สวัสดีเหล่านักอ่านทุกคนนะครับ ทุกการเดินทางแน่นอนว่าก็ต้องมีค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าเข้าชม ฯลฯ แต่ด้วยความที่คนอยากเที่ยวนั่นแหละครับ ยังไงก็คงต้องเที่ยวให้ได้ แต่ว่าเราเองก็สามารถวางแผนการเดินทางให้เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดได้ เช่นเดียวกับผมที่ช่วงนี้อยากไปไหว้พระทำบุญ และอยากไปเยี่ยมชมวัดสระเกศซักหน่อย ผมเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ไปเที่ยววัดสระเกศด้วยงบไม่เกิน 1000 บาท ไม่สิ อาจไม่ถึง 100 บาทด้วยซ้ำ พร้อมทั้งรีวิวบรรยากาศของการไปวัดในครั้งนี้มาฝากผู้อ่านทุกคนกันครับเรื่องราวการเดินทางของผมครั้งนี้ เริ่มจากผมเดินทางด้วยรถเมล์สาย 511 จากซอยกิ่งเพชรหรือเพชรบุรีซอย 10 มาลงที่นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ซึ่งค่าโดยสารก็ตกที่ 20 บาทครับ ซึ่งถือว่าถูกมากเลยเมื่อถึงนิทรรศน์รัตนโกสินทร์แล้ว วัดแห่งแรกที่เราจะได้เจอเลย นั่นก็คือวัดราชนัดดาราม อันเป็นที่ตั้งของโลหะประสาทนั่นเอง ซึ่งผมก็ได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมโลหะประสาทและไปไหว้พระที่นี่เช่นกัน ซึ่งบรรยากาศภายในวัดจะเป็นยังไง ผมขอยกไปรีวิวในบทความหน้านะครับ แฮะๆเนื่องจากวัดราชนัดดากับวัดสระเกศมันไม่ห่างกันมาก ผมเลยเลือกใช้วิธีเดินทางด้วยการเดินครับ ระหว่างทาง เราจะเดินผ่านป้อมมหากาฬ ผ่านเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และสะพานข้ามคลองมหานาค เดินต่อไปนิดนึง ก็ถึงทางเข้าวัดสระเกศราชวรมหาวิหารแล้วครับวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นวัดที่มีอายุโบราณมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้วครับ ภายในวัดมีสิ่งก่อสร้างสำคัญมากมาย ซึ่งหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่ถือว่าเป็น unseen หลักเลย ก็คือสุพรรณบรรพต หรือภูเขาทอง ที่สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ข้างบนมีเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าเอาไว้ครับเมื่อถึงวัดแล้วนะครับตรงเชิงเขา ก็จะประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์และมีซุ้มโพธิ์อธิษฐานที่ให้คนมาเสริมชะตาของตัวเองครับ ตรงบริเวณทางขึ้นภูเขาทองจะมีเคาน์เตอร์เก็บค่าเข้าชมอยู่ ซึ่งคนไทยนั้น สามารถขึ้นได้ฟรี แต่ว่า ชาวต่างชาติจะตกที่ 100 บาทครับระหว่างทางขึ้นเขาช่วงแรก มีการตกแต่งด้วยต้นไม้ น้ำตก และรูปปั้นต่างๆ ทำให้พอเดินผ่านแล้วให้ความรู้สึกร่มรื่น ประกอบกับบริเวณดังกล่าวก็มีการพ่นละอองน้ำฝอยเพื่อสร้างความชุ่มชื่นบริเวณโดยรอบไปด้วย ทำให้พอเดินผ่านแล้ว ก็ให้ความรู้สึกชุ่มชื่นดีครับ ซึ่งระหว่างทางที่ขึ้นเนี่ย ก็จะมีระฆังให้เราได้ลั่นตลอดเวลา พร้อมทั้งยังมีเสียงพระสงฆ์มาเทศน์ที่เปิดตามลำโพงให้เราได้ลิ้มรสพระธรรมระหว่างทางเดินมาได้ซักพัก ก็มาถึงชั้นบนสุดแล้วครับ ซึ่งหากใครเหนื่อยจากการเดินขึ้นภูเขาเนี่ย ทางวัดก็มีร้านขายน้ำบริเวณชั้นบนสุดไว้บริการให้นักท่องเที่ยวซื้อมาดื่มคลายเหนื่อย อีกทั้งยังมีที่นั่งให้บริการอีกด้วยครับชั้นบนสุดนี้ ประดิษฐานพระพุทธรูปหลากหลายองค์ รวมถึงพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าด้วยครับ โดยผมเนี่ย ได้ทำบุญให้แก่ทางวัดด้วยการ 20 บาท ด้วยการซื้อดอกบัวและธูปเทียนมาไหว้พระพุทธรูปครับ ซึ่งบริเวณดังกล่าว ก็มีทั้งพุทธศาสนิกชนซึ่งเป็นคนไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาไหว้พระและมาเยี่ยมชมกันเยอะแยะเลยครับหลังจากไหว้พระแล้ว ภายในภูเขาทองก็มีจุดเสี่ยงเซียมซีด้วย ใครที่อยากรู้ว่าดวงหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ก็มาลองเสี่ยงเซียมซีได้นะครับและหลังจากไหว้พระแล้ว เรายังสามารถขึ้นมาชั้นบนสุดเพื่อมาไหว้เจดีย์ พร้อมทั้งชมวิวกรุงเทพโดยรอบ 360 องศาได้เลยครับ ซึ่งบอกเลยว่าเราสามารถมองเห็นกรุงเทพสุดลูกหูลูกตา และจากวิวนี้ เรายังสามารถมองเห็นวัดราชนัดดารามวรวิหารได้ด้วยครับหลังจากลงมาจากภูเขาทองแล้ว ตัววัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปหลวงพ่อโต หลวงพ่อดำ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่มากกกกก แน่นอนว่าผมก็แวะมากราบไหว้ท่านซักหน่อยเพื่อเสริมความสิริมงคลให้ตัวเองซักหน่อยวัดสระเกศ เป็นวัดที่มีตำนานที่เล่าสืบต่อกันมานานอย่างตำนานแร้งวัดสระเกศ ซึ่งเป็นตำนานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การระบาดของโรคอหิวาตกโรคในอดีต ทำให้มีคนตายจำนวนมาก และเนื่องจากสมัยก่อน การจะลำเลียงศพไปเผานอกเมืองได้ จะต้องผ่านประตูผีและเนื่องจากวัดสระเกศอยู่ใกล้ประตูเมืองดังกล่าว ทำให้ศพถูกลำเลียงมาวางที่วัดเป็นจำนวนมาก นั่นเป็นเหตุทำให้พวกแร้งมาจิกกินซากศพนั่นเอง พอได้ยินแล้ว ก็ทำเอาผมขนลุกเหมือนกันนะครับ 5555หลังจากที่เที่ยวจนเหนื่อยแล้ว ก่อนกลับ ผมก็แวะซื้อน้ำเฉาก๊วยที่วัดภูเขาทองซักหน่อย ราคาแก้วละ 20 บาทเองครับ รสชาติถือว่าหวานอร่อย ดื่มแล้วชุ่มคอดีครับหลังจากเที่ยวเสร็จแล้ว ผมก็นั่งรถเมล์สาย 511 เพื่อกลับไปยังที่พักครับ โดยผมขึ้นรถเมล์ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ค่าโดยสารก็ตกอยู่ที่ 20 บาทเช่นเดียวกับขามาครับ ถือเป็นการจบทริปเที่ยววัดสระเกศแต่เพียงเท่านี้ครับทริปการมาเที่ยววัดของผมในครั้งนี้ มีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 80 บาทถ้วนครับ แบ่งเป็นค่าเดินทางไปกลับ 40 บาทค่าทำบุญ 20 บาทค่าน้ำเก๊กฮวย 20 บาทครับพิกัดสถานที่ : ริมคลองมหานาคและคลองรอบกรุง แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯการเดินทางสามารถนั่งรถเมล์มาลงที่วัดภูเขาทอง โดยนั่งรถเมล์สาย 8 ปอ., 8, 15, 37, 47 และ 49 นอกจากนี้ ยังสามารถนั่งรถเมล์มาลงที่นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ โดยนั่งรถเมล์สาย 2, 12, 15, 47, 59, 60, 68, 70, 79, 503, 509, 511, 556 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 600 เมตรครับที่มาภาพปกและภาพประกอบ : KyojuroRengoku (ผู้เขียน)บทความหมวดท่องเที่ยวเรื่องอื่นๆ ของผู้เขียนรีวิวสวนสัตว์พาต้า สวนสัตว์ใจกลางเมืองแห่งสุดท้ายในกรุงเทพตะลอนส่องอุทยานการเรียนรู้ TK PARK แหล่งรวมหนังสือและ co-working space สำหรับทุกคน #มันสนุกมากชวนชมบอลลูนดอกไม้ในงาน ART FOR LOVE @สามย่านมิตรทาวน์ ตั้งแต่วันนี้- 28 ก.พ. 2023เดินชมงานออกแบบปังๆ แบบตะโกนในงาน Bangkok Design Week 2023 @ สารัตถะ & เฮาส์ ออฟ ผัสสะนอกจากบทความนี้แล้ว เหล่านักอ่านทุกคน สามารถติดตามบทความอื่นๆ ของผมได้ในเพจ KyojuroRengoku ผมยังมีบทความดีๆ ที่จะมอบให้ผู้อ่านทุกคนได้อ่านกันนะครับ ^_^ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !