เมื่อประมาณยี่สิบปีที่แล้ว ญี่ปุ่นมีภาพยนตร์ผีเรื่องหนึ่งที่สร้างกระแสความหวาดกลัวในกับประเทศ ด้วยเนื้อเรื่องสุดสยองที่ว่าด้วยความแค้นฝังลึกของแม่ลูกหนึ่งซึ่งถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมด้วยสามีของตัวเธอเอง ความหลอนสั่นประสาทนั้นขยายวงกว้างให้กับวงการหนังเอเชีย ในประเทศไทยเรารู้จักหนังเรื่องดังกล่าวในชื่อ จูออน ผีดุ ปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ไม่นาน Hollywood ก็รู้จักหนังเรื่องนี้และได้มีการซื้อลิขสิทธิ์ไปทำใหม่ออกมาถึงสองภาค ในบทความนี้ผมจะกล่าวถึงภาคใหม่ล่าสุดที่ถูก Hollywood สร้างขึ้นและเขาฉายในไทยเมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมาขอขอบคุณภาพประกอบบทความจาก facebook /TheGrudgeMovieThe Grudge บ้านผีดุ เล่าเรื่องความอาฆาตที่พยายามสานต่อเนื้อหาโดยเชื่อมโยงกับหนังของทางฟากญี่ปุ่น โดยเล่าเรื่องหลากหลายของช่วงเวลาผ่านบุคคลมากมายที่เข้าไปเกี่ยวข้อง โดยมีตัวหลักอย่างนักสืบ Muldoon (มอลดูล) ที่สามีเพิ่งตายจากโรคมะเร็งไปเมื่อสามเดือนก่อน เธอตัดสินใจพาลูกย้ายที่อยู่เพื่อหลีกหนีความบอบช้ำทางใจมาทำงานอีกเมือง ซึ่งในพื้นที่ดูแลใหม่เกิดเหตุพบศพเน่าเปื่อยอยู่ในรถยนต์คันหนึ่งที่หาที่มาที่ไปไม่ได้ จนเธอได้พบความเกี่ยวข้องของศพกับครอบครัวในบ้านหลังหนึ่ง คู่หูใหม่ของเธอรู้ตื้นลึกหนาบาง จึงเตือนไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยว ทว่าเลือดนักสืบทำให้มอลดูลตัดสินไปหาครอบครัวนั้นถึงบ้านเพื่อสอบถาม แต่เธอกลับพบศพที่สองและเหตุการณ์สยองขวัญที่ตามมาไม่หยุด ทุกอย่างมันเกี่ยวโยงพัวพันกันไปหมดโดยมีบ้านหลังนั้นเป็นจุดศูนย์กลาง มอลดูลต้องหาทางรู้ความจริงและจบปัญหานี้ก่อนที่ความตายจะมาพรากลมหายใจของเธอไป ต้องขอออกตัวไว้ก่อนเล็กน้อยว่า ผมจำเนื้อหาแบบละเอียดของทั้งทางฟากญี่ปุ่นและทางฝั่ง Hollywood ไม่ได้แล้ว ที่จดจำได้แน่ชัดคือพล็อตหลักของเนื้อเรื่องที่เหมือนกันคือ หญิงสาวคายาโกะและลูกชายวัยประถมนามโทชิโอะ ถูกสามีฆ่าตาย ทำให้เธอกลายเป็นผีร้ายที่สถิตอยู่ในบ้าน เมื่อใดก็ตามที่มีคนเข้ามาเหยียบบ้านหลังดังกล่าว จะโดนวิญญาณของเธอและลูกตามจองล้างจองผลาญจนสุดท้ายเอาชีวิตไปขอขอบคุณภาพประกอบบทความจาก facebook /TheGrudgeMovieในตัวหนังภาคใหม่มีความน่าสนใจหลากหลาย เริ่มจากอย่างแรกที่ผมเกริ่นไว้คือ นี่ไม่ใช่หนังที่สร้างบทใหม่แต่เป็นการพยายามสานต่อเนื้อหาเดิมโดยการเชื่อมโยงตัวผีจากญี่ปุ่นมาในอเมริกา ซึ่งแม้จะเป็นการเชื่อมที่มีเพียงเล็กน้อยแต่ก็เห็นได้ชัดว่าเคารพในต้นฉบับพอควร ในขณะเดียวกันเมื่อเรื่องถูกเล่าในอเมริกา ตัวหนังก็พยายามสร้างเอกลักษณ์ของตนเองให้มีแบบเฉพาะ อะไรที่คนดูภาคเก่า ๆ จดจำได้ ในภาคนี้ก็มีการปรับประยุกต์ให้ต่างไป เปรียบได้เหมือนเหล้าใหม่ในขวดเก่า ซึ่งบางมุกก็เข้าท่ามาก ทำให้รู้สึกหวั่นใจตามบรรยากาศที่เรื่องปูไว้ แต่ก็มีหลายส่วนที่ทำให้ดูไปรู้สึกไปว่า อิหยังวะ ในใจเล็ก ๆ เช่น มุกมือโผล่ออกมาจากศีรษะในตอนสระผม ถ้าเป็นเวอร์ชั่นเก่า ๆ คนที่เจอจะเป็นผู้หญิง แต่ครั้งนี้เป็นผู้ชายแทนด้วยโทนหนังถูกบอกชัดว่าเป็นแนวสยองขวัญ ความหลอนต่าง ๆ ในเรื่องถือว่าทำออกมาได้ในระดับดีครับ สิ่งที่ชอบคือตัวหนังยังใส่เส้นสืบสวนทำให้ความลึกลับของเรื่องผีดูเร้นลับหาจนแม้เราจะรู้ที่มาที่ไปแล้วก็ตามตั้งแต่ต้นเรื่อง แถมรวมไอเดียเดิม ๆ จากภาคเก่าก่อนจนทำให้เรียกว่าพอจะรู้ทางละ แต่ตัวหนังก็ยังทำให้รู้สึกชวนลุ้นชวนติดตามตัวละครหลักอย่างมอลดูลให้เธอได้เข้าใจกับเบื้องหลังความจริงและเอาใจช่วยให้เธอผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ขอขอบคุณภาพประกอบบทความจาก facebook /TheGrudgeMovieในส่วนของหนังแสดง ผมคุ้นหน้าสองคน คือ John Cho กับ Lin Shaye ซึ่งแสดงได้ดีทั้งคู่ คนแรกผมชอบส่วนตัวจากผลงานเรื่องเก่าอย่าง Searching (เสิร์ชหา สูญหาย) ส่วนคนหลังเธอเคยแสดงหนังสยองแบบนี้มาก่อนแล้ว ในเรื่องนี้บทบาทของเธอยิ่งตอกย้ำความเป็นไอคอนหนังผีได้อย่างดีเยี่ยม ผู้กำกับคือ Nicolas Pesce ซึ่งร่วมเขียนบทในเรื่องนี้ด้วยกล่าวถึงข้อดีไปเยอะ ขอเล่าถึงข้อเสียเล็กน้อย จะว่าเป็นข้อเสียก็ไม่เชิงเสียทีเดียว คือด้วยหนังมีความเป็นหนังสืบสวน จะมีชั้นเชิงการเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ตัดสลับอดีตกับอดีตที่เก่ากว่าและปัจจุบันแบบรวดเร็ว ทำให้ในการดูตอนต้น คนที่ไม่คุ้นชินก็จะมีความมึนงง ไม่เข้าใจเล็กน้อยและอาจทำให้เสียจังหวะในการติดตามไปพอควร เพราะฉะนั้นจึงอยากบอกไว้ก่อนที่ทุกคนจะดูหนังเรื่องนี้สรุป หนังเรื่องนี้มีชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่ซับซ้อนพอควร มีจังหวะการหลอกที่น่ากลัวและดำเนินบรรยากาศความหลอน รวมกับไอเดียความสยองแบบใหม่ได้ดีไม่น้อย ใครมองหาหนังผีหลอน ๆ ดูสักเรื่องและมีใจชอบเรื่องจูออนมาก่อน เรื่องนี้เหมาะกับคุณครับ ดูได้ให้ชวนคิดถึงเวอร์ชั่นเก่า ๆ แบบเพลิน ๆ ครับ ขอขอบคุณภาพประกอบบทความจาก facebook /TheGrudgeMovie