ประสบการณ์ต่อมาก็คือ...รีวิวเที่ยวเล่น Night Market หน้าการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า กกท. จะบอกว่าก็มีโอกาสเดินเที่ยวมาบ้างเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยได้รีวิวที่นี่อย่างจริงจังนัก เพราะกลับหอดึก ตลาดวายก่อนที่จะได้หาอะไรหิ้วกลับหอ ครั้งนี้ก็ได้มารีวิวในตัวซะเลย ภาพนี้ถ่ายจากมุมสะพานลอย ได้เห็นเต็นท์ที่วางเป็นซุ้มใครซุ้มมัน นั่นก็แปลว่าวันนี้มีตลาด ปกติจะเปิดตลาดแทบทุกวัน ยกเว้นเสียว่าจะมีบางวันที่ไม่ได้เปิด ช่วงที่ไม่มีตลาด บอกตรง ๆ ว่าโคตรเงียบ และโคตรมืดเอาการ แต่พอวันที่มีตลาดรู้สึกว่าคึกคัก ดูสดใสยามค่ำคืนดี เวลาเริ่มมีตลาด ช่วงบ่ายสองหรือบ่ายสามจะตั้งเต็นท์กันบ้างแล้ว แต่พอสี่ทุ่มเมื่อไหร่...ตลาดเริ่มวายแล้ว ขออภัยพี่เสื้อส้มทั้งสองอย่างยิ่ง 555 ไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายติดหน้าเขาจริงจริ๊งงง นี่มาตลาดช่วงสามทุ่มยังคึกคักพอสมควร ถ้าถึงเวลาเก็บก็จะลากรถเข็นกับตู้เหล็กสำหรับเก็บของ เอาง่าย ๆ คือถ้าขายของหมดหรือใกล้เวลากลับ ร้านนั้นก็เก็บก่อนใครเลยล่ะ ส่วนผู้เขียนเองก็ได้โรตี (สั่งแบบธรรมดา กล้วย ช็อกโกแลต ราคา 30 บาท) ชานมไข่มุกแก้วละ 24 บาท และมาลัยดาวเรืองพวงเดียว พวงละ 10 บาท ตรงแถวสะพานลอย วันนี้วันพระซะด้วย บริเวณที่ติดหน้าพี่เสื้อส้มสองคนนั้น เป็นโซนของกิน มีทั้งเครื่องดื่ม อาหารคาวหวาน พอเดินเข้าไปนั้นกลิ่นความแซ่บยั่วน้ำลายมาต้อนรับ โซนนั้นมีทั้งร้านยำและส้มตำ เอาง่าย ๆ ส้มตำราคา 40-50 บาท ถ้าแถมความเป็นทะเลด้วยเรทราคาจะมากกว่านั้น ส่วนยำขึ้นอยู่แต่ละร้าน บางร้านก็ 40 บาท บางร้านก็ 50 บาท เสียดายที่ตังไม่พอ ไม่นั้นฟาดเรียบแน่นอน จากนั้นเดินมาลึกหน่อยก็เป็นโซนเครื่องใช้ มีทั้งเสื้อผ้า ไอที เครื่องสำอาง กระเป๋า รองเท้ามือสอง ในโซนเครื่องใช้งบพอประมาณสำหรับคน ตจว. แต่ไม่ได้สังเกตราคาเลยว่าราคาเท่าไหร่ เพราะมัวแต่มุ่งหาของกินเป็นหลัก ใครต้องการซื้อแบบพอดีงบสามารถมาด้านหลังได้เลยถ้าอยากได้ในโซนนั้น โดยส่วนตัวนิยมของกินมากกว่า โดยเฉพาะชอบกินซีฟู้ดมาก แต่ราคาสูงอยู่ ถ้าเป็นปูที่เห็นตามร้านอื่น ประมาณราคาได้ก็ 100 บาท และไม่ได้ซื้ออะไรไปเกี่ยวกับซีฟู้ดเลย ซื้อแค่ตามที่บอกเบื้องต้นไปเท่านั้น อาหารละแวกนั้นตอบโจทย์กลุ่มมุสลิมมาก ๆ เพราะคนในละแวกนี้ส่วนมากนับถืออิสลาม อาหารที่นี่ต้องฮาลาล (Halal) หลังจากนั้นก็มานั่งรถบริการของ กกท. จะเปิดบริการในยามค่ำคืน บริการจนกว่าตลาดจะปิด จะรับส่งตามประตู 2,4,5 ขอบอกเลยว่านั่งฟรี เฉิ่มได้ตลอดทาง จะลงก็ลง หรือจะนั่งเฉื่อย ๆ ก็นั่งไปไม่มีใครว่า ใครขี้เกียจเดินไกล เมื่อยขาก็นั่งได้ เพราะรถนี้มาเพื่อบริการช่วงนี้โดยเฉพาะ มาทีนึกว่า Disco เคลื่อนที่เลยนะนั่น มีทั้งไฟทั้งเพลง รถจะพาทัวร์รอบราชมังคลากีฬาสถาน แล้วอ้อมไปตามสมาคมกีฬาต่าง ๆ เช่นผ่านลอนเทนนิส สมาคมเอ็กซ์ตรีม สมาคมยูโด สมาคมเทควันโด พอรถมาที่ประตู 4 ผู้ที่โดยสารกับรถร่วมบางส่วนอาจจะลงที่ประตู 4 ซึ่งเป็นโซนหลังราม (ประตู 5 ก็เช่นกัน) ส่วนใครไม่ลงก็นั่งต่อ ผู้เขียนเองก็นั่งต่อ ไม่ลงไปหลังราม จนกระทั่งผ่านที่พักนักกีฬา 200 เตียงกับ 300 เตียง สนามยิงธนู จนกระทั่งวนกลับมาที่เดิม บริเวณหน้าการกีฬาแห่งประเทศไทย ตอนเย็นวิวสวยมาก ถ้าไม่ติดที่บริเวณใกล้เคียงมีก่อสร้าง มีขยะอยู่รอบ ๆ การจราจรแออัด จะให้คะแนนเต็มสิบเลย เสียตรงถ้าจัดการขยะเป็นสัดส่วนมากกว่านี้ คงจะได้มานั่งที่ตรงนี้ด้วยความสะอาด เจริญหูเจริญตาบ้าง แถวที่คนนั่งไม่ว่าจะใกล้ไกล ไม่ควรมีถังขยะส่งกลิ่นใกล้บริเวณนี้มาก ถ้าจะให้ดีควรมีที่ไม่ตรงกับคนนั่งแถวนั้นเกินไป (อันนี้ทัศนคติส่วนตัว ทั้งนี้อยู่ที่จิตสำนึกของคนด้วยเรื่องความสะอาด กินแล้วเก็บไปทิ้ง) ควรวางถังขยะที่เหมาะสม ควรอยู่ตรงไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ติดกับที่คนนั่งกับองค์พระ เพราะที่ตรงนี้ใคร ๆ ก็สามารถมากางปิกนิกแบบครอบครัวได้เลย ตามภาพที่เห็นคือมีบางส่วนมานั่งกินแถวนี้บ้าง เป็นภาพปกติที่คนนิยมมานั่งเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ถ้ายิ่งดึกมาก ๆ ตรงนี้ยุงก็เยอะเช่นกัน แถวนี้ใครมีซอฟเฟลบ้าง ขอฉีดยุงหน่อย ยุงกัดแล้ว แต่เรื่องการจัดไฟ ถือว่าเหมาะสมมากกับตลาดแห่งนี้ จะได้ช่วยเรื่องความปลอดภัยระดับหนึ่ง แถวนั้นต้องระวังการกรีดกระเป๋า ลักทรัพย์ หรือมิจฉาชีพทุกรูปแบบ แต่ก็ประมาทไม่ได้ ไม่ว่าไปที่ไหนก็ควรระมัดระวังในการไปไหนมาไหน ไม่ใช่แค่ที่นี่ที่เดียว อันนี้ก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะทุกคน :) หมายเหตุ รูปทุกรูปรีวิวเอง ถ่ายเองทั้งหมด ใช้เพื่อเป็นสื่อในการเสนอบทความนี้เท่านั้น ใครจะก็อปภาพกรุณาขออนุญาตผู้เขียนก่อนนะจ๊ะ...พลีสสส