งบน้อยก็เที่ยวได้ ประหยัด ได้ความรู้และความสุขทางใจด้วย สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวการเที่ยวแบบ One Day Trip ง่ายๆ ในกรุงเทพฯ นะคะ สถานที่ในทริปนี้ก็คือ คลองบางหลวง ท่าพระฝั่งธนนี้เองค่ะ การเดินทาง ทางเข้าฝั่งถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 3 ถ้ามาจาก BTS สถานี ตลาดพลู แล้วอาจจะเดินย้อนไปออกทางตรงข้ามเดอะมอลล์ท่าพระ จะมีรถเมล์วิ่งไปสนามหลวงหรือสายที่ผ่านเส้นจรัญสนิทวงศ์ อันนี้จำไม่ค่อยได้ต้องขออภัย จากปากซอย (หน้าปากซอยมี 7-11 ข้างๆ มีร้านก๋วยเตี๋ยวและตอนเย็นจะมีร้านรถเข็นขายยำปูม้าอร่อยมาก 55 ปากซอยมีบริการรถสองแถวราคาประมาณ 5 หรือ 7 บาท จำไม่ได้จริงๆ และรถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง 10 บาท เข้ามาสุดซอยจะมีสะพานให้เดินข้ามข้างๆทางขึ้นยังมีร้านก๋วยจั๊บอร่อยไปอีก (คนแถวนั้นสุดยอดมากที่ขับมอเตอร์ไซค์ข้ามกันเพราะสะพานชันมาก) ทางเข้าฝั่งถนนเพชรเกษม ซอย 20 จอดรถที่วัดกำแพง - ทางเข้าฝั่งถนนเพชรเกษม ซอย 28 หากใครมาจาก BTS ลงสถานี บางหว้า เรียกแท็กซี่โล้ดค่ะ ถ้าขับรถมาจอดรถที่วัดคูหาสวรรค์ แนะนำว่าควรใช้ Google Maps ในการนำทางเพราะถ้าไม่เคยมาจะงงๆ เพราะซอยเยอะ - หรืออีกทางเลือกมาจากวงเวียนใหญ่หรือบางพลัดจะมีรถกระป้อคันเล็กๆ คนแถวนี้นเค้าเรียกนะ ผ่านแน่นอน ราถูกด้วย ลงฝั่งท่าพระก็เดินข้ามสะพานลอยมา ลงหน้าซอย จรัญสนิทวงศ์ 3 ก็ตามสะดวก และเร็ว ๆ นี้การเดินทางคงง่ายขึ้นเนื่องจากจะมีการเปิดบริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ – ท่าพระ อีกด้วย สะดวกไปอีก “คลองบางหลวง” เกล็ดความรู้ของสถานที่นี้ก็คือ “คลองบางหลวง” หรือคลองบางกอกใหญ่เป็นคลองย่อยที่เชื่อมตรงออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยกรุงธนบุรี บรรดาข้าราชการ ขุนนางได้มาตั้งถิ่นฐานริมคลองเพื่อให้ใกล้พระราชวัง จึงเรียกคลองแถบนีว่า "คลองข้าหลวง" ต่อมาเรียกสั้นๆว่า "คลองบางหลวง" ปัจจุบันคลองบางหลวงย่านตลาดเก่า ได้พลิกฟื้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยกลุ่มศิลปินได้รวมตัว ก่อตั้ง"บ้านศิลปิน" เพื่ออนุรักษ์วิถีชีวิตชุมชนริมคลอง ให้กลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เชื้อชาติ ศาสนา และประเพณี ดังจะเห็นได้จากสถาปัตยกรรม บ้านเรือน โบราณสถาน รวมถึงชุมชน เก่าในอดีตที่ตั้งอยู่หนาแน่น ทั้งสองฝั่งคลอง ให้เป็นที่ศึกษาเชิงอนุรักษ์และรำลึกย้อนหลังประวัติศาสตร์ชุมชนริมคลองในอดีต และพี่ๆ ศิลปินยังใจดีมากๆเลยนะคะ เห็นล่าสุดมีการจัดตั้งกลุ่มศิลปิน 2 สมัยอีกต่างหาก น่าชื่นชมค่ะ ใครสนใจลองไปติมงานศิลปะของพี่ๆเค้าได้เลยนะคะ หากเพื่อนๆสนใจในประวัติศาสตร์สามารถไปหาอ่านเพิ่มเติมได้เลยค่ะ สนุกดีนะ ศึกษาประวัติศาสตร์ไทย หรือใครที่เคยดูเรื่องแม่พลอยสี่แผ่นดินก็คงพอจะคุ้นๆชื่อสถานที่นี้ค่ะ และที่สำคัญยังมีอะไรให้น่าค้นหาอีกเยอะเลย จุดแรกต้องนี่เลยค่ะ บ้านศิลปิน บ้านศิลปิน เป็นบ้านเก่าของ "ตระกูลรักสำรวจ" ตระกูลช่างทองเก่าแก่ ซึ่งทายาทรุ่นสุดท้ายได้ขายบ้านหลังนี้ ให้กับคุณชุมพลอักพันธานนท์ เพื่อปรับปรุงให้เป็น สถานที่แสดงงานศิลป์ เป็นที่รวมตัวของของ กลุ่มศิลปินที่รัก งานศิลปะ บ้านศิลปินเป็นอาคารไม้ทรงมะนิลารูปตัวแอลที่สร้างล้อมรอบเจดีย์เก่าซึ่ง เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง สันนิษฐานว่าเป็นหนึ่งในสี่ของเจดีย์แต่ละทิศที่กำหนดเขตพื้นที่เก่าของวัด กำแพง ด้านบนของตัวอาคารเปิดเป็น แกลเลอรี่ แสดงงานล้อมรอบเจดีย์เก่าซึ่งเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง สันนิษฐานว่า เป็นหนึ่งในสี่ของเจดีย์แต่ละทิศ ที่กำหนดเขตพื้นที่เก่าของวัดกำแพง ภายหลังอาคารหลังนี้ได้ถูกปรับปรุงใหม่โดยกลุ่มศิลปิน เพื่อเป็นที่รวมตัวของผู้ที่ ทำงานและรักงานศิลปะ บ้านศิลปินนั้นยังเปิดให้ชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ก็แอบคิดในใจ เก็บก็ไม่เสียดายเงินนะเพราะสิ่งมีค่าขนาดนี้อยากจะร่วมอนุรักษ์ไว้ให้อยู่คู่กับประเทศไทยไปนานๆ มุมบนสะพานระหว่างทางไปบ้านศิลปิน หุ่นละครเล็กคลองบางหลวง ที่บ้านศิลปิน จะมีการแสดงหุ่นละครเล็ก คณะคำนาย “กลุ่มศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่ทรงคุณค่าประดุจดั่งทองคำ” การแสดงหุ่นละครเล็กจะเปิดให้เข้าชมฟรี โดยมีการปรับพื้นที่บางส่วนภายในบริเวณบ้านให้เป็นลานวัฒนธรรมและเปิดการแสดงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ชมกันทุกวัน แต่มีเพียงรอบเดียวเท่านั้น คือ เวลา 14.00 น. ยกเว้นวันพุธ และคณะคำนายยังเปิดอบรม สอนการรำโขนให้เด็กนักเรียนและบุคคลที่สนใจมาเรียนได้ในช่วงเย็นโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอีกด้วยนะคะ นับเป็นสิ่งที่ดีที่ควรอนุรักษณ์ไว้ นอกจากศิลปะการแสดงหุ่นละครเล็ก ยังมีมุมขายของที่ระลึกให้ได้เลือกซื้อโปสต์การ์ด ภาพถ่ายสวยๆ ผลงานศิลปะ และมีมุมร้านกาแฟให้สั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบเพลินๆ พร้อมนั่งชมวิวทิวทัศน์ริมคลองและวิถีชีวิตของชาวบ้านที่เรียบง่ายริมน้ำซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยาก มุมเหงาๆ ยามเย็นที่บ้านศิลปิน เมี่ยงคำที่บ้านศิลปิน อร่อยมาก นอกจากนั้น ที่คลองบางหลวงมีร้านอาหารน่ารักเยอะมาก แถมยังอร่อยแทบทุกร้านเลยนะ เสียดายที่ไม่มีรูปถ่าย มัวแต่อร่อย 55 ใครที่กลัวไม่มีของกิน กลัวไม่อร่อย ไม่ต้องกลัวจ้า อร่อยหลายร้าน เลยมาแนะนำร้านอร่อยๆ ที่ไปลองชิมมาหมดแล้วจ้า เช่น - ร้านผัดไทโบราณ ร้านอยู่ซอยเดียวกับสะพานเลยอร่อยมาก - ร้านในบ้านศิลปิน ก็อร่อยมากๆ ข้าวแกง บางทีก็มีเมี่ยงคำ โอย อร่อย - ร้านเลยมาจากผัดไทนิดนึงร้านข้าวเกรียบปากหม้อ บางทีก็มีข้าวคลุกกะปิ ไม่หวงเครื่องได้เยอะแถมอร่อยสุดๆ - ร้านข้างๆกัน ร้านก๋วยเตี๋ยวหยุดบ่อย ต้องพึ่งดวงล้วนๆ เพราะนอกจากอร่อยแล้วยังหนุดบ่อย55 ปล.เส้นเกียมอี๋น้ำใสหมู อร่อยโครต ไปลอง - ตรงข้ามกันร้านกาแฟโบราณ ใส่ถุงมัดด้วยยางรัดแกง เก๋ไปอีกกกกก อร่อยราคาถูก - ร้านข้าวข้างๆกาแฟ อาหารตามสั่งได้เยอะ อร่อยด้วยไม่แพง แอดชอบกินผัดกระเพราะปลาหมึก อิอิ - ร้านข้าวหน้าเป็ด-กระหรี่ปั๊บ เด็ด อร่อย ทำเอง อร่อยเวอร์ - ร้านตรงสะพานฝั่งบ้านศิลปิน ก็มีก๋วยเตี๋ยวอร่อย แถมยังได้นั่งชมน้ำชมเรือให้อาหารปลาแบบสุดๆ ฟิน - ร้านส้มตำ จะขายตรงทางเดินไปบ้านศิลปิน เป็นแบบขายหน้าบ้าน ลุ้นๆเอาว่าเปิดไหม แต่อร่อยแม่ค้าเป็นคนลาวแท้ๆ อร่อยมาก คอนเฟิร์ม - ยังมีร้านข้าวอีกหลายร้านเช่นร้านเลยบ้านศิลปินไปอีกหน่อยตรงวัดกำแพง อร่อยแถมยังนั่งชมเรือโบกมือให้ต่างชาติชิลๆ ด้วยนะและขออภัยหากบอกไม่หมด เยอะมากอร่อยทุกร้านเลย - ร้านกาแฟ อีกร้านเด็ดแน่นอน เจ้าของร้านน่ารักมีเอกลักษณ์ดีแถมยังใจดีด้วย ร้านคาเฟ่บอสซ่า อิอิ แอบรู้จักเจ้าของร้านไปอีก ไม่ได้ค่าโปรโมทแต่อย่างใด ชื่นชอบพี่เจ้าของร้านล้วนๆ สั่งกาแฟไป พูดคุยกับพี่เค้าไปเรื่องการเดินทางการท่องเที่ยวถามพี่เค้าได้รับลองจะอึ้งและชื่นชมเหมือนเรา หลังจากที่กินอะไรอิ่มแล้ว ก็ไปเดินเล่นบริเวณนั้นได้นะคะ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะเลย หรือใครจะไปนั่งเรือชมคลองบางหลวงก็ได้ค่า คูลแน่นอน วิถีชีวิตริมคลองบางหลวง มองไปก็ยิ้มไป อยากย้อนกลับไปเป็นเด็ก เดินเลาะฝั่งริมน้ำไปเรื่อยๆ ช่วงเย็นๆ จะเจอหนุ่มน้อยมากระโดดน้ำกัน พร้อมมีเจือแจวผ่านไปมา บางทีมีเพลงเก่าๆ คลอมาเบาๆ ไกลๆ จากบ้านคนแถวนั้น ทำให้เหมือนอยู่ในอดีตสมัยแอดยังเป็นคุณแย้ม 55 ไม่ก็อารมณ์แฟนฉันอะไรแบบนี้ อดหยิบกล้องมาถ่ายรูปไม่ได้ มุมนี้หากมาจอดรถบริเวณวัดคูหาสวรรค์ ตรงมุมกำแพงวัดจะมีร้านเย็บผ้าอยู่ร้านนึง คุณลุงใจดี ทุกๆ วันแกจะเปิดเพลงเก่าๆ คลาสสิกจริงๆ เย็บผ้าไปฟังเพลงไป จรรโลงใจ ฮิปๆ เก๋ไม่หยอก ทางเดินชุมชนคลองบางหลวงระหว่างทางไปวัดกำแพง น้องแมวริมคลอง ตาสีฟ้าสวย ใครว่างๆ ก็ไปเที่ยวกันได้นะไปง่าย ไม่ยาก เที่ยวกรุงเทพในอีกมุมมองที่ต่างไปจากเดิม ได้เห็นวิถีชีวิตของคนที่อยู่ริมคลองเก่าแก่ ชีวิตของศิลปินที่ทำงานเพื่อสังคม เสน่ห์ของชุมชนที่น่ารักๆ เสพงานศิลปะและปล่อยใจให้ชิลๆ ในวันหยุด