คงได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า ควรพาลูกไปพบมอฟันทุกหกเดือน สำหรับเด็กทั่วไปบางคนก็เป็นเรื่องยากนะคะ แต่เด็กที่มีความต้องการพิเศษยิ่งยากไปกว่านั้น ซึ่งกว่าจะหาสถานพยาบาลที่เข้าใจในพฤติกรรมที่เกิดจากความเจ็บป่วยของเด็กก็ใช้เวลา แต่เมื่อพบโรงพยาบาลสำหรับเด็กพิเศษแล้ว เราจึงอยากแชร์ต่อ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับครอบครัวอื่น ๆ ต่อไปนะคะสำหรับบ้านที่กำลังมองหาสถานที่ทำฟันสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เราขอแนะนำ “คลินิกทันตกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับแฟลตดินแดงขั้นตอนการรับบริการสำหรับผู้ป่วยใหม่ง่ายมากค่ะลงทะเบียนผู้ป่วยใหม่ผ่านระบบออนไลน์ (ระบบนัดผู้ป่วยใหม่ออนไลน์ สถาบันราชานุกูล) กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ซึ่งระบบนี้เราสามารถเลือกวัน เพื่อทำคิวนัดหมายในการไปพบคุณหมอได้ หลังจากลงทะเบียนแล้วระบบจะคอนเฟิร์มวันนัดหมาย รวมทั้งเอกสารที่ต้องนำมาในวันนัดเมื่อถึงวันนัดหมาย ไปให้ตรงตามวันและเวลานะคะ เตรียมเอกสารเกี่ยวกับผู้ป่วยใหม่ไปให้ครบถ้วนนะคะ คือ สูติบัตร สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชนของพ่อแม่ สำเนาบัตรผู้พิการ ฯลฯ ที่สำคัญอย่าลืมบัตรประชาชน บัตรผู้พิการ หรือบัตรสามสิบบาท ตามสิทธิในการเบิกของแต่ละคน ผู้ที่ต้องการทำฟันให้เตรียมแปรงสีฟันและยาสีฟันไปด้วยนะคะจุดแรกที่ต้องไป คือ อาคารผู้ป่วยนอก ชั้น 1 ติดต่อที่เคาท์เตอร์ผู้ป่วยใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะจัดเตรียมเอกสารที่เราลงทะเบียนไว้ให้แล้วนะคะ ผู้ปกครองตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง และกรอกข้อมูลบางส่วนเพิ่มเติม และยื่นเอกสารที่เตรียมมาจากบ้านให้แก่เจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่จะส่งผู้ปกครองและเด็กไปยังจุดต่าง ๆ เช่น วัดส่วนสูง/น้ำหนัก/ความดันโลหิต ซักประวัติคนไข้ พบเภสัชกรเพื่อบันทึกข้อมูลการใช้ยา พบเจ้าหน้าที่เพื่อบันทึกข้อมูลครอบครัว จากนั้นก็รอคิวเพื่อพบคุณหมอ OPD ผู้เป็นเจ้าของไข้ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของเด็ก พร้อมให้คำแนะนำในการดูแล ในส่วนนี้หากต้องการทำกิจกรรมบำบัด/ฝึกพูด/พบสหวิชาชีพ/วัดไอคิว/ทำฟัน ผู้ปกครองสามารถแจ้งคุณหมอได้เลยค่ะ ในส่วนของเรามีความประสงค์จะทำฟัน คุณหมอเจ้าของไข้จึงส่งต่อไปยังคลินิกทันตกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งอยู่ในอาคารใกล้เคียงกันเมื่อมาถึงคลินิคทันตกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ เจ้าหน้าที่จะมีสองตัวเลือกให้เรานะคะ คือ รอ โดยอาจจะได้เป็นคิวสุดท้ายของวัน ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณผู้ป่วยที่มาตามนัดด้วยนะคะ หรือนัดหมายทำฟันในวันต่อไป โดยในวันนั้นจังหวะดีมากที่ได้เป็นคิวสุดท้ายของวัน เราพาลูกอ่านหนังสือรอประมาณชั่วโมงกว่าก็ได้พบทันตแพทย์เจ้าของไข้ คุณหมอจะมาซักประวัติการเจ็บป่วย การผ่าตัด การแพ้ยา ในส่วนนี้ผู้ปกครองสามารถเสริมเรื่องพฤติกรรมของลูกที่จะเป็นอุปสรรคต่อการทำฟันได้นะคะ เช่น กลัวเสียงดัง ช่างต่อรอง ฯลฯ จากนั้นคุณหมอจะให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตในการตรวจรักษาฟันในห้องทำฟันคุณหมออนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าไปได้ คุณหมอและทีมงานรวม 3 คน ซึ่งทุกคนใจดีมากกกกกกก มีการพูดคุยเรื่องสนุกสนานให้เด็กฟังตลอด ทำให้บรรยากาศในห้องค่อนข้างผ่อนคลาย ใช้เวลาไม่นานก็ทำฟันเสร็จ เพราะไม่มีฟันผุ มีเพียงหินปูนที่จับกันหนาแน่นเท่านั้น นอกจากนี้ คุณหมอยังให้คำแนะนำเด็กและผู้ปกครองในการดูแลรักษาความสะอาดของฟัน แล้วนัดหมายพบกันครั้งต่อไปอีก 3 เดือนข้างหน้า คุณหมอ และเจ้าหน้าที่ของสถาบันราชานุกูล จิตใจดีมากเลยนะคะ พูดจาด้วยความใจเย็น มีน้อง ๆ เด็กพิเศษหนุ่มสาวที่มีพัฒนาการที่ดีคอยเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ เช่น เดินเอกสาร และนำทางครอบครัวผู้ป่วยไปยังจุดต่าง ๆ รวมทั้งบรรยากาศที่ทุกครอบครัวมีความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน ทำให้พ่อแม่ที่มีลูกงอแง ซุกซน หรือวิ่งวุ่นเพราะอาการเจ็บป่วยของโรคไม่รู้สึกกดดันเหมือนเวลาที่พาลูกไปโรงพยาบาลทั่วไป สำหรับครอบครัวที่กำลังมองหาสถานพยาบาลเพื่อทำฟันให้แก่ลูกที่มีความต้องการพิเศษ หรือพาลูกมาพบคุณหมอเพื่อบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยทางด้านพัฒนาการ ขอแนะนำสถาบันราชานุกูล ที่เดียวจบ ครบทุกการรักษา สวัสดีค่ะเครดิตภาพประกอบภาพปกโดยแอปฯ Canvaภาพที่ 1 ภาพ Google Earthภาพที่ 2 ภาพจากเว็บไซต์สถาบันราชานุกูลภาพที่ 3 ภาพโดยผู้เขียนภาพที่ 4 ภาพโดย freepic.diller จาก Freepikอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !ชวนแต่งแฟนซี หลอน สวย เซ็กซี่หรือสร้างสรรค์ ถ่ายภาพหรือวิดีโอ แล้วโพสต์ที่ TrueID Community ห้อง "13 สยองขวัญ"สำหรับผู้ที่ยอดกดไลค์สูงสุด 5 อันดับแรกอันดับที่ 1 : (ต้องมียอดไลค์เกิน 150 ไลค์) เงินรางวัล 3,000 บาทอันดับที่ 2-5: (ต้องมียอดไลค์เกิน 50 ไลค์) เงินรางวัล รางวัลละ 1,000 บาท (รวม 4 ท่าน 4,000 บาท)STAR COVER ส่งภาพเข้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 65 ถึง 3 พฤศจิกายน 65***