ต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๘) ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิตัน (Metropolitan Museum of Art) นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มาของภาพ : https://www.metmuseum.org/ ภาพที่ ๑๐ ภาพจิตรกรรมของพระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต ผิวสีน้ำเงิน เรียกว่า 青不動 / Ao-Fudō ศิลปะญี่ปุ่น สมัยเฮอัน (Heian period) กำหนดอายุได้ราวคริสต์ศตวรรษที่ ๑๑ (ราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - กลางพุทธศตวรรษที่ ๑๗) ปัจจุบันอยู่ที่วัดโชเร็น-อิน (Shōren-in Temple - 青蓮院 - Shōren-in) กรุงเกียวโต (อดีตราชธานีของญี่ปุ่น) ประเทศญี่ปุ่น ที่มาของภาพ : https://en.wikipedia.org/ ภาพที่ ๑๑ ภาพจิตรกรรมของมังกรพันอยู่โดยรอบพระขรรค์ “คุริการะ (Kurikara)” หรือดาบปราบมาร ซึ่งอาจมีที่มาจากงูที่พันรอบตรีศูลของพระศิวะ สมัยคามาคุระ (Kamakura period) กำหนดอายุได้ราวปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๒ - ต้นคริสต์ศตวรรษที่ ๑๔ (ราวต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๘ - ปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๙) ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินาระ (Nara National Museum) จังหวัดนาระ ประเทศญี่ปุ่น ที่มาของภาพ : https://en.wikipedia.org/ ภาพที่ ๑๒ พระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต ศิลปะญี่ปุ่น สมัยเฮอัน (Heian period) กำหนดอายุได้ราวคริสต์ศตวรรษที่ ๑๑ (ราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - กลางพุทธศตวรรษที่ ๑๗) ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว (Tokyo National Museum) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่มาของภาพ : https://desimonewayland.tumblr.com/ จากภาพที่ท่านผู้อ่านเห็นมาทั้งหมด ผู้อ่านอาจสังเกตเห็นเปลวเพลิงอันร้อนแรงและแรงกล้าที่เป็นรัศมีล้อมรอบพระวรกายของพระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต ซึ่งผู้เขียนมีความเห็นว่า เปลวเพลิงอันร้อนแรงและแรงกล้าเป็นสัญลักษณ์ของความโกรธ พลังอำนาจ การปราบมารซึ่งเป็นบุคลาธิษฐานของกิเลส มิจฉาทิฐิกับทิฐิมานะของพวกนอกศาสนาที่ไม่มีความยอมรับนับถือพระพุทธศาสนานิกายวัชรยานตันตระ รวมทั้งการข่มเหงและการทำลายล้างซึ่งกิเลสอันเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุสู่พุทธภาวะของพุทธศาสนิกชนที่ฝึกฝนปฏิบัติตนอยู่ด้วย นอกจากนี้จากภาพที่ท่านผู้อ่านเห็นมาทั้งหมด เราสามารถสังเกตเห็นภาพเด็กผู้ชาย ๒ คน ซึ่งทั้งสองคนเป็นบริวารของพระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต โดยเด็กผู้ชายคนหนึ่งมีนามว่า "คงการา โดจิ / Kongara Dōji " ในภาษาญี่ป่น (๑๓) หรือ "กิมพร / Kimbara" ในภาษาสันสกฤต (๑๔) โดยแสดงมืออยู่ในท่าครุ่นคิด (ประนมมือ) บุคลิกประกอบไปด้วยความสุขุม เมตตาและใจดี พร้อมกับผิวของร่างกายเป็นสีอ่อน (สีขาวบ้าง - สีน้ำตาลบ้าง) (๑๕) ส่วนเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งมีนามว่า "เซตากะ โดจิ / Seitaka Dōji" (๑๖) หรือ "เชตกะ / Chetaka" ในภาษาสันสกฤต (๑๗) โดยมีหน้าตาบูดบึ้ง - โกรธเกรี้ยว - ตาเบิกกว้างถมึงทึง เหมือนยักษ์ - อสูร - ปีศาจ และผิวของร่างกายเป็นสีแดงเข้ม (๑๘) ผู้เขียนเห็นว่า สาเหตุที่บริวารทั้งสองคนของพระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต เป็นเด็กผู้ชายที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในด้านสีผิว รูปร่างหน้าตา และบุคลิกภาพ เนื่องจากทั้งสองคนเป็นบริวารที่อาจเป็นสัญลักษณ์แทนพลังและอานุภาพของพระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต ที่มีทั้งพลังและอานุภาพแห่งความเมตตา - ใจดี พร้อมกับหน้าตาอันสุขุมและผิวของร่างกายเป็นสีอ่อน (สีขาวบ้าง - สีน้ำตาลบ้าง) ในการโปรดเหล่าสัตว์โลก - มารหรือปีศาจนอกศาสนาที่มีระดับสติปัญญาและจิตใจอันสามารถเข้าถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนานิกายวัชรยานตันตระได้ง่าย ซึ่งแสดงออกมาในรูปบุคคลาธิษฐานของ "คงการา โดจิ / Kongara Dōji " ในภาษาญี่ป่น หรือ "กิมพร / Kimbara" ในภาษาสันสกฤต ส่วนพลังและอานุภาพแห่งความโกรธเกรี้ยว - ดุร้าย - ข่มขู่ และหน้าตาที่บูดบึ้ง - โกรธเกรี้ยว - ตาเบิกกว้างถมึงทึง เหมือนยักษ์ - อสูร - ปีศาจ เพื่อโปรดและสยบพยศของเหล่าสัตว์โลก - มารหรือปีศาจนอกศาสนาที่มีระดับสติปัญญาและจิตใจอันสามารถเข้าถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนานิกายวัชรยานตันตระได้ยาก เพราะจิตใจเต็มไปด้วยมิจฉาทิฐิ ทิฐิมานะ และสรรพกิเลสทั้งปวง ซึ่งแสดงออกมาในรูปบุคคลาธิษฐานของ "เซตากะ โดจิ / Seitaka Dōji" หรือ "เชตกะ / Chetaka" ในภาษาสันสกฤต จากที่กล่าวมาข้างต้น กล่าวอย่างง่าย ๆ ว่า "คงการา โดจิ / Kongara Dōji " ในภาษาญี่ป่น หรือ "กิมพร / Kimbara" ในภาษาสันสกฤต และ"เซตากะ โดจิ / Seitaka Dōji" หรือ "เชตกะ / Chetaka" ในภาษาสันสกฤต เป็นผู้ช่วยของพระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอ (FUDŌ MYŌ-Ō – 不動明王) ในภาษาญี่ปุ่น หรือพระโพธิสัตว์อจลนาถวิทยราช (Acalanatha - Vidyārāja / Achala - Vidyārāja) ในภาษาสันสกฤต ในการช่วยให้เหล่าสรรพสัตว์ - มาร - ปีศาจ บรรลุสู่พุทธธรรมอันบริสุทธ์และสุขนิรันดร์ที่แท้จริงนั่นเอง ครั้งนี้ ผู้เขียนขอจบการนำชม - เที่ยวทิพย์พระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอของญี่ปุ่น (Take a online tour to see FUDŌ MYŌ-Ō of Japan) ไว้เพียงเท่านี้ โปรดติดตามตอนต่อไปว่าผู้เขียนจะมานำชม เพื่อพาท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกคนไปชมความงามอันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและอำนาจของพระโพธิสัตว์องค์ใดของญี่ปุ่นกัน ครั้งนี้ขอลาไปก่อนครับ ขอบพระคุณผู้อ่านหรือผู้ชมทุกท่านที่ติดตามและอ่านบทความของผมทุกคนมาก ๆ ครับ ขอบพระคุณครับ :) See you again (: เชิงอรรถอ้างอิง (๑) ผาสุข อินทราวุธ, พุทธปฏิมาฝ่ายมหายาน (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์อักษรสมัย, ๒๕๔๓), ๒๑๔. (๒) เรื่องเดียวกัน, ๒๑๒ - ๒๑๓. (๓) เรื่องเดียวกัน, ๒๐๙. (๔) เรื่องเดียวกัน, ๒๑๒ - ๒๑๓. (๕) เรื่องเดียวกัน, ๒๑๔. (๖) อาราม มหากรุณาพุทธาลัย 大悲佛殿 โรงเจวัดสว่างอารมณ์, พระอจลนาถวิทยราชา, เข้าถึงเมื่อ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔, เข้าถึงได้จาก https://www.facebook.com/ (๗) ผาสุข อินทราวุธ, พุทธปฏิมาฝ่ายมหายาน, ๒๑๔. (๘) Mark Schumacher, Fudō Myō-ō 不動明王, accessed August 9, 2021, available from https://www.onmarkproductions.com/ (๙) Ibid. (๑๐) ผาสุข อินทราวุธ, พุทธปฏิมาฝ่ายมหายาน, ๒๑๔. (๑๑) Mark Schumacher, Fudō Myō-ō 不動明王. (๑๒) ผาสุข อินทราวุธ, พุทธปฏิมาฝ่ายมหายาน, ๒๑๔. (๑๓) Mark Schumacher, Fudō Myō-ō 不動明王. (๑๔) ผาสุข อินทราวุธ, พุทธปฏิมาฝ่ายมหายาน, ๒๑๔. (๑๕) The Metropolitan Museum of Art, The Boy Attendants Kongara Dōji and Seitaka Dōji, accessed August 10, 2021, available from https://www.metmuseum.org/ (๑๖) Mark Schumacher, Fudō Myō-ō 不動明王. (๑๗) ผาสุข อินทราวุธ, พุทธปฏิมาฝ่ายมหายาน, ๒๑๔. (๑๘) The Metropolitan Museum of Art, The Boy Attendants Kongara Dōji and Seitaka Dōji. บรรณานุกรม ๑. ภาษาไทย ๑.๑ หนังสือ ผาสุข อินทราวุธ. พุทธปฏิมาฝ่ายมหายาน. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์อักษรสมัย, ๒๕๔๓. มาลินี คัมภีร์ญาณนนท์. ประวัติศาสตร์ศิลปะญี่ปุ่น. กรงุเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๓๒. ๑.๒ เว็บไซต์ อาราม มหากรุณาพุทธาลัย 大悲佛殿 โรงเจวัดสว่างอารมณ์. พระอจลนาถวิทยราชา. เข้าถึงเมื่อ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔. เข้าถึงได้จาก https://www.facebook.com/ ๒. ภาษาอังกฤษ ๒.๑ หนังสือ Abbate, Francesco. Japanese Art and Korean Art. London: Octopus Books, 1972. ๒.๒ เว็บไซต์ Schumacher, Mark. Fudō Myō-ō 不動明王. accessed August 9, 2021. available from https://www.onmarkproductions .com/ The Metropolitan Museum of Art. The Boy Attendants Kongara Dōji and Seitaka Dōji. accessed August 10, 2021. available from https://www.metmuseum.org/ วันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !