Pieta in the Toilet หรือ Toire no Pieta トイレのピエタ 2015 เป็นภาพยนต์ที่เขียนถึงด้วยความ คาใจ เพราะ ไม่เข้าใจ ดูครั้งแรกหาคำตอบไม่ได้ ก็ดูมันซ้ำๆ แต่ทิ้งช่วงเวลาห่างกัน จนถึงตอนนี้ผ่านมาเกินปี ก็ยังรู้สึกว่าคาใจในบางจุด แต่บอกเลยว่า คงต้องแล้วแต่บุคคล บางคนดูแล้วเข้าใจ แต่สิ่งที่ดึงให้เราอยู่กับมันจบได้ทุกรอบคือ มันมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก จากต้องการหาคำตอบ เป็นกลายเป็นยิ่งดูยิ่งเห็นเสน่ห์ของเรื่องนี้ เนื้อหาเล่าถึงตัวเอก 3 คนในเรื่อง ต่างมีปัญหา หนึ่งคนมีปมชีวิตและอยากตาย และ 2 คนคือคนที่ป่วยใกล้ตาย ทั้ง 3 คนต้องมาเจอกันแบบไม่ได้ตั้งใจแต่กลับกลายเป็นความเข้าใจ หนังทำให้เราเหมือนดูเรื่องราวทั้ง 3 คนผ่านการใช้ชีิวิตในแต่ละวัน ความรู้สึกของคนที่มีัปัญหา ความรู้สึกของคนที่รู้ว่าจะต้องตาย และยังมีความรู้สึกที่เป็นทั้งบวกและลบ จากคนป่วยด้วยโรคเดียวกัน ต้องตายเหมือนกัน มันถ่ายทอดออกมาได้แบบมีชั้นเชิง แม้จะไม่เข้าใจกับตอนสุดท้ายที่พระเอกของเรื่องวาดรูป Pieta ไว้ในห้องน้ำก็ตามที และมันเป็นจุดที่ทำให้เราค้นหาหลังดูจบรอบแรกว่า Pieta มีความหมายอย่างไร Cr. imdb นักแสดง จากรูปที่นำมาประกอบ คือนักแสดงหลัก ต้องบอกเลยว่าเป็นจุดเด่นจริงๆ โดยเฉพาะตัวเดินเรื่องหลัก 3 คนเพราะดึงให้เราอยู่กับหนังได้จนจบทุกรอบ ยิ่งดูยิ่งเห็นเสน่ห์ของนักแสดงที่เรียกว่าแคสมาได้ดีจริงๆ Yojiro Noda นักแสดงที่เข้ากับบท แสดงเหมือนไม่แสดง เป็นนักแสดงที่เรียกได้ว่านอกกระแสของแฟนซีรีย์บ้านเรา แต่เขาดังในวงการเพลงพอสมควรกับการเป็นสมาชิกวง Radwimps ที่เคยมาแสดงในไทย และเพลงก็สุดติ่งกับแนวร๊อคอัลเทอร์เนทีฟ แถมยังเป็นคนที่ทำเพลงให้ อนิเมะดังๆ อย่าง your name และ อีกหลายเรื่อง จากบทหนุ่มจิตรกรที่มีพรสวรรค์ แต่เป็นโรคมะเร็งใกล้ตาย ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ที่เขาพยายามหาความหมายในตัวตนหาความหมายในชีวิตเลื่อนลอยแต่สุดท้ายก็ว่างเปล่า ทำให้เขาได้รับรางวัล Rookie of the Year 2016 จากภายนต์เรื่องนี้ Hana Sugisaki กับบทสาวน้อยวัยมัธยม ที่ไม่ยากทนกับปัญหาครอบครัวที่หลงมาเจอกับหนุ่มใกล้ตาย แต่สุดท้ายก็กลายเป็นความรู้สึกดีๆต่อกัน กับบทในเรื่องนี้คือเป็นตัวละครที่สุดโต่งในความคิด และ การแสดงออก และนักแสดงก็ทำได้ดี ดึงเสน่ห์ของตัวละครออกมาได้แบบน่าหมั่นไส้ แต่น่าสงสารไปพร้อมๆ กัน พร้อมกับพฤติกรรมที่อดคิดไม่ได้ว่า จะสุดโต่งปานนั้นแถมหน้านิ่งจนรู้สึกว่า เป็นตัวละครที่ด้านชาจนเกินวัย Lily Franky นักแสดงมากความสามารถ และถือเป็นนักแสดงชั้นครูของญี่ปุ่น รวมทั้งยังมีความสามารถอื่นๆอีกหลายด้าน เป็นยอมรับในวงการบันเทิงของญี่ปุ่นมาก และเขาถือเป็นครูอีกคนของ ยามะพี ( โทโมฮิสะ ยามาชิตะ เพราะครอบครัวสนิทกันมาก ) กับบทลุงป่วยโรคมะเร็งใกล้ตายสุดหื่น คือเล่นเนียนจนต้องบอกว่า ลุงหื่นได้ใจจริงๆ ตีบทแตกละเอียดยิบ กับการเป็นคนแก่ที่รอวันตาย แต่ยังมีอารมย์ขัน อารมย์ของความเป็นปุถุชนคนธรรมดาผ่านอะไรมามากมายและเรียนรู้ที่อยู่จนถึงวันสุดท้าย Cr. imdb ความน่าสนใจ คือการดูเรื่องราวชีวิตของคน 3 คน ที่มีอะไรที่ไมเ่หมือนกัน ครอบครัว จิตใจ ฐานะ อายุ ความคิด สิ่งที่เจอมาและสิ่งที่จะต้องเจอในอนาคต หนังทำให้เราต้องคิดตาม แต่มันก็ทำไมเราไม่เข้าใจ แต่ในความไม่เข้าใจมันก็ทำให้เราอยู่กับหนังได้จนจบ มันมีอะไรบางอย่างที่ดึงให้เราต้องตามว่า บทสรุปทั้งสามคนจะเป็นแบบไหน ตัวละครแต่ละตัว มันจับต้องได้ มันมีจริงๆ หนังไม่ได้นำเสนอแบบ จะตายแล้วต้องหาสัจธรรมก่อนตาย ต้องทำอะไรทิ้งไว้บนโลก คือนำเสนอความรู้สึกของคนจะตายมันหดหู่ งานก็ต้องออก คนมาเยี่ยมก็ใส่หน้ากากมาหา กลับบ้านหาครอบครัวก็เหมือนเคว้งคว้างในความรู้สึกทั้งๆที่ครอบครัวคือที่พึ่งสุดท้าย คือมันหมดแล้วทุกสิ่ง อยู่โรงพยาบาลก็เจอแต่คนป่วย มองไปทางไหนมันไม่ช่่วยอะไรสักอย่าง คนที่เข้าใจสุดท้ายก็ต้องแยกจากกัน มันคือเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ เอาความหดหู่ ความสิ้นหวังมาเล่าผ่านนักแสดงหลัก ซึ่งถ่ายทอดออกมาได้ดีสุดๆ แม้ว่าบางช่วงบางตอน ดูแล้วไม่ค่อยเข้าใจ ถ้าคุณอยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้ มันมีเสน่ห์แค่ไหน มีอะไรค้นหาจริงไหม ลองหามาดูกันแล้วจะได้คำตอบ