ไหว้พระวัดดังกรุงเทพฯ ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้...หาดูได้ยากบอกเลยเจ้าค่ะ กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของไทยที่มีชาวต่างชาติมาเยือนมากมายติด Top list destinations ในเรื่องของพื้นที่ทางเศรษฐกิจและความโดดเด่นในการบริการผ่านกงล้อของการท่องเที่ยว เปี่ยมล้นไปด้วยทั้งคนไทย และชาวต่างชาติจ้อกแจ้กจอแจ แต่อย่างไรก็ดี...นับว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ที่ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ หรือหลายหัวเมืองต่าง ๆ ของไทยขาดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เคยหลั่งไหลเข้ามาเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 แต่กระนั้นก็เถอะ เอ้าฮึบบบบบ !!!!! ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ประเทศไทยเราเองก็นับว่าเป็นหนึ่งในหลายประเทศทั่วโลกที่สามารถรับมือและป้องกันการระบาดครั้งนี้ได้ในขั้นต้น งั้นในเมื่อช่วงนี้ไม่ได้มีชาวต่างชาติเข้ามา เราไปลองเที่ยวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ในวันนี้จะแนะนำเที่ยววัดดังในกรุงเทพฯ เพื่อไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคลให้ตัวเอง ครอบครัว และดวงเมืองเราด้วยบรรยากาศสงบอันหาดูได้ยาก แถมไปนั่งสุดชิวกับคาเฟ่ยอดนิยมที่ใคร ๆ ชอบไปกันเถอะ ! เราสามารถเริ่มต้นโดยการนั่งเรือชิวแล่นมาที่วัดอรุณ ค่าโดยสารเรืออยู่ที่ราคาประมาณ 15-30 บาท ในสถานที่วัดอรุณในช่วงนี้ก็จะเงียบสงบ มีคนแต่คนไทยเป็นส่วนมาก และแน่นอนว่าในบริเวณวัดมีให้บริการชุดไทยด้วย เช่น ผ้าถุง เอาไว้ใส่ถ่ายรูปสไตล์เป็นไทยเชียวนะเอิงเอย... นอกจากนี้ก็ยังมีโซนให้อาหารปลาด้วย โดยค่าอาหารปลาจะนำไปให้กับมูลนิธิต่าง ๆ นับว่าได้บุญ 2 เด้งกันเลยทีเดียวทั้งในแง่การทำสมาธิและการให้ทาน ก่อนที่เราจะอธิษฐานจิตถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น โดยธรรมเนียมวิถีของศาสนาพุทธก็จะมีบทสวดโดยทั่วไปใช่มั้ยล่ะ อะอ๊า….แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องเดินหาให้เมื่อยขาว่าบทสวดอยู่ตรงไหนของวัด นางฟ้าน้อยจัดบทสวดคำขอขมาบูชาพระรัตนตรัยมาให้แล้ว เพื่อน ๆ เซฟเอาไว้ใช้สวดกันได้เลย มาต่อกันเลยนะเจ้าคะ นั่นก็คือ วัดโพธิ์ โดยเราสามารถนั่งเรือข้ามจากวัดอรุณมาได้เลย โดยค่าบริการเรืออยู่ที่ประมาณ 5-15 บาท ในบริเวณวัดก็จะมีหลายจุดให้เราเข้าเยี่ยมชมได้ แน่นอนว่า หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อคำว่า ยักษ์วัดโพธิ์ใช่มั้ยล่ะ เพราะนี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เหมือนกันสำหรับยักษ์ 2 ตนที่จะยืนขนาบข้างประตูทางเข้าวัด ช่างเป็นสถาปัตยกรรมไทยที่วิจิตรเสียนี่กระไร ! เอาล่ะ…มาวัดแล้วอากาศมันอาจจะร้อน ไม่ใช่ร้อนเพราะบาปกรรมอันใด แต่ก็เพราะอากาศประเทศไทยนั่นเอง ถึงจะมาช่วงหน้าฝน หน้าหนาว เราก็ไม่พ้นแสงแดดที่สาดให้ผิวแทบจะเป็นสีแทน งั้นเรามานั่วชิว ๆ ถ่ายรูปเล่นกันต่อที่คาเฟ่ Blue Whale ละกัน นับว่าเป็นคาเฟ่ที่หลายคนชอบมา ด้วยสไตล์การตกแต่งร้านให้เป็นโทนสีฟ้าน้ำทะเล และเพิ่มกิมมิคด้วยการตกแต่งผนังเหมือนเกล็ดหางนางเงือก เรียกได้ว่าเหมือนเข้าไปอยู่ใต้ท้องทะเลกันทีเดียว ทางร้านก็จะมีอาหารและเครื่องดื่มบริการที่หลากหลายได้เลือกตามความชอบเลย ขอทิ้งท้ายสักนิดนึงนะเจ้าคะ อันที่จริงที่เล่ามาทั้งหมดเป็นเพียงบรรยากาศบางส่วน ยังมีส่วนอื่นซึ่งสามารถเยี่ยมชมได้อีก และนอกจากนี้ก็มีที่เที่ยวอื่นอีกในกรุงทพฯ วันนี้เอาไปก่อน 2 วัด กับนั่งเล่นคาเฟ่เบา ๆ สำหรับคนรีบไปรีบกลับเหมือนต้องรีบไปเก็บผ้าราวอารมณ์ฝนจะตก แล้วยังไงขอให้สนุกกับการเดินทาง และได้บุญกันถ้วนหน้านะจ๊ะ... เครดิตรูปภาพโดย: นางฟ้าน้อย