ในช่วงโรคระบาดโควิด19 ทั้งประเทศไทยเราและทั่วโลก มีเรื่องราวที่ดีและไม่ดีเกิดขึ้นมากมาย เรื่องอะไรที่ดีก็ยิ้มรับไว้ ส่วนเรื่องร้าย ๆ ต่าง ๆ ก็ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ ให้เรียนรู้เพิ่มสกิลชีวิตกัน ที่ผู้เขียนได้โยงไปเรื่องโควิด19 นั้น เนื่องมาจากได้ไปออนทัวร์ที่ "วัดพระศรีรัตนศาสดาราม" หรือ "วัดพระแก้ว" วัดคู่บ้านคู่เมืองประเทศไทย ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก แต่ถ้ารู้จักและไม่เคยไป นี่สิจะแปลกเหมือนตัวผู้เขียน ว่าไปแล้ว วัดพระแก้ว นี้ เป็นที่ขนานนามของคนทั่วโลก ที่อยากมาสักการะและสัมผัส ชมประติมากรรมความงดงาม ส่วนตัวเราก็ถือว่าช่วงเวลานี้ช่างเหมาะนัก ที่จะใช้เวลานี้ได้ไปสัมผัสกับเค้าบ้าง ไม่รอช้า...ผู้เขียนจะแนะนำไทม์ไลน์การเข้าชมกันเลย เผื่อใครอยากแกะรอยประวัติศาสตร์ก็ตามมากันเลย การเดินทาง ไทม์ไลน์ของผู้เขียน ได้นำรถส่วนตัวมา จึงใช้เส้นทางมาจอดทิ้งไว้ยังที่ ท่ามหาราช คอมมูนิตี้มอลล์ใกล้ ๆ ท่าพระจันทร์ และสามารถเดินต่อไปที่ยังวัดพระแก้วได้เลยไม่ไกลกันมาก แต่ถ้าใครที่ขี้เกียจเดิน สามารถเรียกพี่ตุ๊ก ๆ หรือแท็กซี่บริเวณใกล้เคียงได้ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว เป็นพระอารามหลวงชั้นพิเศษ เป็นที่ประดิษฐาน พระมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในปี พ.ศ. 2325 นับดูว่ากี่ปีมาแล้ว จะบอกว่าของจริงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ถึงแม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป แต่ที่นี่ยังดูใหม่ สวยงามและชวนให้น่าเข้าไปเยี่ยมชมมาก ๆ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ให้ความสำคัญกับการแต่งกายก่อนเข้าไปเยี่ยมชมเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการเคารพต่อสถานที่ จึงห้ามสวมเสื้อแขนกุด สายเดี่ยว เสื้อล่อแหลม เสื้อขาด มีลวดลาย หรือเสื้อที่เปิดไหล่ทุกชนิด, ห้ามสวมใส่กางเกงขาสั้น กางเกงขาด ส่วนกระโปรงก็ต้องไม่สั้นจนเกินไป แนะนำให้เลยหัวเข่าลงมา ส่วนรองเท้าก็ควรเป็นรองเท้าสุภาพหุ้มส้น แต่ยุคนี้ถ้าสะดวกใช่ชุดแบบผ้าไทยมาได้ แบบที่เนื้อผ้าไม่ร้อนมาก แนะนำแต่งตัวสไตล์ไทยเดิมมาเก็บภาพสวย ๆ กันดีกว่า ทางเข้าวัดพระแก้ว ตอนนี้นี้มีทางเข้าอยู่ประตูเดียว คือ ประตูวิเศษไชยศรี ทุกคนต้องมาเข้าประตูนี้ และผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิ สแกนแอปไทยชนะก่อน จึงจะผ่านเข้าไปชั้นในได้ พอผ่านการตรวจเรียบร้อย เข้าไปก็จะเห็นป้ายกฏระเบียบต่าง ๆ ภายในวัด ซึ่งที่นี่จะให้ความสำคัญมาก ๆ พอใกล้เข้าไปถึงชั้นในของวัด ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกำลังจะได้เห็นภาพประวัติศาสตร์อย่างไงอย่างงั้น และแล้วความรู้สึกที่ได้สัมผัสก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ คำว่า " วิจิตร " นั้นคงจะน้อยไป สถานที่แห่งนี้ นิยามได้ว่า สวย สะอาด สงบ และทรงคุณค่า เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แบบสัมผัสได้ด้วยใจ ผู้เขียนได้เข้าไปสักการะ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต เคยเห็นแต่ในโทรทัศน์ ของจริงสวยแบบงามสง่า เรียบง่าย แต่ทรงคุณค่าหาคำบรรยายไม่ได้ ได้แต่ปิติอยู่ในใจ ทั้งในอุโบสถก็สวยงามไปด้วยภาพฝาผนัง ผู้เขียนไปวันธรรมดา ข้างในคนค่อนข้างน้อย ซึ่งได้สอบถามได้ความว่าเดิมจะมีทัวร์มาลง ที่ยืนไหว้แทบจะไม่มี แต่คราวนี้ได้เข้าไปกราบถึงชั้นด้านหน้าพระแก้วมรกต และได้นั่งทำสมาธิอยู่พักหนึ่ง ซึ่งเป็นบุญมาก ๆ สำหรับผู้เขียนที่ได้มาท่องเที่ยวครั้งนี้ นี่เป็นแค่ภาพส่วนหนึ่งของความสวยงาม ของ วัดพระแก้ว อยากชวนให้มาเห็นด้วยตาจริง ๆ เป็นสถานที่คุ้มค่าแก่การมา และมาช่วงนี้ขอบอกว่า สบายและสะดวกสุด ๆ หาเวลาชวนคุณพ่อคุณแม่มากันนะ ผู้เขียนรับรองได้เลยว่า อิ่มใจกลับบ้านกันไปแน่นนอน เวลาทำการ ที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวัน ( ยกเว้นแต่วันที่มีพระราชพิธีต่าง ๆ ) เปิด-ปิด 08.30-15.30 น. โดยคนไทย ไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถแสดงบัตรประชาชนได้ที่ทางเข้า ชาวต่างชาติ เสียค่าเข้าชม 500 บาท การเดินทางด้วยรถสาธารณะ สาย 123, 15, 19, 203, 30, 32, 33, 43, 44, 47, 503, 51, 512, 53, 6, 64, 65, 70, 9, 91,ปอ.พ.25 PHOTO : Sunday Morning #วัดพระแก้ว #เที่ยววัดพระแก้ว #พระแก้วมรกต #Amazingthailand #ไหว้พระ9วัด #ท่ามหาราช #เที่ยวช่วงโควิด