สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้เป็นวันหยุดผู้เขียนก็อยากไปออกไปหาที่นั่งเปลี่ยนบรรยากาศ พักผ่อนสมองกันบ้างไหน ๆ ก็เครียดกับการทำงานมาทั้งอาทิตย์กันแล้ว ผู้เขียนอยากมองหาคาเฟ่ท่ามกลางธรรมชาติและก็หากาแฟดื่มด่ำกับบรรยากาศสักแก้ว ทำให้มองหาคาเฟ่เพื่ออ่านหนังสือดี ๆ ให้อาหารสมองกันบ้างคงดีไม่น้อย หลังจากหาข้อมูลว่าจะไปร้านไหนดี? ก็มาสะดุดกับคาเฟ่ในย่านบางมดที่เป็นสวนผลไม้เก่ามาเกือบร้อยปีมาแล้ว หลังจากนั้นก็ปักมุดจีพีเอสมาที่ร้านกันเลย หลังจากจอดรถก็เดินลัดเลาะสวนเพื่อเข้าไปในร้าน บรรยายกาศในร้านเป็นไม้ไผ่แบบ Open air ผู้เขียนเดินชมบรรยาศท้องร่องในสวนอย่างเพลิดเพลิน ท้องร่องจะพบเห็นได้เฉพาะในภาคกลางของประเทศไทยเท่านั้นที่ทำสวนในลักษณะนี้ ที่นี่เป็นสวนลิ้นจี่เก่าแก่ตั้งแต่อดีต เมื่อเจ้าของสถานที่อยากให้คนได้เรียนรู้เรื่องราวของสวนผลไม้ที่นี่มีมาตั้งแต่สมัยรัตน์โกสินทร์ มีการค้าขายผ่านคลองบางขุนเขียน และอยากให้เรียนรู้วิถีชุมชนของคนในคลองแห่งนี้ ที่มึความผูกพันกันแม่น้ำตั้งแต่อดีตจึงยังคงอนุรักษ์ไว้จนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน การได้เดินในสวนแห่งนี้บางครั้งก็ไม่คิดว่าเราอยู่ในกรุงเทพมหานคร เมืองแห่งและความวุ่นวายและเต็มไปด้วยความศิวิไล และการจราจลที่หนาแน่นตลบอบอวลไปด้วยเขม่าควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์และฝุ่นของมลพิษที่ก่อสร้างอยู่ทุกวันนี้ แต่พอมาอยู่ ณ สวนแห่งนี้ทำให้ผู้เขียนรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก พลอยทำให้นึกถึงบรรยากาศในชนบทมากกว่าที่เป็นเมืองหลวงแห่งนี้ โต๊ะนั่งในร้านมีที่นั่งให้สามารถหย่อนขาสบาย ๆ ไม่ ใครชอบแบบไหนก็สามารถเลือกแบบที่ชอบกันเองนะหรือใครอยากนั่งในสวนก็สามารถมีที่ให้นั่งนะ มีสะพานข้ามท้องร่องให้นั่งชิว ใครชื่นชอบการถ่ายรูปอัพลง IG อย่าพลาดมา check in กันเลยรับรองเพื่อน ๆ อิจฉากันแน่ ๆ นอกจากต้นลิ้นจี่ยังเห็นต้นเคราฤาษีรอบ ๆ บริเวณสวนแห่งนี้ยิ่งทำให้มีเสน่ห์เพิ่มมากขึ้น แขวนตามต้นลิ้นจี่เต็มละลานตาไปใหม่ เดินชื่มชมบรรยากาศสุดแสนประทับใจ กลับมานั่งที่โต๊ะ เห็นเด็กสองพี่น้องนั่งคุยกันน่ารักน่าเอ็นดู บรรยากาศชวนให้นึกถึงสมัยวัยเด็กของผู้เขียนกันเลย ที่ต้องไปเล่นตามหนองน้ำในชนบท เก้าอี้นั่งก็ทำจากไม้ไผ่คลุมตรีมเข้ากันมาก ได้เวลามานั่งจิบกาแฟเย็นคาปูชิโน่หอม ๆ ของกาแฟสดที่คั่วบดใหม่ ๆ รสชาติกลมกล่อมไม่หวานมาก ฟองนมก็นุ่มละมุนลิ้นมาก ดื่มแล้วทำให้รู้สึกสดชื่นกับช่วงบ่าย สุขใจนักเชียว นั่งจิบกาแฟดูเด็กสองพี่น้องที่มากับคุณพ่อคุณแม่โต๊ะข้าง ๆ ชี้ชวนกันไปนั่งเล่นที่สะพานไม้เล็กข้ามท้องร่องช่างเป็นอะไรที่น่ารักยิ่งนักเด็ก ๆ คงชอบน่าดู ใครอยากนั่งพิงหลังสบาย ๆ บนเก้าอี้ไม้ไผ่เอนหลังก็ดีไม่ใช่น้อย ถือว่าเป็นคาเฟ่แห่งใหม่ที่ในดวงใจกันเลย คงต้องแวะเวียนกันมาบ่อยขึ้นแน่นอน เพราะประทับใจในสถานนี้แห่งนี้ท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวขจีไปด้วนต้นไม้แบบวิถีท้องร่องสวน คราวหน้าจะขอลองไปนั่งโซนริมคลองบางขุนเทียนบาง แต่ตอนนี้ขอไปดื่มกาแฟแล้วก็ให้เพลิดเพลินกับภาพตรงหน้าก่อนนะคะ ราคากาแฟเริ่มต้นที่ 90 บาทถือว่าไม่แพงเลยกับบรรยากาศแบบนี้ >. FB:Natura garden cafe พิกัด จอมทอง 19 ซอยพระราม 2 แยก 18 กรุงเทพ Open Daily 10:00-18:00 ภาพโดย รูปที่ 1 FB Natura cafe , FB Natura cafe และรูปที่ 5 รูปที่ 2,3,4,6 โดยผู้เขียน และรูปที่ 5 FB Natura cafe