สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ Nuiizthewriter จะมา รีวิว ซีรีส์ "My Liberation Notes" (ปล่อยใจสู่เสรี) ซีรีส์ล่าสุด ที่ดูแล้วจะเข้าใจคน Introvert จนอาจตกหลุมรัก รับชมทาง Netflix ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 22.30 น. รีวิวซีรีส์ My Liberation Notes (ปล่อยใจสู่เสรี) **เนื้อหาไม่สปอยล์ เหมาะกับคนที่ยังไม่ได้ดู** เรื่องย่อยอมกีจอง (พี่สาวคนโต) ยอมชางฮี (พี่ชายคนกลาง) และ ยอมมีจอง (น้องสาวคนเล็ก) 3 พี่น้อง จากหมู่บ้านซันโพที่เป็นย่านชานเมืองของเกาหลี ทั้งสามคนเกิดและเติบโตในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ใช้ชีวิตในแต่ละวันหมดไปกับเดินทางไปทำงาน โดยเร่งรีบแต่เช้าตรู่ และเลิกงานกลับบ้านมาดึกดื่น "เป็นเช่นนี้ทุกวัน" จนทำให้ทั้งสามคนรู้สึกเหนื่อยหน่าย และโดดเดี่ยว ทว่า...ชีวิตก็เริ่มแตกต่างออกไป เมื่อจู่ ๆ มีชายลึกลับปรากฎตัวในหมู่บ้าน และมาอาศัยอยู่ใกล้กับบ้านของทั้งสามคน โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร มาจากที่ไหน ชื่อจริง ๆ ของเขาคืออะไร จะเรียกกันก็แค่ว่า "คุณกู" โดยเขาใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ เมาหัวราน้ำแทบทุกวัน บางทีก็นั่งเฉย ๆ มองอะไรไม่รู้ทุกวัน ด้วยความที่ทำตัวแปลก ๆ นิ่ง ๆ ไม่ค่อยพูด และเหมือนมีความลับอะไรซ่อนอยู่...ไปดูซีรีส์เพื่อค้นหาความจริงกันดูนะคะ รีวิวซีรีส์ (Review Series)สำหรับใครที่มีโอกาสได้รับชมซีรีส์ "My Liberation Notes" (ปล่อยใจสู่เสรี) เรื่องนี้ คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ในอีพีแรก ๆ การเดินเรื่องช่างเชื่องช้าเสียจนเราเกือบเท เพราะดูจะไม่มีประเด็นหรือการปูเรื่องอะไรเลย แม้กระทั่งผู้เขียนเองก็เกือบจะเทแล้ว จนเนื้อเรื่องเริ่มทำงานของมัน คือ จะเรียกว่าเครื่องสตาร์ทติดก็เข้าสู่ Ep.3 แล้วการเดินเรื่องเล่ามาหลากหลายประเด็นที่ชวนให้ต้องดูต่อ เช่น ปริศนาของ คุณกู, ปมในใจและความลับบางอย่างของยอมมีจองที่ไม่กล้าจะบอกใคร หรือปัญหาและความสัมพันธ์ต่าง ๆ ของตัวละคร ที่ขมวดปมแบบค่อยเป็นค่อยไปช้า ๆ ตามสไตล์เรื่องนี้ ซึ่งกลับกลายเป็นเสน่ห์อีกแบบที่น่าค้นหา ทำเอาหลาย ๆ คน เฝ้าขอบจอทุกสัปดาห์เพื่อตามต่อค่ะว่า ท้ายที่สุดแล้วปริศนาจะเปิดเผย และคลี่คลายปมอย่างไรฉากหลายฉาก ทำออกมาได้ดี แสดงถึงความเรียบง่าย การใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไป การเดินเรื่องที่แทบจะใกล้เคียงกับวิถีชีวิตคนวัยทำงานของเกาหลีที่กำลังเผชิญกันอยู่จริง ๆ ถือว่าซีรีส์นี้ถ่ายทอดออกมาได้อย่างแนบเนียนอีกประเด็นที่อดพูดถึงไม่ได้สำหรับซีรีส์นี้ คือ การเล่าเรื่องที่ฉีกขนบการเล่าเรื่องสไตล์เกาหลีที่คนดูคุ้นเคย ด้วยการสร้างคาแรกเตอร์ของตัวละคร ให้มีความเป็นมนุษย์ที่สามารถจับต้องได้มากที่สุด ทั้งยังแตะโครงสร้างทางสังคมของเกาหลีระหว่างคนเมือง - คนต่างจังหวัด โดยเฉพาะวิถีคนทำงานที่มีบ้านอยู่แถบชานเมือง เช่น 3 พี่น้องที่ต้องเดินทางเข้าเมืองเพื่อไปทำงานทุก ๆ วัน ซึ่งเราจะเห็นถึงความเหน็ดเหนี่อยจากการเดินทางระหว่างชานเมืองมุ่งตรงสู่โซลที่เป็นเมืองหลวง ปัญหาการเข้าสังคมทำงานในบริษัทที่ผู้คนต้องเผชิญ และต้องก้าวผ่านปัญหาเหล่านี้ไปให้ได้ในทุก ๆ วัน ทำให้คนดูอินกับการเล่าเรื่องได้ไม่ยากนัก ถึงแม้เรื่องความรัก การหาคู่ชีวิตจะเป็นปัญหาโลกแตกของทุกคน ยิ่งกับยอมมีจองด้วยแล้วที่มีบุคลิกแบบอินโทรเวิส (Introvert) ถือเป็นกำแพงขนาดใหญ่ซะจนตัวเธอก็ไม่รู้ว่าจะข้ามผ่านมันไปได้หรือเปล่าความโรแมนติกของเรื่อง คือ การแสดงความรักที่ไม่มีการพูดคำว่า รัก ไม่มีฉากวาบหวาม แต่ตัวละครของเรื่องกลับแสดงให้เห็นถึงสิ่งนั้น ด้วยการให้คุณค่า ให้เกียรติ เอาใจใส่ และให้ความสำคัญแก่อีกฝ่ายมากกว่าตัวเอง เข้าตำราที่ว่า การกระทำสำคัญกว่าคำพูดท่ามกลางความสงสัยของคนในครอบครัวเรื่องความเป็นมาของคุณกูนั้น กลับไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่เลย แต่ค่อย ๆ ก่อร่างสร้างความรู้สึกดี ๆ แก่กัน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้สึกและรับรู้ได้ นี่เป็นสิ่งที่ผู้เขียนคิดว่า มันดูเรียล หรือ สมจริงในเรื่องความสัมพันธ์ในแบบคนจริงๆ ที่ไม่ใช่ตัวละครในนิยายหรือซีรีส์ การไม่โกหกตัวเองว่า ต่างคนรู้สึกอย่างไร และแสดงออกไปตรง ๆ อย่างนั้น แทบจะหาดูได้ยาก เพราะซีรีส์ที่ผู้เขียนเคยดู จะแสดงความรักแบบเล่นใหญ่ไฟกระพริบ เช่น การเซอร์ไพร์สคู่รักต่อหน้าสาธารณชน หรือ ตามโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งผู้เขียนเองก็ไม่ได้มองว่าผิดและไม่ได้ก้าวล่วงคนที่ชอบแสดงความรักให้สังคมเห็น เพราะความรักเป็นเรื่องของคนสองคนที่จะรับรู้และสัมผัสมันได้จากหัวใจของกันและกัน เท่านี้น่าจะเพียงพอแล้วค่ะ กลุ่มคนอินโทรเวิส (Introvert) และหลายเรื่องที่น้อยคนนัก จะรู้จักพวกเขาจริง ๆนี่เป็นความดีงามของเรื่องนี้เลยค่ะ ที่ต้องปรบมือให้กับผู้กำกับและผู้เขียนบท คือ การพาคนดูไปทำความรู้จักและทำความเข้าใจ กับคนที่มีลักษณะเป็น อินโทรเวิส (Introvert) ให้มากขึ้น แบบไม่ยัดเยียดหรือเป็นวิชาการอะไรจนยากจะเข้าใจ โดยจะเห็นได้จากฉากที่บริษัทต้องการให้พนักงานทุกคนเข้าร่วมชมรมอะไรสักอย่างหลังเลิกงาน เพื่อหวังกระชับความสัมพันธ์ของพนักงานให้แน่นแฟ้นขึ้น ทว่ากลับกลายเป็นปัญหาของกลุ่มคน Introvert เพราะกลุ่มคนส่วนใหญ่มักมองคนที่เป็น Introvert คือ คนชายขอบของสังคม หรือมองเป็นคนที่ไม่เอาสังคม เอาแต่ตัวเอง มีปัญหาทางมนุษย์สัมพันธ์ ฯลฯ ซึ่งเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ เหล่านี้ ซีรีส์จะแสดงให้เราเห็นถึงความจริงของพวกเขาว่า ท้ายที่สุดแล้วคน Introvert ก็เหมือนกับเราทุกคน แค่ต้องการพื้นที่ของตัวเอง ในแบบที่ตัวเองสบายใจ ความเข้าใจจากสังคมนี่คือประโยคหนึ่งของตัวละครที่เป็น Introvert อยากจะพูดให้ใครหลายคนเข้าใจว่าปล่อยคนไม่ชอบเข้าสังคม ให้อยู่คนเดียวต่อไปไม่ได้หรือไงนะเพราะนั่นอาจหมายถึง อิสรภาพในการเป็นตัวเอง ที่จะใช้ชีวิตในแบบของตัวเองรูปแบบหนึ่งก็เป็นได้ค่ะสำหรับใครที่ยังไม่เคยดู แนะนำว่า ลองดูนะคะ คิดซะว่า... ลองเปิดแนวการเสพซีรีส์อีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมใหม่ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ คะแนน 9.5/10 TEASER OFFICIALhttps://youtu.be/c4o1QVrhWEU รายละเอียดชื่อเรื่อง : My Liberation Notes | ปล่อยใจสู่เสรี | 나의 해방일지แนว : ชีวิต | ดราม่า ระดับความเหมาะสม : 16+ การใช้สารเสพติด, การฆ่าตัวตายจำนวนตอน : 16 ตอนเริ่มฉาย : 9 เมษายน – 29 พฤษภาคม 2565 (ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 22.30 น. เวลาเกาหลี)ช่อง : JTBCผู้กำกับ : คิมซอกยุน (ผลงาน ซีรีส์ Law School)คนเขียนบท : พัคเฮยอง (ผลงาน เขียนบทซีรีส์ My Mister) ตัวละครเด่นซอนซอกกู รับบทเป็น คุณกูชายลึกลับที่ปรากฏตัวในหมู่บ้านซันโพ ที่ครอบครัว 3 พี่น้องอาศัยอยู่ ไม่มีใครรู้จักเขา เพราะเมาทุกวัน นั่งเฉย ๆ มองอะไรไม่รู้ทุกวัน ด้วยความที่ทำตัวแปลก ๆ เป็นคนนิ่ง ๆ ไม่ค่อยพูด กลับทำให้คนยิ่งอยากทำความรู้จัก และเข้าหาอีมินกี รับบทเป็น ยอมซางฮีพี่ชายคนกลาง หนึ่งใน 3 พื่น้องจากหมู่บ้านซันโพ เป็นคนตลก มุมความเป็นเด็กเผยออกมาให้เห็น แต่การพูดจาในบางครั้งกลับชวนให้เราคิด มีมุมปรัชญาซ่อนอยู่ เปรียบเทียบได้เห็นภาพ มีความฝันหนึ่ง คือ อยากมีรถยนต์ขับ ถึงแม้ตอนเราดูอาจจะฮากับยอมซางฮีไปบ้าง แต่เอาจริงนะ ความฝันสำหรับใครบางคนมันคือที่สุดแล้วอ่ะ แค่นี้ก็ฟินแล้ว!!!คิมจีวอน รับบทเป็น ยอมมีจองน้องสาวคนสุดท้อง หนึ่งใน 3 พี่น้องจากหมู่บ้านซันโพ เป็นคนนิ่ง ๆ ไม่ค่อยพูด ฉลาด มีความคิดที่ลึกซึ้ง แต่ชอบเก็บตัว มีความขี้อาย มุ่งค้นหาความอิสรเสรีของชีวิต และรู้สึกอยากถูกเติมเต็มด้วยการมีใครสักคนก่อนถึงฤดูหนาวอีเอล รับบทเป็น ยอมกีจองพี่สาวคนโต หนึ่งใน 3 พื่น้องจากหมู่บ้านซันโพ เป็นคนร่าเริง ชอบเข้าสังคม คุยเก่ง เบื่อการเดินทางไปทำงานที่โซลในทุก ๆ วัน รู้สึกหมดหวังกับการรักใครสักคน อีคีอู (Lee Ki-woo) รับบทเป็น โจแทฮุนพ่อลูกติด 1 คน เป็นคนไม่ค่อยพูด มีโลกส่วนตัวสูง เพื่อนร่วมงานในออฟฟิศเดียวกับยอมมีจอง"My Liberation Notes" ปล่อยใจสู่เสรี รีวิวซีรีส์ 2022 ที่ดูแล้วจะเข้าใจคน Introvert มากขึ้น จนคุณอาจตกหลุมรักหมายเหตุ : ขอขอบคุณ ภาพหน้าปก และภาพประกอบบทความจาก JBTC ภาพที่ 1 | ภาพที่ 2 | ภาพที่ 3 | ภาพที่ 4 | ภาพที่ 5 | ภาพที่ 6 | ภาพที่ 7 | ภาพที่ 8 | ภาพที่ 9 | ภาพที่ 10 | ภาพที่ 11 | ภาพที่ 12 | TEASER OFFICIAL จาก Netflix Thailand บทความแนะนำ- รีวิวซีรีส์ Forecasting Love and Weather (พยากรณ์วันนี้ มีรักบางแห่ง)- รีวิว Business Proposal (นัดบอดวุ่น ลุ้นรักท่านประธาน)- รีวิวซีรีส์ Tomorrow (พรุ่งนี้) พร้อมเปิดวาร์ปนักแสดง- อุโมงค์ทางเดินใต้ดินหน้าวัดพระแก้ว (อุโมงค์วัดพระแก้ว)- รีวิว บุฟเฟ่ต์ Baiyoke Buffet จองง่าย โปรเลิศที่ klook- 4 ที่เทียวใกล้กรุงเทพ ไม่ไปถือว่าพลาด!!!- รถไฟลอยน้ำ "เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์"- นั่งรถไฟเที่ยวอยุธยาภายใน 1 วัน (Ayutthaya One day trip)- นั่งรถไฟเที่ยว หัวหิน สวนสนประดิพัทธ์- นั่งรถไฟ เที่ยวใกล้กรุงเทพ สมุทรสาคร ไป เช้า - เย็น กลับ- เทียวใกล้กรุงเทพ "พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ" ช้างสามเศียร สมุทรปราการ- สวนป่าเบญจกิติ กรุงเทพฯ โฉมใหม่- พาส่อง SiamScape ชั้น 10 สวนลอยฟ้าใจกลางสยาม (SkyScape)เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี!